19 เม.ย. 2020 เวลา 11:09 • สุขภาพ
วันนี้เห็นคนใน Facebook บ่นกันเยอะว่าค่าไฟแพงขึ้นแบบทะลุทะลวงกันมาก บางบ้านค่าไฟขึ้นไปเป็น 5,000-7,000 บาท (ซึ่งบ้านผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ของผมเดือนที่แล้ว 4,000 กว่าบาท เดือนนี้ขึ้นมาเป็นเกือบ 7,000 บาท ทั้งๆที่ไลฟ์สไตล์ก็เหมือนเดิมไม่ได้ทำอะไรมากมาย)
คืออยากจะอธิบายนิดนึงว่าการไฟฟ้าเขาไม่ได้เข้ามาโกงมิเตอร์ หรือฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าไฟฟ้าแต่อย่างใดนะครับ การไฟฟ้านั้นคิดค่าไฟบ้านเรากันแบบอัตราก้าวหน้ามาตลอดเวลาตั้งแต่แรกเริ่มอยู่แล้ว บ้านไหนใช้เยอะ ก็ต้องจ่ายเงินเยอะ ยิ่งหน้าร้อนอย่างนี้ผมว่าก็ไม่ผิดอะไรถ้าค่าไฟมันจะขึ้น เพราะทุกบ้านก็เปิดแอร์เหมือนกันหมด
ยิ่งเราเจอสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ระบาด ต้องกักตัวกันอยู่บ้านตัวเองมาตั้งแต่ช่วงกลางมีนาคมจนเกือบจะหมดเมษายนนี้ เราอยู่กันแต่ในบ้านเป็นหลักตั้งแต่เช้ายันเย็น และกลางคืนเข้านอน ย่อมมีโอกาสที่จะเปิดแอร์มากขึ้น ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมากขึ้น
2
เครื่องกรอง เครื่องฟอกอากาศที่เราใช้ๆกันอยู่เนี่ยบ้านละ 2-3 เครื่องไม่ใช่ว่ามันประหยัดไฟนะครับ และต่อให้แอร์เราเป็นแบบประหยัดไฟเบอร์ 5 อะไรนั่นก็ไม่ได้แปลว่าจะทำให้ค่าไฟเราอยู่ในอัตราที่ถูกลงเสมอไป เพราะอากาศประเทศไทยเราร้อนขึ้นทุกปี
1
ยิ่งอากาศข้างนอกอาคารมันร้อนมากแค่ไหน ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์มันก็ยิ่งทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้นอะครับ พอทำงานหนักมิเตอร์ไฟฟ้ามันก็หมุนแรงขึ้น หน่วยการใช้ไฟก็ขึ้นไวมากขึ้นตามมา คือ ไหลเป็นเทน้ำเลยทีนี้ และยิ่งช่วง Work From Home ทำงานอยู่บ้านนี้คนเราเปิดแอร์กันหลายชั่วโมงขึ้น
จากเดิมเมื่อก่อนเราเปิดแอร์กันเฉพาะตอนกลางคืนตอนนอน เดี๋ยวนี้เราอาจจะต้องเปิดตอนบ่ายและตอนสายๆเพิ่มมาด้วยสำหรับในพื้นที่ที่ต้องกังวลกับอากาศภายนอก เช่น เผาป่า หรือฝุ่นควัน PM2.5 อะไรพวกนี้ มันก็เลยเป็นเหตุให้ค่าไฟมันขึ้นเอาๆแบบรวดเดียว
ตู้เย็นเนี่ยก็กินไฟนะครับ ผมไปอ่านมาจากของคนที่ทำงานการไฟฟ้า เขาบอกว่าตู้เย็นเนี่ย กินไฟอย่างมาก วิธีการทำงานของมันคือ ถ้าเราตั้งความเย็นไว้ที่อุณหภูมิ 0 องศา หน้าที่ของตู้เย็นก็คือ ต้องทำให้บรรยากาศภายในนั้นมันคงอุณหภูมิไว้ที่ 1 องศา หรือ 0 องศาตามที่เราสั่งตลอด
เขาว่าเปิดตู้เย็นบ่อยๆก็เปลืองไฟนะครับ เพราะมันทำให้ตู้เย็นเสียอุณหภูมิข้างในและต้องเร่งควบคุมบรรยากาศภายในให้มันสมดุลกับที่เราตั้งไว้ (การแช่ของแบบเยอะๆ ยัดๆเข้าไปแบบไม่ได้จัดแจงให้ดีก็ทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นเช่นเดียวกัน เพราะยิ่งของเยอะ ตู้เย็นก็ยิ่งต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการทำให้อากาศข้างในเย็นเท่ากัน)
คนที่ทำงานการไฟฟ้าเขาแนะนำมาว่า ถ้าใครอยากใช้ตู้เย็นให้ประหยัดและกินไฟน้อยที่สุด คือ ต้องแช่เครื่องดื่มไม่เกิน 5 ขวดเท่านั้น ถึงจะประหยัดได้จริง
จริงๆสาเหตุที่ค่าไฟแพงถ้าเราไตร่ตรองกันดูก่อนจากพฤติกรรมและวิถีชีวิตของพวกเราในช่วงนี้ก็น่าจะพอเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า เราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ใช้ไฟ เสียบปลั๊กมากขึ้น ทั้งแล็ปท็อป โทรทัศน์ หลอดไฟ แอร์ พัดลม เครื่องฟอกอากาศ ทำกับข้าว ไหนจะพัดลมไอน้ำ ฯลฯ
คือมันก็เป็นเหตุผลที่พอเข้าใจได้นะครับ ผมคิดว่าทางการไฟฟ้าไม่น่าจะแกล้งหรือแอบมาปรับอะไรเพื่อหวังเอาเปรียบประชาชนในช่วงนี้ได้ พนักงานการไฟฟ้าแผนกที่ดูแลมิเตอร์วัดค่าไฟจริงๆของ กฟภ เขามีแค่ในอัตราส่วน 6-7 คน ต่อ ประชากร 100,000 คนเอง ถ้ามาทำพวกเราก็ต้องเห็นกับตาแล้วเวลาเขาขนอุปกรณ์มาหน้าบ้านน่ะ
โฆษณา