27 พ.ค. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! ชาตรามือ
“ชาตรามือ” เป็นแบรนด์หนึ่งในกรณีศึกษาของการทำการตลาด ที่สามารถพลิกภาพลักษณ์แบรนด์เก่าแก่ให้กลับมามีชีวิตชีวา พร้อมกับสร้างกระแสได้อยู่ตลอดทั้งปี ตั้งแต่ชากุหลาบ ยันชาไข่มุก มาจากไอเดียใหม่ๆ เติมอยู่เสมอ
 
สมัยก่อนชาตรามือเน้นขายสินค้าในกลุ่ม B2B คือ จำหน่ายวัตถุดิบชาต่างๆ ให้กับร้านขายชา กาแฟ แต่ก็มีหน้าร้านขายเครื่องดื่มเป็นของตัวเองด้วย โดยตั้งแต่ปี 2560 เน้นในส่วนของลูกค้า End User มากขึ้น ทำให้เห็นสินค้าใหม่ๆ ออกมาทั้งปี
 
วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาคุณไปค้นหา 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้มาก่อน เกี่ยวกับ “ชาตรามือ” ที่มีการพูดกันปากต่อปากและแชร์อย่างมากในช่วงปี 2560 ถือเป็นแบรด์เก่าแก่ของไทยที่สามารถลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้ง
 
1. ชาตรามือ อยู่ในยุคทายาทรุ่นที่ 3 บริหาร
ภาพจาก bit.ly/2WZnK9v
ถ้าพูดถึงแบรนด์ที่กลับมาดัง หรือเรียกได้ว่ากลับมา “เกิด” ใหม่อีกครั้ง ในช่วง 2-3 ปีมานี้ หลายคนคงนึกถึงสินค้า 2 แบรนด์ คือ แป้งหอมศรีจันทร์ และ ชาตรามือ เรียกได้ว่า กลับมาดังข้ามศตวรรษกันเลยทีเดียว
 
ที่น่าสนใจของ 2 แบรนด์ ก็คือ ผู้บริหารที่เป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของทั้ง 2 แบรนด์ เป็นผู้ปลุกปั้น สร้างแบรนด์ ทำการตลาดให้สินค้าอย่าง “แป้งหอมศรีจันทร์ และ “ชาตรามือ” เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
 
โดยชาตรามือนั้นปัจจุบัน อยู่ในยุคของทายาทรุ่นที่ 3 อย่าง “พราวนรินทร์ เรืองฤทธิเดช” ลูกสาวคนโต เข้ามากำหนดทิศทางของการสร้างแบรนด์ โดยตั้งเป้ายกระดับชาตรามือให้เป็นเอกลักษณ์ชาไทย ที่มีรสชาติไม่แพ้ใครในโลก
 
2. ชาตรามือ เกิดขึ้นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
“ชาตรามือ” (Cha tra mue) มีมาตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีที่มาตั้งแต่บรรพบุรุษของ “คุณดิฐพงศ์ เรืองฤทธิเดช” ได้เข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 1925 ได้จัดตั้งร้านชาจีน “Lim Meng KeeW ที่ Chalermburi บนถนนเยาวราช ได้นำผลิตภัณฑ์ชานำเข้าจากประเทศจีน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจชาครอบครัวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
 
แต่เนื่องด้วยประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อน ชาจีนร้อนจึงไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก ร้านค้าจึงได้นำเข้าชาแดงเพื่อนำมาทำชานม และชาดำไทยที่ใส่น้ำแข็งลงไป ซึ่งเรารู้จักกันในชื่อของ “ชาเย็น” เมื่อปี 1945 นี้เอง จึงเป็นปีเริ่มต้นของชายี่ห้อ “ชาตรามือ” นับตั้งแต่นั้นมา
 
3. ชาตรามือ เป็นผลิตภัณฑ์บริษัท สยาม เอฟ บี โปรดักส์ จำกัด
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2468 หรือเกือบ 100 ปีที่แล้ว บรรพบุรุษตระกูล “เรืองฤทธิเดช” ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน ก่อตั้งร้านขายชาจีนร้อน ที่เยาวราช ต่อมาคุณ ดิฐพงศ์ เรืองฤทธิเดช ได้ก่อตั้งโรงงานใบชาสยามเมื่อปี 2537 รับซื้อใบชาจากจังหวัดเชียงราย ชาตรามือ เป็นชื่อทางการค้าของชาผงปรุงสำเร็จจากบริษัท สยาม เอฟ บี โปรดักส์ จำกัด
 
4. ชาตรามือ กลับมาดังอีกครั้งได้เพราะ ชากุหลาบ
จุดเริ่มต้นของ “ชาตรามือ” ฟีเวอร์ที่ทำให้หน้าร้าน มีการต่อแถวอยู่เกือบทุกสาขานั้นมาจากที่ออกสินค้า “ชากุหลาบ” ช่วงวันวาเทนไทน์ แต่เป็นสินค้า Limited Edition เฉพาะช่วงนั้น ด้วยแพ็คเกจจิ้งแก้วที่สวย และสรรพคุณของชากุหลาบที่ได้รับการบอกต่อแบบปากต่อปากบนโลกออนไลน์ว่าถ่ายท้องได้ดี ถูกยกย่องเป็น “ราชินีขี้แตก”
 
ทำให้เกิดการตามล่า ต้องการทดลองว่ามีรสชาติ และผลลัพธ์อย่างไร ตอนนั้นชากุหลาบได้เกิดไวรัลขึ้นทั้งปากต่อปาก ทั้งแชร์บนโลกออนไลน์ในทันที จนชาตรามือต้องนำกลับมาอีกครั้งในหลายเดือนต่อมา
 
5. โลโก้มือชูนิ้วโป้งของชาตรามือ แสดงถึงคุณภาพ
โดยนับตั้งปี 2488 จนถึงปัจจุบัน “ชาตรามือ” ได้ทำให้หลายคนคุ้นตากับโลโก้สีแดง แสดงภาพมือชูนิ้วโป้ง บ่งบอกถึงความเยี่ยมยอดของคุณภาพสินค้า ชาตรามือถือเป็นชาไทยเจ้าแรกๆ ที่โด่งดังมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า
6. คาเฟ่อเมซอน ก็ซื้อผลิตภัณฑ์ชาของชาตรามือ
ผ่านกาลเวลามานับ 100 กว่าปี เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มร้านเครื่องดื่ม ชา กาแฟ แต่น่าเสียดายสำหรับผู้บริโภคทั่วไปแล้ว น้อยคนนักจะรู้ว่า ชารสชาติหอมอร่อยที่ซื้อกินบ่อยๆ นั่นคือ ชาตรามือ โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ๆ ของไทย ที่ซื้อชาจากชาตรามือ ก็คือ แบรนด์ที่เรารู้จักกันดีอย่าง “กาแฟอเมซอน” โดยสั่งซื้อครั้งละกว่า 88.5 ตันต่อเดือน
 
7. ชาตรามือ โด่งดังในต่างประเทศไม่แพ้ไทย
ความจริงแล้ว “ชาตรามือ” ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวต่างชาติด้วย มีอัตราการส่งออกชาไทยไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย กัมพูชา และจีน อย่างต่อเนื่อง
 
โดยบริษัทฯ มีรายได้จาก ชาปรุงสำเร็จ 40% ชาเขียวปรุงสำเร็จ 40% ผลิตภัณฑ์อื่นๆ 20% สัดส่วนจำหน่ายในประเทศ 60% และส่งออกต่างประเทศ 40% อาทิ สิงค์โปร, อินโดนีเซีย, จีน และกัมพูชา
 
แต่สำหรับชาวต่างชาติ นิยมซื้อ “ชาตรามือ” เป็นของฝากทางบ้าน จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจนำแบรนด์ “ชาตรามือ” ไปต่อยอดธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ โดยปัจจุบันสาขาชาตรามือในประเทศมาเลเซีย มีจำนวนมากถึง 11 สาขา
 
8. ชาตรามือ แจ้งเกิดในงาน “THAIFEX- World of Food Asia”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ชาตรามือเป็นที่รู้จักมากขึ้น ก็คือ การออกบูธ โดยงานที่แจ้งเกิดแบรนด์ชาตรามือ คือ การออกบูธในงาน “THAIFEX- World of Food Asia” ซึ่งเป็นงานแสดงอาหารและเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงในเมืองไทย
 
โดยจากจุดเริ่มต้นจากการออกงาน เป็นการได้พบปะกับลูกค้า เริ่มมีการชงชาให้ลูกค้าชิม สาธิตการชงที่ถูกต้องให้ลูกค้าดู กลายเป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียธุรกิจใหม่ นั่นคือ การเปิดร้านชาตรามือ
 
9. รายได้ของบริษัท สยาม เอฟ บี โปรดักส์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ “ชาตรามือ”
- ปี 2556 มีรายได้ 114,623,416.63 บาท กำไร 878,143.57 บาท
- ปี 2557 มีรายได้ 206,451,316.24 บาท กำไร 1,401,306.38 บาท
- ปี 2558 มีรายได้ 268,409,417.56 บาท กำไร 3,475,008.29 บาท
- ปี 2559 มีรายได้ 366,024,970.00 บาท กำไร 4,754,610.36 บาท
- ปี 2560 มีรายได้ 422,451,772.05 บาท กำไร 3,949,352.51 บาท
10. ชาตรามือ ยังไม่ขายแฟรนไชส์ในไทย
ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ได้สอบถามไปยังแอดมินเพจ “ชาตรามือ” เพื่อยากทราบว่าชาตรามือขายแฟรนไชส์หรือไม่ ได้ข้อมูลว่า “ชาตรามือขอขอบคุณลูกค้าที่สนใจ และไว้วางใจอยากร่วมธุรกิจกับแบรนด์ชาตรามือ ตอนนี้ทางเรายังไม่มีการขยายสาขาในรูปแบบเฟรนไชส์นะคะ แต่มีสินค้าของเรา ชา กาแฟ จำหน่ายให้ลูกค้าเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการเปิดธุรกิจได้ค่ะ หากมีการเปิดบริการในรูปแบบแฟรนไชส์ ทางเราจะแจ้งข่าวนะคะ” ถือเป็นคำยืนยันอีกครั้งจากทาง “แอดมินเพจ ชาตรามือ”
 
ทั้งหมดเป็น 10 เรื่องจริงที่คุณไม่รู้! เกี่ยวกับชาตรามือ ที่มีผู้พูดถึงกันมากในช่วงปี 2560 ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่ยอดเยี่ยม ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ จนกระกลายเป็นกระแสชาตรามือฟีเวอร์ มีคนถามหาพิกัดกันอย่างต่อเนื่อง...นับจากนี้ต้องจับตามองว่า “ชาตรามือ” ที่มีคนพูดถึงกันมาในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเป็นแค่สินค้ากระแส หรือสินค้าคุณภาพ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaisme
อ้างอิงจาก - https://bit.ly/2wXNGLi
โฆษณา