พระอริยบุคคลจึงเป็นผู้ที่ :-
๑. สุปฏิปนฺโน ท่านปฏิบัติดีแล้ว คือ ปฏิบัติตามแนวมัชฌิมาปฏิปทา เป็นทางสายกลางตามที่พระบรมศาสดาดำเนินมาแล้ว ไม่หย่อนเกินไป ไม่ตึงเกินไป ๒. อุชุปฏิปนฺโน ปฏิบัติแล้วตรง คือ การปฏิบัติมุ่งตรงสู่พระนิพพานไม่วอกแวกไปทางอื่น
๓. ฌายปฏิปนฺโน ปฏิบัติมุ่งเพื่อรู้ธรรมที่จะออกจากภพ ๓ โดยแท้
๔. สามีจิปฏิปนฺโน ปฏิบัติอย่างดีเลิศ เพราะท่านปฏิบัติเพื่อบรรลุถึงนิพพานจริง ๆ
๕. อาหุเนยฺโย จึงเป็นผู้ควรเคารพสักการะ
๖. ปาหุเนยฺโย จึงเป็นผู้ควรต้อนรับ
๗. ทกฺขิเณยฺโย จึงเป็นผู้ควรรับของที่เขาทำบุญ
๘. อญฺชลีกรณีโย จึงสมควรกราบไหว้
๙. อนุตตรํ ปุญฺญกฺเขตตํ โลกสฺส เป็นเนื้อนาบุญอันเลิศ ไม่มีอื่นจะดีกว่าอีกแล้ว
แม้กาลเวลาผ่านมานาน ก็ไม่มีอะไรเป็นข้อห้ามว่า ผู้ที่ปฏิบัติตามจะไม่ได้รับผลอย่างที่ท่านได้รับ นอกจากคำกล่าวอ้างของคนเกียจคร้าน
คำว่า “อกาลิโก” เป็นหลักฐานยืนยันว่า ผู้ใดปฏิบัติตามธรรมของพระองค์ ย่อมจะเกิดผลทุกเมื่อ
ดังนั้นปัญหาจึงเหลือว่า พวกเราจะปฏิบัติจริงหรือไม่เท่านั้น
ดังพรรณนามานี้ พึงระลึกว่าพระโอวาทในเรื่องบูชา พระองค์สรรเสริญ “ปฏิบัติบูชา” มากกว่า “อามิสบูชา” (บูชาด้วยเครื่องสักการะ)
อย่าเพียงแต่ท่องจำ อิติปิโส ภควา... หรือเพียงแต่ระลึกถึงพระคุณเหล่านี้ แต่ให้มุ่งอิทธิบาท ๔ ปักใจ บากบั่นิวิจารณ์ และทดลอง โดยเฉพาะในการบำเพ็ญสมาธิภาวนา