21 เม.ย. 2020 เวลา 11:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ลักษณะปลามังกร
เอกลักษณ์ตามสายพันธุ์ #2
สายพันธุ์ที่เกิดขึ้นมาใหม่ และรอการยอมรับให้ได้ตามมาตรฐาน :
1. Golden Red Arowana
ปลาแดงเกรดรอง
+ เกล็ดจะเป็นสีทองอมแดง
+ ส่วนหาง / ครีบทั้งหมดเป็นสีแดงสด
โอกาสที่จะพัฒนามาเป็นแดงเต็มตัวมีน้อยมาก ปลามังกร Super Red ทั่วไปตามท้องตลาดมีราคา 20,000+ บาท ส่วนใหญ่โตขึ้นมาแล้วมักจะเป็น Golden Red หรือไม่ก็ Orange Red ในบางเมืองที่ประเทศอินโดนีเซียหากกล่าวถึง Golden Red แล้วก็จะหมายถึง "Red Tail Golden หรือ ทองอินโด"
2. Hiback Arowana
ลูกผสมระหว่างทองมาเลย์กับทองอินโด เพื่ออัพเกรดสายพันธุ์ทองอินโดให้สูงขึ้น ลักษณะปลา Hiback คือ…
+ เกล็ดปลาจะเปิดสูงขึ้นจากเดิมของทองอินโดที่ได้แค่เพียงแถวที่ 4 อาจขึ้นมาถึงแถวที่ 5 แต่อย่างไรก็ตามสีเกล็ดจะไม่ข้ามหลัง
+ Base สีใช้มองความแตกต่างระหว่าง Hiback กับ ทองอินโด เพราะโดยปกติแล้ว Hiback ที่เป็นลูกผสมทองมาเลย์กับทองอินโดจริงจะมี "สีเข้มกว่า" สีครีบจะเป็นโทนเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีเลือดหมูหรือสีแดง
ปัจจุบันมีตลาดให้การต้อนรับสายพันธุ์ Hiback มาก เพราะว่าราคาสูงกว่าทองอินโด เมื่อโตมาแล้วดูสวยงาม ปลาอโรวาน่าทองมาเลย์ที่ไม่สวยหรือทองอินโดที่สวย อาจถูกพ่อค้าหัวใสใจกล้าเอามาขายเป็น Hiback ได้
ปัจจุบัน Hiback Arowana เป็นที่นิยมค่อนข้างมาก และมีการแตกย่อยในอีกหลายชื่อ ตัวอย่างเช่น Hiback Golden ,Mahoto Golden ,Super Hiback ,Premium Grade Red Tail Gold และอื่น ๆ อีกมากมาย ในต่างประเทศ Hiback Arowana ถูกจัดให้อยู่ในระดับชั้นของ Red Tail Golden - RTG Class คือ "ทองอินโด(ไม่อยู่ในทองมาเลย์เซีย)"
3. Indo Green
ลูกผสมที่มาจากสายพันธุ์ทองอินโดแต่มีคุณภาพต่ำกว่า นั่นก็คือ ลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ทองอินโด และมังกรเขียว (ซึ่งในวัยเล็กจะมีจุดเด่นเรื่องการเปิดของเกล็ด ต่างจาก Hiback สายแท้ที่เป็นลูกผสมทองอินโดกับทองมาเลย์ คือจะเปิดสูงมาก ๆ) เปิดระเบิดเถิดเทิงแบบที่เห็นแถวที่ 5 เรียงเป็นแถบตั้งแต่เล็ก แต่หากสังเกตดี ๆ วงเกล็ดข้างในจะติดเนื้อเขียวเข้ามาด้วย
แม้ความโดดเด่นจะอยู่ที่การเปิด แต่เรื่องสีสันก็ถือเป็นจุดด้อยที่ต้องทำให้ผู้เลี้ยงต้องย้ำคิดพิจารณาหากจะคิดหามาครอบครอง นั่นก็คือ "เปิดสูงอย่างเดียวแต่สีสันไม่ค่อยชัดเจน"
4. Tong Yan (ถงเยิ่น)
เป็นลูกผสมระดับชั้นสูงสุดที่ถูกยอมรับในเรื่องคุณภาพของสายพันธุ์จากผู้เลี้ยงในปัจจุบัน เพราะเป็นลูกผสมระหว่าง Super Red และทองมาเลย์ (ใบรับรองสายพันธุ์ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีชื่อใหม่เป็นพิเศษจะระบุว่า X Back X Super Red)
ลักษณะของสีสันที่ได้มาบ่งชี้ชัดว่าเป็นลูกครึ่งของทั้งสองสายพันธุ์ คือออกเป็น "สีทองแดง" บางตัวได้ความโดดเด่นจากแดงมากหน่อย ก็จะเป็นสีสนิมเข้ม แก้มสีแดง ตาสีแดง บางตัวได้คุณสมบัติจากทองมาเลย์ก็จะมีการตัดขอบเกล็ดด้วยสีสันหลายมิติ ดูสวยงาม อีกทั้งมีการเปิดของเกล็ดละเอียด และข้ามหลังด้วยเช่นกัน
Tongyan ในเมืองไทยชื่ออาจจะยังไม่เป็นที่รู้จัก ไม่เคยได้ยิน แต่หากบอกว่าเป็น Red Splendor จะคุ้นหูกันมากกว่า และในต่างประเทศปลาสายพันธุ์นี้ถูกจัดให้อยู่ในระดับชั้นของ Malaysian Golden Cross Back คือ "ทองมาเลเซีย(ไม่อยู่ในปลาแดง) และมีชื่อพิเศษที่เป็นที่ทราบกันว่า Tong Yan Cross Back"
5. ปลามังกรทองอ่อน
มังกรทองอ่อน
+ ตัวจะเป็นสีทองอ่อน ๆ ขึ้นบริเวณริมหาง
+ ครีบหลัง / ครีบก้นจะด่างเป็นสีขาว
พวกทองอ่อน ,มังกรเขียว ,มังกรเงิน ,มังกรดำถือเป็นปลา Base สีเดียวนะครับคือ เหมือนกันทั้งตัวต่างกับสายพันธุ์อื่นที่มีสันสันมากมายในตัวเดียว ผู้เลี้ยงเริ่มต้นนิยมเลี้ยงปลามังกรสายพันธุ์นี้ก่อนที่จะเลี้ยงปลาแพงอย่างทองมาเลย์ ,แดง และทองอินโด เพราะราคาจะไม่แพงมาก
6. Yellow Tail
ปลามังกร Yellow Tail เป็น 1 ใน 3 สายพันธุ์ในระดับชั้น Red B ซึ่งแบ่งออกเป็น..
+ Yellow Tail (ทองหางเหลือง)
+ Red 1.5 (ทองหางส้ม)
+ Banjar Red (ทองหางแดง)
Yellow Tail อยู่ในระดับราคาที่ต่ำสุด และโดยรวมมีลักษณะคล้ายคลึงมังกรเขียวมากที่สุด แต่ในความเป็นจริงระดับชั้นของ Banjar Red ทั้งหมดนั้นหน้าตาจะคล้ายคลึงกับมังกรเขียว และทองอ่อนมาก โดยเฉพาะสีเกล็ด และสีของลำตัว จะต่างกันก็ตรงที่สีหาง
+ ส่วนหาง ถ้าเป็นทองอ่อนหรือเขียวจะเป็น "สีขาวและสีเทา"
+ ส่วนหาง ถ้าเป็น Red B จะเป็น "สีเหลือง ,สีส้ม และสีแดง"
สุดท้ายปลายทางในระดับชั้นที่ใกล้เคียงกันนี้ที่ "ขอบหาง" ของทุกตัวจะมีสีขาวให้เห็นครับ
7. Super Red Grade B (Banja Red)
ปลาวัยเล็กจะดูคล้ายคลึงกับปลาแดงมาก แต่หากสังเกตสีหางและครีบของ Red B จะเป็นสีส้มในขณะที่ปลาแดงเกรด A จะเป็นสีแดงสดและเต็มใบ เหลือบสีก็เช่นกัน(สีของเกล็ดเวลาที่กระทบกับแสง) ของ Red B จะออกเป็นสีม่วงอ่อน ๆ เงามันวาว หรืออาจจะไม่มีอะไร เมื่อดูแล้วแค่ขาว ๆ เงา ๆ เท่านั้น
ถ้าเป็น Red A เหลือบสีจะเห็นเป็นสีม่วงชัดเจน Red B เมื่อโตเต็มที่แล้วจะมีลักษณะสีสันจะคล้ายทองอ่อน แต่หางและครีบจะออกเป็นสีส้มเข้ม
ปัจจุบันฟาร์มปลาและร้านค้าได้เปลี่ยนชื่อในใบรับรองสายพันธุ์ของปลา Banjar Red เป็น Red Arowana หรือ "มังกรแดง" ดังนั้น ขอให้เพื่อนผู้อ่านทุกท่านโปรดเข้าใจว่า Red Arowana คือ Red B นะครับ เพราะมีหลายท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็น Super Red Grade A
8. King Arowana
ปลาอโรวาน่าชนิดนี้คือ ปลาพิการในส่วนของ "ช่วงหลังและคอ" ทำให้ดูค่อม ๆ หลังจะสูงเกินส่วนหัวขึ้นมามาก แม้เจ้านี้จะเรียกได้ว่าเป็นปลาพิการ แต่ King Arowana สวย ๆ พิการแล้วแต่ออกมาดูดีนะครับ
King Arowana เป็นได้ทุกสายพันธุ์ตั้งแต่ถูกจนแพง(ส่วนในมังกรเงินมีลักษณะพิเศษใหม่ด้วยก็คือ "คอ V" แปลกดีเหมือนกัน) ราคาของปลา King Arowana ก็จะแพงมากด้วยยิ่งถ้าเป็นปลาระดับสูงอย่างปลาแดงหรือทองมาเลย์ King ตัวนึงราคาว่ากันเป็นหลักแสนบาทกันเลยทีเดียว
9. Albino Arowana
ลักษณะพิเศษของปลาแปลกชนิดนี้ก็คือ "เผือกตาแดง" ตัวปลาจะมีสีเหลืองอ่อนและตาสีแดง Albino เป็นสายพันธุ์ที่เกิดจากการ Breed สายพันธุ์กันเอง ระหว่างครอบครัวเดียวกันจนเป็นสายพันธุ์ที่ด้อยลงมาเรื่อย ๆ ในเมืองไทยยังไม่มีใครนำเข้ามานะครับ เพราะในโลกนี้มีไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง อีกอย่างราคาสนนกันเป็นหลักล้านครับ คงต้องใจถึงพอตัวจึงจะได้ครอบครอง
10. Platinum Arowana
ปลา Platinum ถือเป็นปลาแปลกชนิดหนึ่งที่ทั้งตัวจะเป็นสีเงินและเงา (ไม่ใช่สีเงินเหมือนมังกรเงิน) Platinum เขียวจะดูเด่นที่สุดคือ ทั้งตัวจะเป็นสีเดียวกันเลย ทั้งหัว ครีบ เกล็ดและหางจะเป็นสีขาวเงาทั้งหมด(ยกเว้นลูกตา) ปลา Platinum เกิดกับปลาตระกูลหลักได้ทุกสายพันธุ์ตั้งแต่ Platinum ของมังกรเขียว / Platinum ของทองอินโด / Platinum ของแดงหรือแม้แต่ของทองมาเลย์
และเพราะเป็นปลาแปลกหายากราคาที่เสนอขายจึงแพงมาก ในบ้านเราไม่ค่อยมีให้เห็นเพราะผู้คนไม่ค่อยนิยมเลี้ยงและเพราะเหตุนั้นจึงมีร้านค้าน้อยรายมากที่กล้านำเข้ามาจำหน่าย
11. Snow Arowana (มังกรหิมะ)
Snow Arowana หมายถึง ลักษณะพิเศษของการ "ผ่าเหล่าเผือกขาว(Leucistic)" ในปลามังกรเงิน (Silver Arowana) การผ่าเหล่าเผือกขาวที่ว่านี้แตกต่างจากคุณสมบัติของ Platinum(ทองคำขาว) อย่างชัดเจนตรงที่หากเป็น Platinum แล้วเนื้อสีของตัวปลาจะเป็นสีเงิน เงา และเป็นโทนเดียวหมดทั้งตัว
Snow Arowana เนื้อสีของตัวปลาจะเป็นสีขาวด้านแต่เรียบเนียนและเป็นโทนเดียวกันทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดหาง (สีหนวด / สีแก้ม / สีเกล็ด / สีครีบ ทุกสัดส่วนเป็นสีขาวทั้งหมด เว้นแต่ "ลูกตา" เท่านั้นที่เป็นสีดำ
Snow Arowana ถือเป็นปลาหายากที่สุดในโลก มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และมีมูลค่าการซื้อขายที่สูงมาก ด้วยเหตุผลว่าเป็นปลาผ่าสายพันธุ์ ที่ได้ความแปลกที่สมบูรณ์จนกลายเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นเป็นสง่าไม่เหมือนใคร ดังนั้นจึงเป็นที่ต้องการของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชั้นนำของโลก รวมถึงผู้เลี้ยงกระเป๋าหนักที่ต้องการครอบครองสิ่งมีชีวิตที่ล้ำค่าหายากยิ่งอย่าง "มังกรหิมะ"
12. Mutant Arowana
ปลาอโรวาน่าที่มีความแปลกของสายพันธุ์ในส่วนของ "เนื้อเกล็ด" กล่าวคือ เนื้อในเกล็ดจะมีสีดำ ออกน้ำตาลเข้ม หรือสีสนิม(ส่วนขอบเกล็ดยังคงเป็นขอบสีปกติ) และเป็นที่เกล็ดทุกแผ่นตั้งแต่เนื้อตัวจนถึงใต้ท้อง ส่วนเกล็ดแถวที่ 5 หรือแถวหลังนั้นก็เป็นไปตามสายพันธุ์ที่จะเป็น(ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเห็นในสายพันธุ์สีทอง) เช่น RTG ก็จะเห็นถึงเพียงแค่แถวที่ 4 หรือ 5 ส่วนทองมาเลย์ก็จะเห็นแบบข้ามหลัง
เมื่อคุณสนใจจะเป็นเจ้าของสักตัวขอให้ขยันอ่าน และหาเวลาเดินดูปลาให้มาก ๆ ก่อนนะครับ ของมีจำนวนที่มาก ทางเลือกก็มีให้เลือกมากด้วยกัน ทางลวงก็มีผสมปนเปมามากด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ต้องการจ่ายแพงกว่า(เสียค่าโง่) เราก็ต้องศึกษาให้มาก ๆ ครับ ทิ้งท้ายไว้นิดหนึ่ง
แหล่งอ้างอิง : www.aro4u.com
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำออนไลน์
fishway
Website : ...coming soon...
Youtube : ...coming soon...
Tiktok : ...coming soon...
Line VOOM : ...coming soon...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา