22 เม.ย. 2020 เวลา 04:09 • ครอบครัว & เด็ก
พ่อแม่ไม่ควรทะเลาะกันต่อหน้าลูก
การใช้ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราเป็นเรามาทั้งชีวิต และเค้าก็เป็นเค้ามาทั้งชีวิต ก่อนที่จะมาเจอกัน รักกัน จนถึงแต่งงาน ตัดสินใจใช้ชีวิต สร้างครอบครัวร่วมกัน
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมาก ที่การอยู่ด้วยกันจะต้องมีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ความขัดแย้งนั้นจะรุนแรงถึงขั้นเรียกว่าทะเลาะกันหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสติ ของทั้ง 2 ฝ่าย
มีรายงานว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เราต้องกักตัวอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาตินี้ทำให้อัตราการหย่าร้างเพิ่มมากขึ้น พ่อแม่ทะเลาะกันมากขึ้น เพื่อนที่เป็นครูอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก เล่าให้ฟังว่าพ่อแม่ ถึงกับโทรมาขอร้องครูว่าให้ช่วยเปิดโรงเรียนหน่อย ดูลูกไม่ไหวแล้วก็มี
ในต่างประเทศ
ประเทศจีน พบว่า ภายหลังจากการกักตัวช่วงเกิดโรคระบาดมีการอัตราการขอหย่าร้างมากขึ้นถึง 25% เจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุอาจเกิดจากการที่คู่รักใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากเกินไป จึงอาจเกิดมีปากเสียงกันจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนลุกลามไปสู่การหย่าร้างในที่สุด
จากคำสั่งปิดเมืองที่เมืองซีอาน ประเทศจีน หลังจากผ่านไป 2 เดือน และเมื่อเหตุการณ์เริ่มคลี่คลายและมีการเปิดทำงานของหน่วยราชการตามปกติเมื่อวันที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าอัตราการหย่าร้างในเมืองซีอานเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ ขณะที่สำนักงานทะเบียนแห่งหนึ่ง ในเขตเมืองซีอาน ที่ต้องมีการจองและนัดหมายเพื่อขอหย่าร้างนั้น เต็มตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.จนถึงวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา (ที่ประเทศจีน จะไปทำการหย่าร้างจะต้องขอนัดหมายไปก่อน และบางสำนักงานก็รับได้แค่ 5 นัดหมายต่อวัน)
ประเทศฝรั่งเศส มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่มีคำสั่งให้ประชาชนกักตัวอยู่ในบ้าน โดยกรุงปารีสมีการแจ้งความเพิ่มขึ้น 36% ส่วนพื้นที่อื่นทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 32% นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีผู้หญิง 2 คนเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายโดยคนในครอบครัว
ประเทศอังกฤษ คณะกรรมการต่อต้านด้านความรุนแรงในบ้านของอังกฤษและเวลส์ ระบุว่า มีการโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงในบ้านในช่วงต้นเดือนเมษายน 2563 เพิ่มขึ้นถึง 65% (ข้อมูลเมื่อ 1 เมษายน 2563)
องค์การสหประชาชาติ-UN เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้หญิงในประเทศยากจนมีความเสี่ยงที่จะถูกกระทำความรุนแรง และเข้าถึงความช่วยเหลือได้ยาก และผู้หญิงที่เคยถูกกระทำความรุนแรงมีแนวโน้มที่จะถูกกระทำซ้ำบ่อยครั้งขึ้น
สำหรับประเทศไทยของเรา รายงานจาก กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ Covid-19 มีข้อมูลสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าในช่วงที่รัฐบาลใช้มาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด อาจมีสถิติความรุนแรงในครอบครัวพุ่งสูงและผู้หญิงมีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อความรุนแรง
โดยตลอดเดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่านมา จากการจัดเก็บข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว พบว่า สถิติเดือนมีนาคม 2563 มีจำนวน 154 ราย เพิ่มขึ้นจากเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่มีจำนวน 144 ราย เมื่อเทียบกับสถิติเดือนมีนาคม 2562 มีจำนวน 140 ราย แม้ว่าเพิ่มขึ้นไม่มากนักแต่ก็ถือว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมมาตรการรองรับ
เขียนอ้างอิงข้อมูล ทำให้เริ่มจะออกไปไกลจากหัวข้อ พ่อแม่ไม่ควรทะเลาะกันต่อหน้าลูก ที่ผู้เขียนตั้งใจจะแชร์จากประประสบการณ์
เข้าเรื่องผู้เขียนค่ะ เคยทำแล้ว ไม่ว่าจะเกิดจากเรื่องอะไรและอีกสารพัดเหตุผลที่เป็นสาเหตุให้เกิดการทะเลาะกัน
สิ่งที่ผู้เขียนปฏิบัติมาตลอด ไม่ว่าพ่อแม่จะทะเลาะกันเรื่องอะไร ต้องไม่เอาสิ่งที่เราคิดว่าเราถูกตอนนั้นไปสอนให้ลูกคิดแบบเรา ต้องสอนให้ลูกเคารพรัก พ่อแม่ของตัวเอง เรื่องการไม่เข้าใจกันของพ่อแม่ ต้องไม่ให้มีผลกระทบกับลูก
เพิ่งดูซีรี่เกาหลีจบไป เรื่อง A World of Married Couple ฝ่ายชายนอกใจภรรยา ฝ่ายหญิงขอหย่า มีการวางแผนให้ลูกเห็นความรุนแรง เพื่อดึงลูกมาอยู่ฝ่ายตัวเอง ดูแล้วสงสารเด็กมาก...(นอกเรื่องอีกแล้ว)
ที่มา Viu : A World of Married Couple
กลับมาค่ะ เด็กหรือลูกของเรา เป็นผู้ใหญ่ที่ตัวเล็กนะคะ คือลูกมีความคิด ความรู้สึกของตัวเอง ถ้าเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน เราอย่าไปคิดว่าลูกไม่รู้เรื่อง
ผู้เขียนมาค้นพบ เรื่องนี้ จากกิจกรรมที่โรงเรียนลูกตอนอยู่ชั้นประถมปีที่ 1 ลูก 6 ขวบ คุณครูจะแจกกระดาษรูปหัวใจให้เด็ก คนละดวง แล้วให้เด็กเขียนถึงพ่อแม่ในดวงใจ คือสิ่งที่อยากให้พ่อแม่เป็น แล้วนำไปแปะที่บอร์ด เสร็จแล้วก็ให้คุณพ่อ คุณแม่ไปอ่าน ความคิดของเด็กมีหลากหลายค่ะ แต่พอไปอ่านเจอ ข้อความหนึ่ง เขียนว่า ไม่อยากให้พ่อแม่ทะเลาะกัน ผู้เขียนนี่อี้ง ไปเลยค่ะ นี่มันลายมือลูกเราชัดๆ จับมือเขียนมาแบบนี้ทำไมจะจำไม่ได้ ทำให้สะท้อนใจค่ะ เราทำอะไรกับลูกไปนี่.. หลังจากนั้น ระวังค่ะ ระวัง ไม่ใช่เลิก ^^
คุณพ่อ คุณแม่คะ อย่าทะเลาะกันต่อหน้าลูกนะคะ ทำอะไรขอให้คิดถึงจิตใจ น้อยๆ ของลูกด้วยค่ะ ไม่ใช่ลูกไม่พูดแล้วจะคิดว่าลูกไม่เป็นไร ลูกไม่มีความรู้สึก...ถ้าความรักซึ่งเป็นสิ่งที่โยงใยชีวิตคู่ไว้ด้วยกันไม่มีเหลือแล้ว ก็ขอให้คิดถึงลูก ถ้าถึงขั้นต้องเลิกกันก็ขอให้จากกันด้วยดี ขอให้ลูกยังได้รับความรักความอบอุ่น ทั้งจากพ่อและแม่เหมือนเดิม ไม่ควรกีดกันฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกไป..
สามีภรรยาเลิกกันแล้วคืออดีตเคยเป็นสามีเคยเป็นภรรยา ปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องกันอีก แต่ลูกยังเป็นลูกของพ่อ และลูกยังเป็นลูกของแม่ ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคตนะคะ ^^
โฆษณา