24 เม.ย. 2020 เวลา 00:09 • บันเทิง
น้ำผึ้งหยดเดียว
ผมได้แรงบันดาลใจ ในการเขียนเรื่องสั้นเรื่องนี้
จากการที่ผมต้องเดินทางไปติดต่อกับหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ได้เห็นคำที่เขาใช้เขียนสื่อสารกันภายในองค์กร ซึ่งเป็นข้อความสั้นๆ แต่สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน
แต่เมื่อผมได้ดูรายการ"ดูให้รู้ ตอน คนญี่ปุ่น
คิดอย่างไรกับภาษาไทย" จบแล้ว
ทำให้ผมฉุกคิดว่า ถ้าสมมติเป็นชาวต่างชาติ
ที่เขาไม่เข้าใจภาษาไทยหรือเข้าใจภาษาไทย
เพียงเล็กน้อย
ได้มาอ่านข้อความนี้เข้า แล้วเขาจะคิดอย่างไร และยิ่งชาวต่างชาติคนนั้นเป็นถึงนักฟุตบอลระดับ
ซุปเปอร์สตาร์ด้วยแล้ว เขาจะรู้สึกอย่างไร
เรื่องราวต่อไปนี้จะเข้มข้นเหมือนต้มยำกุ้งหรือจืดชืดเหมือนน้ำล้างชาม ขอเชิญคุณๆมาเป็นกรรมการตัดสินให้ผมด้วยนะครับ
หวังเพียงว่าเมื่อคุณๆ อ่านจบจะได้แง่คิด
อะไรดีดี และมีรอยิ้มติดตัวกลับไปบ้างแค่นี้
ผมก็สุขใจแล้ว
ลองสักหยดไหมครับ
เหตุเกิด ณ สโมสรฟุตบอลชื่อเสียงกระฉ่อน
จักรวาลอันไกลโพ้นแห่งหนึ่งที่ซึ่งห่างไกลจากโลกหลายล้านปีแสง นาซ่ายังเดินทางสำรวจไปไม่ถึง
สโมสร"เมาแล้วเด้อ อยู่ไหนเป็ด เอามาลาบเลย ซิตี้"
(ชื่อยาวมาก) หลายคนอาจไม่คุ้น แต่ช่างมันเถอะ
เรื่องนั้นพักเอาไว้ก่อน
เช้าวันหนึ่ง
ขณะที่ทีมงานของสโมสรกำลังทำหน้าที่
ตรวจวัด คัดกรองเชื้อควายควิดไส้แตก 2029
ให้กับนักฟุตบอลในสังกัดอยางขะมักเขม้น
นักเตะของสโมสรทุกคนต่างทยอยเดินทางเข้ามา
ทำการตรวจร่างกายเพื่อลงสนามฝึกซ้อมเบาๆ
ก่อนลงแข่งจริงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
นัดชิงศึกวันทรงเจ้า ขออภัยพูดผิด
รายการ"ลุงตู่ 5000 เอามันนี่มาจ่ายเสียทีเถิด
เรารอนานแล้วนะ คัพ"
กับทีมเต็งจ๋า ฉายานอนมาเอาแชมป์
"บางบอกดิกนะจ้ะ ซิตี้"นำทีมโดย
ผู้ใหญ่ข้าวกับแม่นางฉัตรประธานสโมสร
เฮียมูฟวี่เป็นผู้กำกับ ไม่ใช่สิ เป็นผู้จัดการทีม
หลังจากที่ทีม เมาแล้วเด้อ อยู่ไหนเป็ด
เอามาลาบเลย ซิตี้ หยุดซ้อมไปพักใหญ่ๆ
เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยจะสู้ดี
ในระหว่างที่นักเตะแต่ละคนกำลังเข้าแถว
อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยรอการตรวจคัดกรองเชื้ออยู่นั้น
ขณะที่ ซี. แหง แน่ นักเตะต่างชาติตัวฉกาจ
ตำแหน่งกองหน้าตัวยืนกุมเป้า กำลังยืนรอคิว
รับเจลล้างมือเหมือนเพื่อนนักเตะคนอื่นๆอยู่นั้น
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นตัวหนังสือที่เขียนด้วย
ลายมือเป็นข้อความสั้นๆ ข้างขวดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่วางอยู่บนโต๊ะ
ด้วยความที่เป็นนักเตะต่างชาติเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่
ใหม่ จึงไม่ค่อยจะสันทัดภาษาท้องถิ่นสักเท่าใดนัก บวกกับความขี้สงสัย จึงใคร่อยากจะรู้ความหมาย
จึงได้ถามบั๊กฮัมซึ่งยืนปั้นหน้าหล่ออยู่ด้านหน้า
บั๊กฮัมเป็นนักเตะกองกลาง ซึ่งเป็นชาวต่างชาติอีกคนแม้จะอยู่มานาน แต่ก็เข้าใจภาษาของดาวนี้
แบบงูๆ ปลาๆ พอไปวัดไปวาเท่านั้น
ด้วยความที่ยอดนักเตะทั้งสองคนไม่แตกฉาน
ด้านภาษา จึงจำต้องสื่อสารกันด้วยภาษาจักรวาลสากล แปลความหมายถอดใจความได้ประมาณว่า
"ฮัม ฮัม กุถามหน่อยดิ ข้างขวดเจลล้างมือ
มันเขียนว่าอะไรวะ?"
"เฮ้ย! เฮ้ย! เมิงเรียกชื่อกุใก้มันถูก กุชื่อบั๊กฮัม!ๆ
ไม่ใช่ฮัม "
"เออโทษทีว่ะ"ซี.แหง แน่ รีบขอโทษ บั๊ก ฮัม
ฮัมอยากจะตอบซี.ไปเหลือเกินว่า
'กุก็ไม่รู้เหมือนกัน'
แต่ด้วยกลัวว่าตัวจะเสียฟอร์ม
จึงใช้ความพยายามอ่านข้อความอีกที
เพื่อความมั่นใจ แล้วจึงค่อยๆ กระซิบข้างหู ซี.
ไปส่งเดช..
ขอบคุณภาพสวยๆจาก blockdit
เพจ:นักเตะดังในอดีต
😊
ซี. แหง แน่ พอได้ยินเพื่อนตอบมาอย่างนั้น
เท่านั้นแหละครับพี่น้อง งานเข้าเลย
(คำถามเพื่อร่วมสนุกในรายการ:คุณคิดว่าข้อความที่เขียนไว้ที่ข้างขวดเจลล้างมือนั้น เขียนว่าอย่างไร
ตอบถูกเอาน้ำผึ้งไป 1 หยด)
ปกติแล้วซี.เป็นนักเตะที่เซ้นซิทีฟกับเรื่องพวกนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
จึงออกมาเอะอะโวยวาย พูดจา ด่าแหรก แหกด่านหาว่าสโมสรใหญ่โต แต่ขี้เหนียวไม่เข้าท่า ไม่มีความยุติธรรมเอาเสียเลย
แจกของฟรีมาให้ใช้ทั้งทีก็น่าจะได้ใช้ด้วยกันทั้งทีม
แต่นี่อะไร! นอกจากไม่ให้ใช้เจลฟรีแล้ว
ยังไม่บอกเขาและเพื่อนๆ ล่วงหน้าอีกด้วย
(หน้าตาของซี ในยามนี้ช่างเหมือนพวกแกนนำม็อบไม่มีผิด)
หากทางสโมสรบอกล่วงหน้าสักนิดก็จะได้เตรียม
เจลล้างมือมาเองไม่ต้องเดินออกไปซื้อให้เสียเวลา
ทำอย่างนี้มันใช้ไม่ได้! ต้องเปลี่ยนนายก ขออภัย ต้องเปลี่ยนรัฐบาล พูดผิดอีก มันต้องเปลี่ยนประธานสโมสรแล้ว
แม้ว่าเพื่อนๆ ร่วมทีมจะช่วยกันห้ามปรามอย่างไร พยายามอธิบายให้เขาฟังว่าคำว่า'กองกลาง'
ที่เขียนไว้ข้างขวดเจลล้างมือนั้น มันไม่ได้หมายความอย่างที่เขาคิดเลยสักนิด
"กองกลาง"เป็นเหตุ
ภาพถ่ายจากสถานที่จริง ไม่ใช่ตัวแสดงแทน
😊
ยิ่งห้ามก็ดูเหมือนยิ่งยุ
ซี.ยังพูดต่อถึงขั้นที่ว่า อย่างไรเสียก็จะไม่ขออยู่
ร่วมชายคา กับพวกพวกสมองสุนัข ปัญญาฟราย
จะขอลาออกปายท่าเดียว
ด้วยรับไม่ได้กับนโยบายที่ลำเอียงของคณะผู้บริหารชุดนี้
จากความโกลาหนอลหม่านของนักเตะกองหน้าและ
กองหลังครานั้น ทำให้สโมสรจำต้องต้ดสินใจใช้
ผู้เล่นตัวสำรองลงสนามกว่าครึ่งค่อนทีม
แถมยังต้องเสียเวลาไกล่เกลี่ยทำความเข้าใจ
กับลูกทีมอยู่นาน ทำให้เสียงบประมาณไปอีกมาก
บทเรียนในครั้งนี้ทำให้สโมสรนอกจากพลาดถ้วยแชมป์ในรอบหลายทศวรรษแล้ว ยังอดได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท ไปอย่างน่าเสียดาย
ด้วยเพราะความสะเพร่าของทีมงานบางคน รีบร้อนหยิบขวดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือมาผิด
แถมการใช้ภาษาสื่อสารในสโมสรก็ไม่ชัดเจน
กำกวมเสียจนทำให้นักเตะกองกลางอย่างบั๊กฮัมและนักเตะกองหน้า อย่าง ซี. แหง แก ต้องเข้าใจผิด
จบข่าว
😊
แถมให้อีกนิด
บทเรียนอันเจ็บปวดของทีม"เมาแล้วเด้อ อยู่ไหนเป็ด เอามาลาบเลย ซิตี้"ในครั้งนี้
ทำให้คณะผู้บริหารต้องเรียกประชุมเป็นวาระเร่งด่วน
เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาทักษะการใช้
ภาษาในการสื่อสาร
😊
(ถอด)เกร็ดฟุตบอล
ในการเล่นฟุตบอลแต่ละครั้งผู้จัดการทีมหรือโค้ชจะมีการวางแผนการเล่น เพื่อมุ่งผลสัมฤทธิ์ที่แตกต่าง
แผนการเล่น
จะเป็นการอธิบายถึงประเภทของตัวผู้เล่นในสนาม
ไม่นับรวมผู้รักษาประตูนะครับ
(เพราะเขาจะเป็นเหมือนองค์กรอิสระ
ไม่สังกัดกรมกอง)
ยกตัวอย่างการวางแผนการเล่นแบบ 4-4-2
(ไม่ใช่สูตรปุ๋ยนะครับ) เป็นแผนการเล่นฟุตบอล
ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมอย่างมากพอสมควรจากบรรดาผู้จัดการทีมต่างๆ ในอดีต
จะเป็นการกำหนดตัวผู้เล่นโดยจะเริ่มนับจาก
กองหลัง ไปหากองกลาง กองหน้า ตามลำดับ
ดังนั้น ตัวเลข 4-4-2 จึงหมายถึงการใช้ตัวผู้เล่นที่เป็นกองหลัง 4 คน กองกลาง 4 คน และกองหน้า 4 คน ขออภัย(4 เพลิน)
กองหน้าอีก 2 คน ตามลำดับ อย่างนี้เป็นต้นครับ
😊
หากผิดพลาดต้องขออภัย
มีความคิดเห็นเป็นประการใดเขียนมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ
เกษตรเอส'Society
"อยากเห็นคนในสังคมนี้
มีรอยยิ้มและความสุข"
😊
ท้ายที่สุด
"น้ำผึ้งหยดเดียว"ที่อยู่ในช้อนอาจมีกลิ่นหอม
รสหวานชวนรับประทาน ก็จริงอยู่
แต่น้ำผึ้งหยดเดียวที่หมายความถึงคำพูดหรือ
การกระทำโดยปราศจากความยั้งคิดของใครบางคน อาจทำให้คนในสังคมเกิดความแตกแยกก็เป็นได้
(น้ำผึ้งหยดเดียวหมายความว่าเรื่องเล็กๆ น้อยๆ
ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต สร้างความเสียหายจนเกินแก้ไข)
ก่อนจบบทความผมมีของดีมาฝากมิตรรัก
แฟนเพจและนักอ่านทุกท่านเช่นเคยครับ
😊
เห็นแล้วอยากกัด
ขอบคุณภาพสวยๆ จาก facebook เพจ:ขายน้ำผึ้ง
😁

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา