29 เม.ย. 2020 เวลา 11:58 • กีฬา
หลังเลิกรากับรักแรก อันเดร อากัสซี่ พบรักใหม่กับนักแสดงขวัญใจคนอเมริกัน บรู๊ค ชิลด์ นี่คือสตอรี่ Part 2 ของนักเทนนิสตำนานของโลก ที่สะท้านหัวใจยิ่งกว่าตอนแรก
1
การอกหักจากรักแรก เวนดี้ สจ๊วร์ต ในเดือนมกราคม 1993 ทำให้อันเดร อากัสซี่ ซึมเศร้าเพราะความรักไปพักใหญ่
เขาพยายามจะคุยกับคนอื่นเพื่อเยียวยาแผลใจ แต่ก็ไม่พร้อมจะเปิดใจจริงๆเสียที ในช่วงกลางปีอันเดร ตกเป็นข่าวกับบาร์บาร่า สไตรแซนด์ นักแสดงชื่อดัง ที่อายุมากกว่าเขาถึง 28 ปี แต่เรื่องนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ ทั้งสองคนเป็นแค่พี่น้องกันเฉยๆ
แน่นอน การจะลืมรักแรกได้นั้น มันต้องใช้เวลาจริงๆ ซึ่งตัวอากัสซี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเปิดใจให้ใครได้อีก
1
12 เดือนผ่านไป ธันวาคม 1993 ฤดูกาลเทนนิสหยุดพัก อันเดรอยู่ที่บ้านตัวเองในลาสเวกัส ก็มีสายโทรศัพท์จากลินดี้ ภรรยาของเคนนี่ จี นักแซ็กโซโฟนชื่อดัง ที่เป็นเพื่อนสนิทของอากัสซี่ โดยลินดี้บอกว่า "อันเดร ฉันมีผู้หญิงที่เพอร์เฟ็กต์มากๆ มาแนะนำให้รู้จัก ฉันคิดว่า เธอกับนาย ต้องไปด้วยกันได้ดีมากๆแน่ๆ เธอสวย ฉลาด มีเสน่ห์ และตลกอีกต่างหาก"
"ลินดี้ การจับคู่แบบนี้มันไม่เวิร์กหรอก ฉันไม่เคยคุยกับคนไม่รู้จักมาก่อนเลย" อันเดรตอบ
1
"แต่การจับคู่ครั้งนี้ นายปฏิเสธไม่ได้หรอก เพราะเธอคือ บรู๊ค ชิลด์ส !"
3
อะไรนะ? บรู๊ค ชิลด์ส คนนั้นน่ะหรอ นักแสดงสาวจากภาพยนตร์เรื่อง Blue Lagoon น่ะนะ
บรู๊ค ชิลด์ส คือสาวสุดเพอร์เฟ็กต์ในจินตนาการของหนุ่มอเมริกัน เธอสวยดุจนางฟ้า ใครเห็นเธอในภาพยนตร์ก็เป็นต้องหลง
เรื่อง Blue Lagoon ที่เธอเล่น มีพล็อตคือ เด็กหนุ่มสาวสองคน นั่งเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกแต่เรือแตก ทั้งคู่จึงลอยมาติดเกาะร้างแห่งหนึ่ง จากตอนแรกความสัมพันธ์ของทั้งคู่เหมือนเป็นเพื่อน หรือพี่น้องกัน แต่พอเวลาผ่านไปนานๆ ทั้ง 2 คนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความรัก
ในหนังเรื่องนี้ นางเอกคือบรู๊ค ชิลด์ส นั่นเอง และตลอดทั้งเรื่องเธอมีเซ็กส์กับเด็กหนุ่มที่มาติดเกาะ หลายช็อตมาก แต่ละฉากคือสุดๆเหมือนกัน สำหรับยุค 80-90 ซึ่งเด็กวัยรุ่นอเมริกันนั้น เติบโตมากับการจินตนาการถึงเธอทั้งนั้น
1
ไม่เพียงแค่สวย มีเสน่ห์ แต่เธอยังมีการศึกษาดีเลิศ เรียนจบจากปรินซ์ตัน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับไอวี่ลีก คุณสมบัติของเธอหากเทียบกับยุคปัจจุบัน ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับ เอ็มม่า วัตสัน สาวสวยที่เห็นพัฒนาการมาตั้งแต่เด็ก และเรียนมหาวิทยาลัยระดับท็อป
เมื่อรู้ว่าคนที่แม่สื่อแนะนำ คือบรู๊ค ชิลด์ส ตัวอันเดรก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นข้อเสนอที่ดีมากจริงๆ โอเคว่าเขายังเฮิร์ทถึงเวนดี้อยู่ แต่อีกมุม เขาจะจมดิ่งไปถึงเมื่อไหร่ล่ะ เวนดี้ก็ไปมีชีวิตของตัวเองแล้ว การได้โอกาสคุยกับคนสวยขนาดนี้ มันอาจเป็นการเยียวยาแผลใจที่ดีของเขาก็ได้
"โอเค โทรศัพท์เธอเบอร์อะไรล่ะ" อันเดรถาม
"ไม่ๆ นายโทรหาเธอไม่ได้หรอก ตอนนี้เธอถ่ายหนังอยู่ที่แอฟริกาใต้ ที่นั่นไม่มีโทรศัพท์ มีแต่เครื่องแฟ็กซ์เอาไว้ส่งเอกสาร ถ้านายอยากติดต่อกับเธอ นายต้องแฟ็กซ์ไป"
พระเจ้า อะไรจะยุ่งยากขนาดนั้น แฟ็กซ์คุยกันระหว่างที่อีกคนอยู่ในกองถ่ายแบบนี้ อย่างมากก็ส่งได้แค่วันละ 1-2 ฉบับ มันลำบากเกินไปหรือเปล่านะ
1
หลังได้เบอร์แฟ็กซ์ของบรู๊ค อันเดรยังไม่ส่งข้อความไป แต่เขาไปเช่าหนังทั้งหมดที่บรู๊คแสดงเพื่อเอามาดูหน้าตาแบบชัดๆจริงๆก่อน ว่าเขาชอบเธอแน่ๆหรือไม่
ใช่ ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆ เขาปฏิเสธไม่ได้เลย
จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มแฟ็กซ์ข้อความคุยกัน เป็นการคุยกันทางไกลที่พิลึกมาก จากอเมริกา ถึงแอฟริกาใต้ด้วยเครื่องแฟ็กซ์ กับผู้หญิงที่อันเดรก็ไม่เคยเจอมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว
จังหวะการสนทนานั้นช้ามาก เพราะวันนึงคุยกันได้แค่ ไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่ทั้งคู่ก็ค่อยๆทำความรู้จักกันไป
เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ ทั้งคู่ยังคุยกันต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ ข้อความในแฟ็กซ์ มีความผ่อนคลายมากขึ้น เริ่มเหมือนคนจีบกันมากขึ้น คำพูดในข้อความมีน้ำเสียงของการหยอกเย้า การแซวกัน และความห่วงหาคิดถึงอยากเจอ ซึ่งกับอันเดร เขาเองก็งงเหมือนกัน ที่นักเทนนิสระดับโลกอย่างเขา วันๆต้องมานั่งหน้าเครื่องแฟ็กซ์ ที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมาเมื่อไหร่
1
จากสัปดาห์ ผ่านไปเป็นเดือน บรู๊คส่งแฟ็กซ์มาหนึ่งฉบับ เป็นข้อความสั้นๆ เขียนว่า "ถ่ายหนังเสร็จแล้วนะ จะกลับมาที่ลอสแองเจลิส อยากเจอกันไหม?"
5
แน่นอน ถ้าคุณได้คุยออนไลน์กับคนสวยขนาดนี้เป็นเดือน และเขาทำให้คุณพร่ำเพ้อถึงขั้นนั่งกินนอนหน้าแฟ็กซ์ คุณต้องอยากเจอเขาอยู่แล้ว
อันเดร กังวลเหมือนกันว่าการเจอกันจะเวิร์กไหม แม้ทั้งคู่จะเป็นเซเล็บ แต่ก็อยู่คนละโลกกันอย่างสิ้นเชิง บรู๊คเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด และเล่นละครโทรทัศน์มากมาย ชีวิตอยู่ในแวดวงไฮโซตลอด ส่วนเขาเป็นแค่นักกีฬาคนหนึ่ง ที่ไม่รู้จักสังคมชั้นสูงเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอเรียนจบวิชาวรรณคดีฝรั่งเศสที่ปรินซ์ตัน ส่วนเขาเรียนไม่จบไฮสคูลด้วยซ้ำ แล้วมันจะมีเรื่องอะไรให้คุยกันหรอ
อย่างไรก็ตาม ด้วยความอยากเจอ วันที่บรู๊คกลับมาจากแอฟริกาใต้ ทั้งคู่นัดไปดินเนอร์กัน อันเดรใส่กางเกงยีนส์ขาดๆ ตัวเท่ พร้อมปล่อยผมยาวของเขาที่เป็นเอกลักษณ์ประบ่า เขาขับรถมารับเธอที่บ้าน
บรู๊ค เปิดประตูต้อนรับเขา เธอยังไม่ทันได้แต่งหน้าเลย แต่โครงหน้าสวยมากเหมือนเทพธิดา ดูก็รู้เลยว่ามีออร่าของซูเปอร์สตาร์
บรู๊คเลือกร้านพาสต้า มาเรีย ร้านอาหารอิตาเลียนเล็กๆ ไม่ได้หรูเวอร์วังเหมือนที่อันเดรคาด จากนั้นทั้งสองคนเลือกไปนั่งที่โต๊ะมุมด้านใน เพื่อความเป็นส่วนตัว
ปรากฏว่า ระหว่างที่ทั้งคู่คุยกัน อันเดรลืมเรื่องความแตกต่างกันของไลฟ์สไตล์ไปหมด เพราะบรู๊คเป็นคนน่ารัก และสนุกสนานมาก การคุยกันไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อเลย
บรู๊ค เป็นคนทะเยอทะยาน มีความฝัน เธออยากเป็นนักแสดงที่โด่งดังกว่านี้อีก ซึ่งอันเดร ก็หวนคิดถึงว่า บรู๊คกับเวนดี้ เป็นคนละธาตุกันอย่างสิ้นเชิง ในขณะที่เวนดี้ ยังไม่รู้เลยว่าอยากทำอะไร แต่บรู๊คมีเป้าหมายชัดเจนในชีวิต ซึ่งเขาประทับใจเธอมากตรงจุดนี้
ตอนนั้นอันเดร อายุ 23 ส่วนบรู๊คอายุ 28 ผู้หญิงอายุมากกว่า 5 ปี แต่มันไม่ได้มีช่องว่างระหว่างวัยเลย ทั้งสองคนดูคุยกันง่ายไปหมด
1
"สิ่งที่เราคุยกัน หลายๆคำ ก็เหมือนที่เราส่งกันผ่านแฟ็กซ์ แต่พอมาพูดกันใกล้ๆด้วยน้ำเสียงของแต่ละคน มันดูใกล้ชิดกว่า และรู้สึกดีมากกว่าตัวอักษร" อันเดรเล่า
3 ชั่วโมงผ่านไปในพริบตา ทั้งสองคนคุยกันทุกอย่าง หนัง ท่องเที่ยว อาหาร ความลับส่วนตัว มันเหมือนว่าทั้งสองคนไม่มีอะไรต้องปิดบังกันเลย เป็นความคลิกที่มหัศจรรย์มาก
ผ่านเที่ยงคืน ร้านอาหารปิดหมดแล้ว อันเดรต้องมาส่งบรู๊คที่บ้าน ทั้งๆที่จริงๆเขาอยากอยู่ต่ออีก แต่เขาเองไม่รู้จะใช้คำไหนบอก และที่สำคัญเขากลัวตัวเองคิดไปเองคนเดียวด้วย เธออาจจะเฟรนด์ลีย์แบบนี้กับทุกคนก็ได้
อันเดรส่งบรู๊คหน้าบ้าน แล้วจูบเบาๆ แบบจุ๊บ เป็นมารยาท จากนั้นเขารวมความกล้า ถามเธอออกไปว่า "ผมขอโทรหาคุณอีกได้ไหม"
"ได้โปรด โทรมาเถอะนะ" บรู๊คตอบ เป็นคำยืนยันว่าเธอเองก็มีความสุขกับเดทนี้
อันเดรหันหลังไป เดินเตรียมไปสตาร์ทรถ บรู๊คยังไม่เข้าบ้าน เธอวิ่งย่องมาด้านหลัง และเห็นกางเกงยีนส์ของอากัสซี่ที่มีรอยขาดแบบเท่ๆอยู่ด้านหลัง เธอเอานิ้วจิ้มไปในรอยขาดของกางเกง อากัสซี่หันขวับมา บรู๊คหัวเราะแล้ววิ่งหนีเข้าบ้านไป
อากัสซี่ รู้สึกล่องลอยกับเดทแรก การนัดเจอกับคนที่คุยแบบไม่เห็นหน้ามาหลายเดือน แล้วออกมาดีขนาดนี้ มันเกินกว่าที่เขาจะหวังไว้เสียอีก
1
อากัสซี่ ขับรถออกมาจากหน้าบ้านของบรู๊ค เลี้ยวเข้าถนนซันเซ็ต บูเลอร์วาร์ด ตอนแรกตามแผนเดิมคือบินกลับลาสเวกัสทันที แต่เขาเปลี่ยนใจ เมื่อขับผ่านโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เขาเลี้ยวเข้าจอด แล้วนอนหนึ่งคืนที่ลอสแองเจลิสทันที
บรู๊คบอกให้โทรใช่ไหม งั้นพรุ่งนี้เขาชวนเธอไปเดทอีกรอบเลยแล้วกัน
หลังผ่านไป 2 เดท ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้น แม้อากัสซี่ต้องเดินทางไปแข่งที่ต่างๆ แต่ก็ยังหาเวลา โทรคุยกันได้เสมอ
และก็มาถึงเดทที่ 3 บรู๊คต้องเข้ารับการผ่าตัดนิ้วเท้า ที่นิวยอร์ก ซึ่งในวันนี้ อันเดร ต้องการจะบอกความลับสำคัญที่สุดในชีวิตของเขากับเธอ จะรู้ดำรู้แดงไปเลยว่า ทั้งสองคนจะไปต่อได้ หรือจะหยุดแค่ตรงนี้
สิ่งที่น้อยคนในชีวิตของอากัสซี่จะรู้ ณ เวลานั้น คือเขา "ผมร่วง"
เหมือนเป็นเรื่องโจ๊ก แต่มันเกิดขึ้นจริง ตั้งแต่อายุ 20 ผมของเขาร่วงตรงกลางหัว และด้านหน้า คือผมด้านข้าง และข้างหลังยาวหมด แต่ข้างบนและข้างหน้าไม่มีเส้นผมเลย
ปัญหาคือ ภาพลักษณ์ของอันเดร ตั้งแต่เทิร์นโปรในวัย 16 ปี เขาคือหนุ่มหล่อ ผมยาว สุดเท่ ที่สาวๆกรี๊ด โฆษณามากมายเซ็นเขาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพราะผมยาวเท่ๆ ในสไตล์นักเทนนิสแบดบอย ดังนั้น เขาไม่สามารถเอาภาพลักษณ์ผมยาวออกไปได้ ก็ต้องไว้ข้างๆ และข้างหลังมันแบบนั้น ส่วนด้านบนหัวก็ใส่วิกเอา
1
มันกลายเป็นสิ่งที่เป็นปมอยู่ในใจของอันเดร มีหลายๆแมตช์ที่มีลมแรง เขากลัวมากว่าลมจะพัดเอาวิกของเขาร่วงไปที่กลางสนามแข่ง อันเดรยอมแพ้ไปเลยซะดีกว่า จะให้คนอื่นมารู้ความลับของเขา
นี่คือสิ่งที่ติดอยู่ในใจของอันเดร เขาต้องการจะบอกกับบรู๊ค เขาจำเป็นต้องรู้ว่าเธอจะรับเรื่องนี้ได้ไหม
"เป็นอะไรหรอ อันเดร" บรู๊คถาม เธอเองก็จับความรู้สึกได้เช่นกัน "บอกฉันได้นะ"
"ผมมีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้พูดจริงกับคุณ" อันเดรกล่าว จากนั้นก็ขยับไปนั่งใกล้บรู๊ค เขาเอามือไปชกหมอน พยายามเรียบเรียงคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก มันเหมือนการเปลือยกายต่อหน้าสาธารณชนเลย ไม่อยากเชื่อว่าเขากำลังจะบอกเรื่องนี้กับคนที่ตัวเองชอบ
1
"อันเดร อะไรหรอ"
"มันไม่ง่ายที่จะพูดเลย บรู๊ค แต่ความจริงคือ เส้นผมของผมมันร่วงได้สักระยะแล้ว ตอนนี้ผมใส่วิกเพื่อปกปิดมันอยู่" จากนั้นอันเดรคว้ามือบรู๊คมาสัมผัสกับวิก เพื่อให้เธอได้รู้กันไปเลย
"มันแตกต่างนะ เส้นผมกับวิก พอจับแล้วถึงรู้" บรู๊คพูด อันเดรไม่กล้ามองหน้าเธอ ผู้ชายที่ดูเท่สุดๆในความคิดของเธอ แต่ความจริงหัวล้านตั้งแต่อายุ 20 อย่าว่าแต่เธอเลย เป็นใครก็คงช็อกทั้งนั้น
"แต่มันไม่ใช่เรื่องใหญ่นะ" บรู๊คยิ้ม แล้วพูดขึ้นมา "สิ่งที่ฉันชอบคือดวงตาของคุณต่างหาก ดวงตากับนิสัยของคุณ มันไม่เกี่ยวกับเส้นผมหรอก"
อันเดรซึ้งใจ แต่เขาไม่รู้บรู๊คพูดไป เพราะอยู่ต่อหน้าเขาหรือเปล่า บางที พอรู้ความจริงแล้วเธอก็จะค่อยๆเฟดหายไปเองช้าๆ
1
หลังจบเดทที่ 3 บรู๊คผ่าตัดเสร็จ เธอเข้าเฝือกที่เท้า เดินอย่างยากลำบาก และกลับไปพักฟื้นร่างกายที่แอลเอ ส่วนอากัสซี่บินไปแอริโซน่า เพื่อเก็บตัว เตรียมแข่งขันรายการที่เมืองสกอตต์เดล
คืนก่อนแข่ง อากัสซี่ ฝันร้าย เขาฝันว่าระหว่างแข่งๆอยู่ ข้อมือของเขาขาดออกไปดื้อๆ จนตื่นขึ้นมาอย่างหวาดผวา ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตูห้องโรงแรมในช่วงกลางดึก
"ใครน่ะ" อันเดรพูดแล้วเปิดประตู
1
"บรู๊คเอง" เธอตอบ บรู๊คแอบมาหาอันเดรแม้เท้าจะเข้าเฝือกอยู่ก็ตาม เธอเองคิดถึงเขาเหมือนกัน ก็เธอบอกแล้ว ว่าเธอไม่ได้แคร์เรื่องผมร่วงหรอก
เช้าวันนั้น อันเดรลงเล่นในรายการที่สกอตต์เดลล์ด้วยความมั่นใจ เขาชนะแมตช์ และชนะรวดทุกเกมที่เหลือ จนได้แชมป์แรกในปี 1994
บรู๊ค กับ อากัสซี่ คบกันเป็นแฟนอย่างเปิดเผยได้ 1 ปี เข้าสู่เดือนมกราคม 1995 บรู๊คเสนอไอเดียที่สำคัญที่สุดให้อากัสซี่พิจารณา
"ฉันคิดว่าคุณไม่ต้องใส่วิกดีกว่านะ" บรู๊คเสนอ
ด้วยความที่บรู๊คเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ด เธอจึงมองว่า วิธีการแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือเปลี่ยนภาพลักษณ์ไปเลย จากผมยาวดูอินดี้ ก็โกนหัวไปเลย เอาให้เป็นสกินเฮดเท่ๆ ดูซูเปอร์แบดบอยไปเลยดีกว่า ซึ่งวิธีนี้มันดีกับทุกฝ่าย ตัวอากัสซี่เองก็ไม่ต้องกลัววิกผมร่วงตลอดเวลา สื่อมวลชนก็น่าจะชอบเพราะมันเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์ เหมือนรีแบรนด์ตัวเองใหม่
และที่สำคัญที่สุดบรู๊คบอกว่า ถ้าตัวตนของอากัสซี่ไม่มีเส้นผม ก็ยอมรับความจริงข้อนั้นสิ ไม่เห็นต้องแกล้งทำ ใส่วิก เพื่อแสดงให้โลกเห็นในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น
"เป็นไปไม่ได้หรอก ผมรู้สึกอายนะ" อันเดรตอบในตอนแรก แต่หลังจากเขาใช้เวลาคิดสักระยะ มันก็ถูกอย่างที่บรู๊คพูดนะ เขาจะต้องหลบซ่อนไปนานแค่ไหน ถ้าจะเปิด ก็เปิดมันวันนี้เลยดีกว่า
1
เช้าวันหนึ่ง อันเดรบอกบรู๊คว่า "โอเค ลุยกันเลย ตัดผมทิ้งให้หมดเลย"
บรู๊ค ให้ช่างผมส่วนตัว แมทธิว เป็นคนจัดการตัดผมของอากัสซี่ โดยการตัดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จากผมยาวสลวย อันเดร อากัสซี่ มีผมแค่ติดหนังหัว เหมือนสกินเฮดเท่านั้น ภาพลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
การปลดปล่อยจากวิกผม ทำให้อากัสซี่รู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด "ผมรู้สึกถึงความสุข ผมรู้สึกเป็นอิสระ"
และมันทำให้ฟอร์มในสนามของอากัสซี่ เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนด้วย รายการแรกที่เขาลงแข่ง หลังตัดสกินเฮด คือออสเตรเลียน โอเพ่น
1
อากัสซี่มาในเวอร์ชั่นใหม่ ผมสกินเฮด มีผ้าโพกหัว เจาะหู ไว้หนวดเครา ดูแบดบอยสุดๆ
ยิ่งฟอร์มในสนาม อากัสซี่เล่นได้อย่างไร้เทียมทาน จากรอบแรกถึงรอบรองชนะเลิศ เขาชนะคู่แข่ง 3-0 ทุกเกม ไม่เสียเซ็ตเลยแม้แต่เซ็ตเดียว
จนมาถึงรอบชิง เจอกับพีท แซมพราส ที่เขาแพ้ทางเสมอ ปรากฏว่า อากัสซี่เล่นได้ดุจปีศาจ เอาชนะไป 3-1 เซ็ต และเป็นการชนะแซมพราสครั้งแรก ในนัดชิงแกรนด์แสลมด้วย
3
อากัสซี่คว้าแชมป์แกรนด์แสลมได้ทันทีที่ตัดผม สำหรับอากัสซี่ยืนยันว่าเกี่ยวข้องกัน เมื่อมีความมั่นใจ และเป็นตัวเองแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณก็สามารถเหยียบดวงจันทร์ได้
"บรู๊ค คุณพูดถูกจริงๆ" แน่นอน อากัสซี่ไม่เคยลืมต้นไอเดียในเรื่องนี้ เขาเป็นหนี้บุญคุณแฟนสาวของตัวเอง และยิ่งหลงรักเธอมากกว่าเดิม
หลังจากคบกันได้ 2 ปี อันเดรรู้ใจตัวเองแล้ว ว่าเขาต้องการอยู่กับผู้หญิงคนนี้ไปตลอด
เธอคลิกทุกอย่าง บรู๊คเป็นคนสนุก ฉลาด และที่สำคัญกล้าทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง สิ่งนี้เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลย
ต้นปี 1996 เขาจึงตัดสินใจ เตรียมขอเธอแต่งงาน โดยอันเดรแอบไปซื้อแหวนเพชรเตรียมไว้ และเมื่อบรู๊คกลับมาจากการออกกองถ่ายเมื่อไหร่ ก็จะขอแต่งงานทันที หวังว่าเธอจะตอบตกลง
สองสัปดาห์หลังได้แหวน บรู๊คถ่ายหนังเสร็จกลับมาที่แอลเอ และด้วยความที่เป็นช่วงว่างจากการทำงานพอดี บรู๊คจึงชวนอากัสซี่ไปฮาวาย ซึ่งสำหรับอากัสซี่ก็เข้าทางเลย เพราะฮาวายเป็นที่ที่เหมาะมากกับการขอแต่งงาน เขาแพ็กแหวนเก็บใส่กระเป๋าอย่างดี
โรงแรมของทั้งคู่ คือบังกะโลว์ที่เป็นส่วนตัวมาก ในโรงแรมเมาน่า ลานี่ โดย 2 วันแรก อากัสซี่พยายามหาช่องแล้ว แต่ยังหาจังหวะไม่ได้
"อันเดร คุณดูไม่มีสมาธิเลยนะ"
1
"ไม่ๆ ผมก็อยู่นะ ผมอยู่นี่ล่ะ"
"ทุกอย่างโอเคหรือเปล่าคะ" บรู๊คถาม
ในใจของอากัสซี่คิดว่า อย่าจี้ถามได้ไหม สิ่งที่ผมคิดอยู่ตอนนี้ คือจะขอคุณแต่งงานที่ไหน และเมื่อไหร่ต่างหากเล่า
1
เข้าสู่เย็นวันที่ 3 อันเดร กับบรู๊ค เตรียมจะไปดินเนอร์กันริมชายหาด บรู๊คเปลี่ยนชุด เป็นชุดเดรสยาวสีขาวถึงข้อเท้า ดูงดงามเหมือนนางฟ้า อันเดรตัดสินใจ เขาจะบอกเธอเย็นนี้ ในกระเป๋ากางเกงของเขามีแหวนแล้ว
บรรยากาศดินเนอร์เป็นไปอย่างโรแมนติก บรู๊คจิบไวน์ และยิ้มอย่างมีความสุข จากนั้นอันเดร ชวนเธอไปเดินชายหาดด้วยกัน
หนุ่มสาวสองคนเดินเล่นกันริมหาดที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า มีแสงสีทองอ่อนๆ ดูงดงามอย่างยิ่ง ถึงตรงนี้ ทั้งคู่ไม่ใช่เซเล็บที่ไหน แต่เป็นเพียงชายหญิงสองคนที่หลงรักกันหมดใจเท่านั้น
หลังเดินไป 10 นาที มาสู่จุดที่ชายหาดเงียบสงบ ไม่มีคนรอบข้าง มีเพียงแต่แสงแดดอ่อนๆจากดวงอาทิตย์เท่านั้น อันเดรมองไปรอบๆ ไม่มีนักท่องเที่ยว ไม่มีปาปารัสซี่ นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว
อันเดร เดินสเต็ปช้าลง ปล่อยให้บรู๊คเดินนำหน้าเขาไป 2-3 ก้าว จากนั้น เขาก็คุกเข่าหนึ่งข้างลงบนพื้นทราย
"บรู๊ค คริสต้า ชิลด์ส" อากัสซี่เรียก
บรู๊คเคยพูดหลายครั้ง ว่าเธอชอบมากกว่า เวลาขอแต่งงาน ผู้ชายน่าจะพูดชื่อจริงแบบเต็มๆของผู้หญิงเป็นการให้เกียรติกัน ซึ่งสำหรับเธอเองถ้าโดนใครสักคนขอแต่งงานก็ไม่อยากถูกเรียกว่า บรู๊ค หรือ บรู๊ค ชิลด์ แต่ให้เรียกชื่อเต็มๆของเธอรวมทั้งชื่อกลางด้วย
อันเดรจำสิ่งที่บรู๊คบอกได้เป็นอย่างดี และเขาก็จำมันเพื่อมาใช้ในวันนี้
บรู๊ค หันหน้ากลับมา เห็นอันเดร คุกเข่าอยู่ เธอเริ่มเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น
"บรู๊ค คริสต้า ชิลด์ส" อากัสซี่ย้ำคำเดิมอีกครั้ง
บรู๊ค ตกใจ "เดี๋ยวๆ คุณจะทำอะไรน่ะ ตอนนี้ ที่นี่เลยหรอ ฉันยังไม่พร้อมเลยนะ"
คำของบรู๊ค ไม่ได้ทำให้อากัสซี่เปลี่ยนใจ เขาหยิบกล่องใส่แหวนออกมา แล้วเปิดมันออก ด้านในเป็นแหวนเพชรที่เขาเตรียมไว้ให้เธอแล้ว และ ณ วินาทีนี้ น้ำตาของบรู๊คก็ไหลออกมา
"บรู๊ค คริสต้า ชิลด์ส คุณจะ .. " และก่อนที่อากัสซี่จะพูดให้จบประโยคว่า "คุณจะแต่งงานกับผมได้ไหม" บรู๊คก็สวนขึ้นมาว่า
"แต่งค่ะ แต่ง แต่ง แต่ง"
และวันนั้นเอง อันเดร กับ บรู๊ค ที่คบกัน 2 ปี ก็ตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกัน ด้วยการเป็นสามี ภรรยา
นี่คือคู่รักที่ผู้คนต่างมองด้วยความประทับใจ เป็นขวัญใจอเมริกันของจริง
อากัสซี่คือนักกีฬาระดับโลก เขาเป็นนักเทนนิสคนแรกที่แย่งตำแหน่งมือหนึ่งของโลกอันยาวนานของพีท แซมพราสได้สำเร็จ และในปี 1996 นี่เอง ที่เขาได้เหรียญทองโอลิมปิก ในเทนนิสชายเดี่ยวที่แอตแลนต้า นี่คือฮีโร่ของชาติตัวจริง
เช่นเดียวกับ บรู๊ค ชิลด์ส ในปี 1996 เธอเล่นซีรีส์เรื่อง Suddenly Susan และมีชื่อได้เข้าชิงโกลเด้น โกลบ อวอร์ดส์ บรู๊คเป็นนักแสดงที่คนอเมริกันเองก็ชื่นชอบเช่นกัน
และแล้ว ทั้ง 2 คน ก็แต่งงานกันในปี 1997 ด้วยบรรยากาศแห่งความสุข พวกเขาสองคนรักกันแทบคลั่ง
อย่างไรก็ตาม นิทานเรื่องนี้ไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
1 ปีหลังจากแต่งงาน อันเดร อากัสซี่ กับ บรู๊ค ชิลด์ หย่าร้างกัน อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด
[ จบ Part 2 ]
โฆษณา