ซุสได้นำโอรสผู้รอดจากความตายไปฝากไว้ให้นางไม้เลี้ยงดูอยู่ในป่าเขา ทำให้เด็กน้อยคนนี้มีความรื่นรมย์อยู่เป็นนิจ เขาได้ท่องป่า ร้องเพลงสนุกสนานกับเหล่านางไม้ และบรรดาสัตว์ต่างๆ และเมื่อได้ไปพบกับพืชชนิดหนึ่ง คือ องุ่น ไดโอนีซัสก็ได้ทดลองนำมาหมัก นั่นแหละค่ะ คือกำเนิดของเหล้าองุ่น หรือไวน์ ซึ่งแรกเริ่มเดิมที เมื่อไดโอนีซัสทดลองดื่มเอง ก็ครึ้มอกครึ้มใจ แต่ดื่มมากไปก็เมาค้างจนปวดหัว แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ไดโอนีซุสก็คิดว่า นี่แหละ เครื่องดื่มที่เหมาะกับมวลมนุษยชาติ ว่าแล้ว ก็ออกเดินทางไปสอนให้มนุษย์รู้จักการปลูกองุ่น นำมาสู่การผลิตไวน์ดื่มกันยกใหญ่ ว่าแล้ว ไดโอนีซัสจึงกลายเป็นเทพแห่งเหล้าองุ่น และความอุดมสมบูรณ์
การที่ไดโอนีซัสเป็นผู้มอบไวน์ให้ผู้คนนี้ ทำให้ถือว่าพระองค์เป็นผู้ประทานความเบิกบานแก่มวลมนุษย์ แต่เหรียญก็มี 2 ด้าน หากดื่มมากเกินไปก็จะกลายเป็นความพินาศวิปลาส บ้าคลั่ง ไดโอนีซัสจึงเป็นเทพที่มีทั้งคุณ และโทษ ซึ่งเป็นการแสดงทัศนะของชาวกรีกอย่างเด่นชัดถึงข้อดี และข้อเสียของสุรา มันทำให้ผู้คนสนุกคึกคัก ฮึกเหิม รื่นเริงใจ ถึงขั้นลุกขึ้นมาร้องรำทำเพลง แต่ก็ทำให้เกิดอาการเมามาย และการฮึกเหิมนั้น ก็อาจทำในสิ่งที่ไม่อาจ หรือไม่ควรทำในยามมีสติครบถ้วน เรียกว่า คุณและโทษของสุราเมรัยนี้ เป็นเรื่องที่ทราบกันมานานนม ถึงขนาดสร้างตำนานเทพมารองรับ แต่แม้เวลาจะผ่านมานานหลายสหัสวรรษ มนุษย์อย่างเราๆ ท่านๆ บางคนก็ยังหาได้ดื่มแต่พอเพียงกันไม่ สุราจึงนำมาซึ่งปัญหานานาประการ จากอดีตอันไกลโพ้นจนสู่อนาคต แม้ทุกคนจะทราบว่า การดื่มแต่พอดีทำให้มีสุข แต่การดื่มเกินพอดีก็มีให้เห็นทุกเมื่อเชื่อวัน