9 พ.ค. 2020 เวลา 11:38 • ธุรกิจ
5 BIG TECH ชี้ชะตาตลาดหุ้นสหรัฐฯ
นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก หุ้นกลุ่ม "FAAMG" หุ้น 5 อรหันต์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ
5 Big Tech Companies นี้ประกอบด้วย Facebook , Amazon , Apple , Microsoft และ Google
ในช่วงที่เกิดไวรัส COVID-19 หุ้นในดัชนี S&P500 หลายอุตสาหกรรมรายได้ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่เป็นผลจากราคาน้ำมัน และกลุ่มการเงินจากการตั้งสำรองหนี้เพราะขาดสภาพคล่อง รวมถึงหนี้บัตรเครดิตจากแรงงานที่ตกงานกว่า 33.5 ล้านคน
แต่หุ้นกลุ่ม FAAMG กลับมีรายได้เติบโตสวนทางหลายๆบริษัทที่กำลังจะยื่นขอล้มละลาย จนหลายคนมองว่าหุ้นกลุ่มนี้กลายเป็นธุรกิจผูกขาดของโลกนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
Statista
ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนเกิด COVID-19 หรือช่วงที่ทุกคนต้อง work from home อยู่บ้านกักตัว ก็ไม่ได้ทำให้ 5 บริษัทเหล่านี้มีรายได้ลดลง มีแค่กำไรที่ลดลงในบางธุกิจย่อยเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ 5 บริษัทเหล่านี้อย่างมีนัยยะสำคัญ
อีกเรื่องหนึ่งที่ยืนยันได้ดีว่าธุรกิจของกลุ่ม FAAMG กำลังผูกขาดชาวโลกอยู่ก็คือขนาดของ Market Cap. หรือมูลค่าตลาดเมื่อเทียบกับดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
Goldman Sachs
จากรูปของ Goldman Sachs ชี้ให้เห็นว่าหุ้นกลุ่ม FAAMG ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดรวมกันที่ 20% ของดัชนี S&P500 ซึ่งมากกว่าช่วงปี 2000 ที่เกิดฟองสบู่ Dot com เสียอีก
และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหุ้น 5 บริษัทนี้ให้ผลตอบแทน +10% มากกว่าหุ้นในดัชนี S&P500 ที่เหลืออีก 495 บริษัทรวมกันที่ให้ผลตอบแทนขาดทุน -13%
รวมถึงใครที่ซื้อกองทุนหุ้นสหรัฐฯอิงดัชนี S&P500 ไว้ตั้งแต่ต้นปี ก็ยังจะขาดทุนอยู่ประมาน -12%
Goldman Sachs
พูดง่ายๆก็คือถ้าต้นปีเราซื้อหุ้นแค่ 5 ตัวในกลุ่ม FAAMG แล้วถือมาจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. เราจะกำไร 10% สะท้อนให้เห็นว่าหุ้น 5 อรหันต์นี้กำลังแบกดัชนีที่มีหุ้นอีก 495 ตัวอยู่
จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการรีบาวด์เป็น V-Shape ของตลาดหุ้นสหรัฐฯในรอบนี้ หุ้นกลุ่ม FAAMG มีผลต่อการปรับขึ้นของดัชนีโดยรวมค่อนข้างมาก ช่วยดันตลาดมาจนถึงตรงนี้ได้
้คำถามคือหุ้นกลุ่ม FAAMG จะดันตลาดขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน ใกล้จะหมดแรงหรือยัง..??
Bloomberg
ผมได้ทำการหาราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์จาก Concensus หลายๆโบรกรวมกัน ของหุ้น 5 ตัวนี้ ซึ่งจะมี upside จากราคาปิดของวันที่ 7 พ.ค. ตามตารางช่อง upside to target
โดย Facebook ยังเหลือ upside มากที่สุด 13.1% และ Apple เป็นหุ้นที่มี upside เหลือน้อยที่สุดในกลุ่ม 3.5%
ถ้ามองบวกสมมุติว่าหุ้นกลุ่ม FAAMG จะยังคงขึ้นต่อไปจนไปถึงเป้าหมายของนักวิเคราะห์ที่ให้ไว้จน upside กลายเป็น 0%
ด้วยขนาดมูลค่าตลาดรวมกัน 20% ของดัชนี S&P500 จะส่งผลให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตรงนี้ไปอีก 1.81% ซึ่งปัจจุบัน upside ของหุ้นกลุ่มนี้ก็เริ่มจำกัดแล้ว อาจส่งผลให้ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นต่อได้ยาก
Bloomberg
แต่ถ้าเกิดเราอยากเห็นดัชนีพุ่งต่อยืนเหนือ 2,950 จุดขึ้นไปได้ เราคงต้องหวังพึ่งหุ้นในกลุ่มอื่นที่เคยปรับตัวลงแรงอย่างเช่นกลุ่มพลังงานหรือกลุ่มการเงินเป็นคนรับไม้ต่อดันดัชนีขึ้นไปแทน
ซึ่งโดยส่วนตัว ณ ระดับดัชนีเข้าใกล้ 2,950 จุด ผมเองยังมองขายมากกว่ามองซื้อครับ เพราะดูจาก Valuation ในมุมของ PE Ratio แล้ว
"ผมยอมตกรถแล้วรอรอบใหม่ ดีกว่าซื้อตรงนี้แล้วติดดอยครับ"
ถ้าชอบ กด like & share  และอย่าลืม กดติดตาม เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ : )
โฆษณา