12 พ.ค. 2020 เวลา 13:43
"Let’s light up a room” 🤩
เคยได้ยินสำนวนภาษาอังกฤษ “Light up a room” กันไหมครับ ถ้าพูดว่าใครสักคนหนึ่ง He/She lights up a room ฝรั่งเค้าหมายถึงเวลาที่คนๆนั้นเดินเข้ามาในงานเลี้ยง แล้วทำให้ผู้คนรอบข้างยิ้มได้ คนในงานสนใจเข้ามาคุยด้วย เสมือนว่าคนๆนั้นจุดไฟให้ห้องสว่างไสว
เราทุกคนก็สามารถ light up a room ได้ ในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในงานเลี้ยง งานคืนสู่เหย้า เวลาสัมภาษณ์งาน หรือ Networking event เรามาเตรียมความพร้อมจุดไฟให้ทุกห้องทุกที่ที่เราไปสดใสกันเถอะครับ 🥳
1. พกพาพลังบวกไปด้วย
ให้พกพามุมมองที่เป็นบวกไปด้วยเสมอ ไม่เริ่มต้นด้วยการบ่น (ไม่ว่าฝนจะตกรถจะติดขนาดไหน) อย่าลืมนะครับว่าใครๆก็อยากอยู่ใกล้คนที่มีความสุขทั้งนั้น เมื่อเราคิดบวกพูดบวกรอยยิ้มก็จะปรากฏขึ้นบนใบหน้า 😊
 
2. สนใจคนรอบข้างอย่างจริงใจ
ไม่จำเป็นว่าเราต้องโดดเด่นแย่งซีนเป็นคนพูดเสมอ แต่การเป็นผู้ฟังที่ดีพยายามสนใจผู้อื่นอย่างจริงใจ ย่อมทำให้ใครต่อใครอยากคุยด้วย นักพูดระดับโลก Dale Carnegie ได้พูดถึงหนึ่งในเคล็ดลับการ ”ชนะมิตรและจูงใจคน” ว่า “Be a good listener and encourage others to talk about themselves.”
3. สวมใส่เสื้อผ้าที่เรารู้สึกดี
เสื้อผ้ามีส่วนสำคัญมาก ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดหรูหราราคาแพง ขอเพียงถูกกาลเทศะ และทำให้เรารู้สึกดีมั่นใจ (เสื้อตัวเก่ง กางเกงหรือกระโปรงนำโชคจัดไปได้เลย) เพราะหากเรามัวแต่กังวลกับชุดที่ใส่ไม่สบายไม่มั่นใจเวลาเคลื่อนไหว คงยากที่เราจะโฟกัสกับคนรอบตัว ในทางตรงกันข้ามถ้าเรารู้สึกดีกับตัวเอง เราพร้อมจะถ่ายทอดพลังงานดีๆและความมั่นใจออกมาผ่านทางอวัจนภาษา การเคลื่อนไหว สีหน้า และท่าทาง
4. เปิด Active Mode ในตัวคุณ
หากคุณเป็นคนมีอารมณ์ขัน ร่าเริง ชอบเข้าสังคมอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วการเปิดโหมดนี้คงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับหลายท่านที่ขี้อายเป็นคนเงียบๆ ชอบหลบอยู่คนเดียวในมุมห้อง อาจจะลองจินตนาการถึงตัวคุณที่ร่าเริง กระตือรือร้น เวลาที่อยู่กับเพื่อนสนิท แล้วเป็นตัวคุณในโหมดนั้น ให้คิดว่าเราไม่ได้ทำเพื่อให้เราโดดเด่น แต่เพื่อส่งต่อพลังงานดีๆให้คนรอบตัว ช่วยให้บรรยากาศในงานหรือไฟในห้องสว่างไสวด้วยตัวคุณ
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการจุดไฟในห้องให้สว่างไสวนะครับ 😊
โฆษณา