14 พ.ค. 2020 เวลา 16:02 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
5 mins Read "สรุป 4 เทคโนโลยี เปลี่ยน โลกแห่งธุรกิจการท่องเที่ยว"
Four Technology Buckets Changing the Travel Industry (1/2)
สมัยนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกอุตสาหกรรม
แล้วสำหรับการท่องเที่ยวละ ?! เค้ามีอะไรบ้าง มาเรียนรู้กัน !
ดูอะไรอยู่น้า ??
วันนี้เราไปเจอข้อมูลการค้นคว้าที่น่าสนใจมากๆจาก Skift Research เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีที่จะเข้ามาเปลี่ยนการธุรกิจการท่องเที่ยว
เราก็แบ่งเป็น 2 Parts น้าาาา เพื่อจะได้ไม่ลากยาวจนเกินปายยย
รู้ไว้ใช้ว่าเนอะเพื่อนๆ ? เราไปเจาะลึกกันดีก่าาา :)
Skift เค้าได้แบ่งเป็น 4 หมวดของเทคโนโลยีด้วยกัน แบบนี้
อ่านชื่อในแต่ละหมวดแล้ว เพื่อนๆมีรู้จักตัวไหนกันบ้างไม๊น้า ? เราว่าน่าจะเยอะอยู่เนอะ
1. Artificial Intelligence (AI)
อย่างที่เพื่อนๆทุกคนรู้ เค้าคือปัญญาประดิษฐ์จากมนุษย์ และก็เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ในการคิดค้นและการทำงาน
การพัฒนา AI มีมาอย่างยาวนานแล้ว ตั้งแต่เป็นระบบ Narrow AI ถึง General AI อย่างที่เพื่อนๆคุ้นเคยกันอย่าง ระบบ Siri ใน Apple หรือ Alexa ของAmazon หรือแม้กระทั่ง Self-Driving or Parking ของ Tesla, Benz BMW เนอะ
เพื่อนๆรู้ไม๊ว่าเจ้า AI เนี่ยจะพัฒนาลึกไปจนถึงขั้น Super AI เนี่ย พวกเค้าจะสามารถ sensing ข้อมูลได้อย่างละเอียด และไม่มีขีดจำกัดเลยละ
3
ซึ่งถ้าจะให้ลึกลงมาแล้วเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวละก็ คงไม่พ้น Subset ของ AI อย่าง Machine Learning ซึ่งเจ้า AI จะพัฒนาจนสามารถช่วยมนุษย์เรื่องตัวเลข และการคิดคำนวนได้อย่างแม่นยำ (เผลอๆเก่งกว่า)
แล้วเจ้า Machine Learning มันช่วยอะไรในธุรกิจนี้ได้อ้ะ ?
- Myriam El Harraq, vice president of innovation ของโรงแรมเครือ Accor ได้บอกว่า เจ้า Machine learning นี้ช่วยให้บริษัทได้ค้นพบนวตกรรมใหม่มากมาย อาทิเช่น chatbots, image recognition, predictive analysis (คือระบบสามารถคำนวนได้เอง, revenue management, และมาทดแทนในงานบางส่วนที่ใช้แรงมนุษย์ด้วย
- Rashesh Jethi, senior vice president ของบริษัท Amadeus ได้ออกมาบอกว่า นักเดินทางมีมากหลากหลายความชอบ ความต้องการ มากๆ แล้วเราจะสามารถรู้ได้หมด และตอบโจทย์ความชอบแต่ละไทป์ของลูกค้าได้อย่างไร ก็มีเจ้า Machine learning นี่ละที่มาช่วยเก็บสถิติพร้อมวิเคราะห์ทางเลือกให้เห็นชัดขึ้น
1.1 Chatbots and Voice Assistance
- จำเป็นอย่างมากเลยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น โรงแรม สายการบิน
- เช่น เพื่อนๆทำการจองทริปผ่านเว็ป Expedia Booking.com แล้วเพื่อนๆต้องการจะ Chat สอบถามข้อมูลเบื้องต้นเช่น การคืนเงิน การยกเลิกการจอง
แต่.....มีคนอีกเป็นหมื่นที่จองเวลาเดียวกับเพื่อนๆ และอาจมีคำถาม เพราะงั้นเจ้าระบบนี้ละที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกิจกรรมแบบนี้ โดยการตอบกลับ เรียนรู้ความสัมพันธ์ของคำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่ป้อนเข้าไป
- สิ่งที่มาช่วยได้ดีกว่าคือ Voice Assistance
ในเมื่อความต้องการความสะดวกสบายของคนเพิ่มขึ้น ระบบ Machine AI เองก็ต้องพัฒนาเพื่อตอบโจทย์เช่นกัน เช่นการใช้เสียงออกคำสั่ง (แบบ Google assistance ที่เราเห็นกัน)
1.2 Biometric Identification
- แน่นอนว่าแค่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ต้องมีการใช้ เทคโนโลยีอันนี้เพื่อความรวดเร็วของผู้โดยสาร (Data Security) โดยการแสกนใบหน้าและรายนิ้วมือ ก็จะบอกได้ถึงประวัติการเดินทาง และอาชญกรรมของบุคคลนั้น
- เพื่อนๆรู้ไหมว่า? จุดเริ่มต้นของการคิดนวตกรรม Biometric อันนี้เนี่ย เริ่มมาตั้งแต่ 1960 แล้วแน่ะ ! (เป็นแค่ความคิดของ CIA แต่ขณะนั้นไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ยังไม่มี AI จ้า)
- อย่างไรก็ดี สิ่งที่ท้าทายสำหรับหัวข้อนี้คือ ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคล (Concerns over privacy and data security)
แน่นอนแหละว่า ตอนนี้แม้กระทั่งธุรกิจการเงินอย่างธนาคาร ก็คือมาใช้ Face recognition เพื่อความรวดเร็ว
และนี่จึงส่งผลต่อความรู้สึกไม่มั่นคง และไม่ไว้ใจของผู้โดยสารหลายๆคน เพราะแบบ อ้าวว หน้าชั้นไปลงทะเบียนใน passport ในบัตรต่างๆ แล้วถ้าโดน Hack ขึ้นมาละ.....สนามบินก็เป็นของชาติอีก แล้วจะให้โทษใครด้าย แงงง... ไรงี้
- ที่มากกว่านั้นคือเสียงส่วนใหญ่ของนักท่องเที่ยวอเมริกา ต่างก็กลัวในเรื่องของรัฐบาลของประเทศนั้นๆ นำข้อมูลส่วนตัวไปใช้ในทางที่ผิด หรือแม้กระทั่งคนที่เกี่ยวข้องขายข้อมูลส่วนตัวของนักท่องเที่ยวออกไปข้างนอก
1.3 Autonomous Vehicles
- แน่นอนว่าหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีอย่างเกี่ยวกับยานยนต์จะต้องเป็นการพัฒนาระยะยาว (Long term) แน่นอนน
- ซึ่งแน่นอนว่า ธุรกิจสายการบิน หรือสนามบินก็จะได้รับประโยชน์เช่น Self Driving Shuttle Bus/Train ในการประหยัดแรงพนักงานขับรถ
- หรือในธุรกิจอย่าง ผู้ให้บริการรถเช่า ยังสามารถมีบริการเพิ่มสำหรับรถ SelfDriving ที่สามารถทำให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนในการเทีย่วได้ถึงขีดสุด
- เพื่อนๆรู้ไม๊ว่า เมื่อ 10 ปีก่อนนี้ บริษัทอย่าง GM, Honda, Toyota, Tesla เค้าได้ออกมาพยากรณ์ว่าปี 2020 จะเป็นปีแห่ง Self Drive Car.......... แต่ว่า แห่ะๆ สงสัยจะยังไปไม่สุดแน่นอนในปัจจุบันนี้เนอะ
- นอกจากนี้แล้ว Google Waymo ยังได้ออกมาพูดอีกว่า การที่เร่งพัฒนาในเรื่องของ Shared Self driving car จะทำให้ลดมลพิษ และปัญหารถในท้องถนนเยอะขึ้นมาด้วย ที่จอดรถก็ไม่จำเป็นต้องเป็นปัญหา (หรือแม้กระทั่งการจอดรถข้างทางที่ไม่เป็นระเบียบ)
- แต่ปัญหาที่เรามองคือ แล้วยังงี้ อนาคตอาชีพ Taxi จะเป็นยังไง ? แล้วผู้คนจะเปลี่ยนพฤติกรรมได้จริงหรอ ? แล้วใครจะกล้าใช้รถร่วมกับคนอื่น (ใน New normal Covid) ? อันนี้เป็นคำถามของเราเองน้ะ ซึ่งยังไม่มีคำตอบ 555
- ตารางข้างล่างให้เพื่อนๆเห็นถึงประโยชน์และผลเสียของ Autonomous Vehicles
ก็จะเป็นการสรุปให้อีกทีนึงจาก Skift Research เนื่องจากเจ้าตัว Automation Vehicles เนี่ย มันเป็นเรื่องที่ล้ำสมัยเอามากๆ และเอาตรงๆนะ ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาอยู่เลย เพื่อนๆก็จะเห็นว่ามี Tesla ที่ออกมาเรียบร้อย(แต่ก็ไม่พ้นข่าวระบบเสียการควบคุม พาคนขับรถชน) หรือ Honda, BMW ที่ออกรถต้นแบบมา
เบรกก่อนเนอะ ! เด่วตอนที่ 2 (จบ) เราจะมาพูดถึง อีก 3 หัวข้อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงผลิกโฉมวงการการท่องเที่ยวอย่างไรน้าาา
เราว่าข้อมูลตรงนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ มันไม่ได้ถูกใช้งานแค่ในธุรกิจการท่องเที่ยว แต่ไปทุกๆที่แล้วตอนนี้
รู้ก่อน เข้าใจก่อน เราก็ได้เปรียบก่อนเน้อะ ! ^___^"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา