15 พ.ค. 2020 เวลา 02:09 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Hackers ชาวจีนกำลังมุ่งเป้าหมายไปที่การวิจัยวัคซีน COVID-19 ของอเมริกา
จากรายงานใหม่ของ The Wall Street Journal Hackers ชาวจีนและอิหร่านกำลังตั้งเป้าหมายใหม่ที่สหรัฐฯที่กำลังพยายามพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค COVID-19
Hackers ชาวจีนกำลังมุ่งเป้าหมายไปที่การวิจัยวัคซีน COVID-19 ของอเมริกา
“จีนได้มีความพยายามในการขโมยงานวิจัยทางการแพทย์และ COVID-19 การวิจัยในการพัฒนาวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้” อัยการผู้ช่วยสำหรับการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ John Demers บอกกับ WSJ “ในขณะที่มูลค่าทางการค้าของมันมีความสำคัญ รวมถึงเรื่องของความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของการเป็นคนแรกในการพัฒนาการรักษาหรือวัคซีนหมายความว่าจีนจะพยายามใช้เครื่องมือทั้งหมดเหล่านี้ ทั้งการบุกรุกทางไซเบอร์และการบุกรุกจากภายใน เพื่อให้ได้มันมา”
เจ้าหน้าที่สหรัฐบอกกับหนังสือพิมพ์ว่าทั้งสองประเทศได้ทำการ Hack ธุรกิจและสถาบันต่าง ๆ ของอเมริกามาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทราบว่าหน่วยข่าวกรองที่กล่าวหาจีนยังไม่ได้แสดงหลักฐานการโจมตีไซเบอร์ใด ๆ ออกมาเลย
เจ้าหน้าที่บางคนมีความกังวลว่าการโจมตีที่ถูกกล่าวหา อาจถูกมองว่าเป็นการกระทำในรูปแบบสงครามข่าวสาร เนื่องจากความสามารถในการหาวิธีรักษาโรคระบาดใหญ่อย่าง COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกในขณะนี้
วัคซีนมีความสำคัญยิ่งในความพยายามของเราที่จะต่อสู้ coronavirus เพราะมันสามารถหยุดการแพร่กระจายและช่วยให้สังคมทั่วโลกกลับไปสู่ภาวะปกติ แต่ผู้เชี่ยวชาญก็มีการเตือนว่าวัคซีนยังคงต้องรอต่อไปอย่างน้อย 12 ถึง 18 เดือน
ประกาศที่มีการตีพิมพ์โดยสำนักสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) และ Cybersecurity รวมถึง หน่วยงานรักษาความปลอดภัยโครงสร้างพื้นฐาน (CISA) ซึ่งบันทึกในวันนี้ว่าหน้าที่ของหน่วยงานของพวกเขาคือ “การเข้ามาตรวจสอบเป้าหมายที่เป็นองค์กรในสหรัฐฯ ที่ทำการวิจัย COVID-19 หรือเรื่องที่เกี่ยวข้อง ที่กำลังถูกคุกคาม โดยเหล่า Hacker ชาวจีน โดยใช้รูปแบบการโจมตีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน”
ตามที่ FBI ได้ระบุว่า Hackers เหล่านี้ “พยายามที่จะระบุและขโมยข้อมูลทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลทางด้านสาธารณสุขที่มีค่าเกี่ยวกับวัคซีน การรักษา และการทดสอบจากเครือข่ายและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ในสหรัฐ”
เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยหลักฐานใด ๆ เกี่ยวกับการ Hack ดังกล่าว หรือหากพวกเขาขัดขวางความพยายามในการค้นหาวัคซีน แต่จีนก็ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
“มันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมสำหรับทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างข่าวลือดังกล่าวโดยไม่ต้องนำเสนอหลักฐานใด ๆ” โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน Zhao Lijian กล่าวในการบรรยายสรุปในวันจันทร์หลังจากที่ถูกกล่าวหาโดยสำนักข่าว WSJ
ต้องบอกว่าเรื่องราวของ COVID-19 ในหลายๆ แง่มุมในตอนนี้มันได้กลายเป็นศึกการเมืองระหว่างประเทศ ของประเทศมหาอำนาจทั้งสองอย่างจีน และ อเมริกา
ซึ่งมีการโต้ตอบกันไปมาระหว่างกันอยู่ตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของต้นตอของไวรัสที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาซึ่งกันและกัน และมีหลักฐานที่ใช้ในการตอบโต้กัน
ข่าวนี้มาจากสำนักข่าวหลักในสหรัฐอเมริกาอย่าง WSJ เพราะฉะนั้น ก็ต้องมีการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ถึงความเป็นจริง โดยเฉพาะการที่ไม่มีหลักฐานอะไรมาสนับสนุนดังกล่าว จีนก็พร้อมที่จะตอบโต้กลับได้เหมือนกันอย่างที่เราได้เห็นในบทความนี้
เช่นเดียวกัน หากเราอ่านข่าวจาก Xinhua ที่เป็นสำนักข่าวของทางฝั่งจีน เราก็ก็ได้เห็นเรื่องราวทำนองเดียวกัน ที่มีการเสนอข่าวเรื่องเดียวกัน แต่กลายเป็นเนื้อหาตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
ต้องบอกว่า ศึก COVID-19 ครั้งนี้ อาจจะส่งผลต่อ อนาคตในการเป็นผู้นำโลกของทั้งจีน และ อเมริกา เหมือนหลังยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่ทำให้ อเมริกากลายมาเป็นผู้นำโลก และพวกเขาไม่เคยลงจากตำแหน่งมานับจากนั้น
เพราะฉะนั้นสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขา (อเมริกา) ก็ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาตกจากตำแหน่ง โดยเฉพาะจากพลังจากจีนที่กำลังก้าวขึ้นมาท้าทายอำนาจของพวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้าย เราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนตำแหน่งของมหาอำนาจหลังจบศึก COVID-19 ในครั้งนี้ก็เป็นได้ครับ
ช่องทางติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา