15 พ.ค. 2020 เวลา 00:00 • กีฬา
[ #เจ้านายที่ลูกน้องรังเกียจ ]
"หลุยส์ ฟานกัล คือฮิตเลอร์ของนักเตะบราซิเลี่ยน"
ประโยคข้างบน โจวานนี่ ซิลวา เดอ โอลิเวียร่า หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ โจวานนี่ ซึ่งเคยเล่นให้บาร์เซโลน่าในช่วงปี 1996-99 บอกเล่าไว้ด้วยความเคียดแค้น
โจวานนี่ ได้ร่วมงานกับ หลุยส์ ฟานกัล ตั้งแต่ปี 1997 ช่วง 2 ปีที่คัมป์นู เต็มไปด้วยความอึดอัดอย่างมาก นักเตะบราซิลเหมือนเป็นอีกชนชั้นในสายตากุนซือดัตช์
บางทีถูกหั่นชื่อดื้อๆอย่างไม่มีเหตุผล ไม่มีคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น เดินสวนกันยังแทบไม่มองหน้า
ริวัลโด้ ซึ่งจัดว่าพีกสุดตอนเล่นให้ทัพอาซูลกราน่า ยังมีประสบการณ์เลวร้ายที่ได้รับจาก ฟานกัล ด้วยเหมือนกัน
ฟอร์มของเขาร้อนแรงที่สุดเมื่อเล่นทางฝั่งซ้าย ฉีกแนวรับฝ่ายตรงข้ามเป็นริ้วๆ อีกทั้งลีลาทะลวงตาข่ายก็น่ากลัวเหลือเกิน
แต่ ฟานกัล กลับมาแนวปรัชญาและมั่นใจแนวทางตัวเอง ปรับเปลี่ยนให้ไปยืนหน้าต่ำ จนทำผลงานรูดไม่ดีเหมือนอย่างเคย ก่อนจะหลุดไปนั่งสำรองบ่อยขึ้น
1
"ผมไม่ชอบฟานกัลเลย รวมทั้งแน่ใจว่าเขาก็ไม่ชอบผมเช่นเดียวกัน" นี่คือคำยืนยันของ ริวัลโด้
น่าตลกคือ ริวัลโด้ โดนเขี่ยทิ้งจากทีมในปี 2002 เขาคิดว่าเป็นแผนของ ฟานกัล ที่ดึง ฮวน โรมัน ริเคลเม่ มาแทน
แต่เอาเข้าจริงมันคือความต้องการของ โจน กาสปาร์ต ประธานสโมสรและ ริเคลเม่ เป็นนักเตะจากอเมริกาใต้อีกคนที่กลายเป็นเหยื่อความบ้าอำนาจของ ฟานกัล เช่นกัน
พวกสื่อกาตาลันเองก็เหม็นขี้หน้ากุนซือดัตช์ด้วยเหมือนกัน พอรู้ว่าแยกทางกับบาร์ซ่าแล้ว ปรากฏว่ามีงานฉลองเฉพาะกลุ่มขึ้นมาทันที
เพราะ ฟานกัล เย่อหยิ่งจองหอง ไม่มีความอ่อนน้อมและเป็นมิตร มั่นใจว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น
เรื่องนี้ ลูซิโอ เป็นบราซิเลี่ยนอีกคนที่ยืนยันได้ อย่างเมื่อตอนปักหลักอยู่บาเยิร์น มิวนิคด้วยกัน
แนวรับแซมบ้าเปิดเผยว่าโดนดูถูกเหยียดหยามจากเจ้านายอย่างชัดเจน เขาจึงสะใจมากๆ เมื่อย้ายไปอินเตอร์ มิลานและสามารถล้มเสือใต้ในเกมนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกสำเร็จ
ตอนขึ้นรับเหรียญรางวัล ลูซิโอ พยายามมองไปที่ ฟานกัล แต่อดีตบอสทำเมินไม่สบตาด้วย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครเป็นผู้ชนะ
1
ส่วนตอนรับงานคุมแมนฯยูไนเต็ด มีนักเตะบางคนที่แทบอยากจะลืมฝันร้ายในช่วง 2 ปีดังกล่าว
ราฟาเอล ดา ซิลวา คือหนึ่งในแข้งที่ต้องเผชิญกับวิบากกรรม จนสุดท้ายต้องระเห็จไปลียงอย่างไม่มีทางเลือกมากนัก
ความทุ่มเทของเขาทั้งในยามซ้อมและลงเกมจริง ไม่อาจเอาชนะใจเจ้านายคนใหม่ได้เลย ช้ำกว่านั้นคือกลายเป็นส่วนเกินของทีม ถูกมองข้ามอย่างสิ้นเชิง
"ผมรู้ว่าฟานกัลไม่ชอบขี้หน้าผม ไม่รู้ว่าผมเป็นคนบราซิลหรือเปล่านะ แต่พอ เซอร์ อเล็กซ์ อำลาทีมไป ทุกอย่างมันดูแย่ไปหมด มันผิดเพี้ยนจากเดิมอย่างมาก"
อังเคล ดิ มาเรีย ที่แฟนแมนฯยูไนเต็ดรุมยี้กันมากๆ ยอมรับว่าการทำงานภายใต้ ฟานกัล คือหนึ่งเหตุผลที่บีบให้ต้องย้ายไปปารีส แซงต์ แชร์กแมง
"ฟานกัล มีหลักแนวคิดที่แปลกๆ ผมยอมรับว่าปรับตัวให้เข้ายากมาก เรามีทะเลาะกัน 2-3 ครั้งและผมคิดว่าควรย้ายดีกว่า"
อาจมีเร้ด อาร์มี่บางคนไม่ค่อยเชื่อข้ออ้างของ ดิ มาเรีย แต่หากไล่ดูตามไทม์ไลน์ บวกกับประสบการณ์ตรงของแข้งอเมริกาใต้อีกมากมาย ฟานกัล น่าจะเป็นอีกตัวแปรทำให้เขาแตกหักปีศาจแดง
จากคำบอกเล่าต่างๆ เราพอประเมินได้ว่า ฟานกัล มีความรู้สึกไม่ดีกับนักเตะละตินเท่าไรนัก ทั้งบราซิลและอาร์เจนตินาต่างโดนเล่นงานกันมาแล้วทั้งสิ้น
เขาอาจเป็นพวกเหยียดเชื้อชาติหรือมองคนเหล่านี้ว่าต่ำต้อยกว่าและปฏิบัติอย่างไม่ให้เกียรติอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตามนักเตะยุโรปอีกไม่น้อยที่เคยเจอฤทธิ์ของ ฟานกัล มาก่อน จนแทบจะไม่เผาผีกันเลยทีเดียว
"เขาต้องการเป็นผู้นำเผด็จการ แววตาเขาช่างไร้ความรู้สึก"
นี่คือเสียงจาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ตอนตั้งไข่กับอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมและมีโอกาสได้ร่วมงานกับ ฟานกัล ซึ่งขยับมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยกายฝ่ายเทคนิค มีหน้าที่ดูแลผู้เล่นในทีมโดยตรง
อิบรา ตีแผ่เป็นฉากๆไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติที่ชื่อ "I Am Zlatan" ตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่ง
เท่าที่สัมผัสมาแบบตัวเป็นๆ ฟานกัล เป็นคนขี้โอ่ ความสำเร็จในการพาอาแจ็กซ์ครองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกทำให้เขาตัวลอยได้ใจ คิดว่าอยู่เหนือกว่าใครทั้งสิ้น
รัฐบาลฮอลแลนด์มอบเหรียญรางวัลให้ ฟานกัล เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติยศในความสำเร็จครั้งนั้น เป็นเหมือนบุคคลตัวอย่างที่ควรยกย่อง
อิบรา อยากจะชี้ให้เห็นว่า ฟานกัล หลงระเริงไปกับลาภยศและเสียงชื่นชมมากเกินไป จนทำให้เท้าไม่ติดดินและมองคนอื่นอย่างเหยียดหยาม
เขามักจะชอบพูดเรื่องแท็คติกสารพัด ราวกับว่ามีความรู้มากมาย เป็นพวกทรงภูมิ ทุกคนจะต้องเชื่อไปซะหมด
แล้วที่น่าสังเกตคือ เวลาเรียกนักเตะคนปกติทั่วไปจะต้องเรียกชื่อ จะเอาแบบชื่อเต็มหรือชื่อเล่นก็แล้วแต่สะดวก
ทว่าสำหรับ ฟานกัล เรียกตามเบอร์เสื้อ ซึ่งมันสะท้อนถึงการไม่ให้เกียรติอย่างมาก
เบอร์ 5 นายมาตรงนี้ เบอร์ 6 ไปยืนตรงโน้น มันคือสิ่งไม่ปกติเลยในวงการฟุตบอล
ฟานกัล เคยต่อว่า อิบรา เป็นกองหน้าที่ไร้ศักยภาพ โดยเฉพาะเพิกเฉยในการเล่นเกมรับ ไม่มีการป้องกันที่ดีและอาจนำไปสู่การเสียประตูได้ง่ายขึ้น
ตอนนั้น มาร์โก แวน บาสเท่น คือโค้ชกองหน้าของอาแจ็กซ์ แล้วเป็นคนติวเข้ม อิบรา โดยตรง
อิบรา เลยย้อนถามไปว่า "ระหว่างคุณกับ แวน บาสเท่น ผมควรจะเชื่อใครหรือ?"
ไม่ต้องรอคำตอบ อิบรา เดินออกมาทันที ปล่อยให้ ฟานกัล ตาค้างและอารมณ์เสียมากๆในเวลาต่อมา
ฟร้องก์ ริเบรี่ ก็ผ่านความเลวร้ายของ ฟานกัล เมื่อครั้งอยู่บาเยิร์น มิวนิคด้วยกัน
ดาวเตะเฟร้นช์โดนวิจารณ์เรื่องการเล่นต่อหน้าเพื่อนๆ ฟานกัล หวังจะให้ ริเบรี่ เล่นตามแนวทางของตัวเองเป๊ะๆ โดยไม่มีการยืดหยุ่นอะไรเลย
เขาขาดความเข้าใจธรรมชาติของผู้เล่นประเภทนี้ ที่ต้องการอิสระในบางครั้ง มันจะช่วยเสริมจินตนาการและเค้นฟอร์มอันยอดเยี่ยมออกมา
"ผมทำหน้าที่ของผม เขาทำหน้าที่ของเขา แต่การที่คุณถูกพูดไม่ดีต่อหน้าคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องเหมาะสมเลย"
ในทัพเสือใต้ ลูก้า โทนี่ เป็นอีกคนที่ได้สัมผัสกับรัศมีความน่ากลัวของ ฟานกัล มาแล้ว
แม้จะยิงประตูได้ระเบิดเถิดเทิงขนาดไหน แต่ โทนี่ ยืนยันว่า ฟานกัล ไม่เคยมองเห็นหัวเลย ราวกับว่านักเตะคือวัตถุสิ่งของอย่างหนึ่ง ไม่มีหัวใจไร้ความรู้สึก
"เขาอยากจะทำอย่างไรกับผู้เล่นก็ทำทันที ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกอย่างไร ทำเหมือนเราเป็นของที่สามารถแลกเปลี่ยนได้"
"ผมไม่ใช่ตัวเลือกของเขาและอย่าถามถึงคำอธิบายอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างต้องเป็นไปตามคำสั่ง"
ไม่ต้องอะไรมากนักเตะดัตช์คนบ้านเดียวกันอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หรือ มาร์ค ฟาน บอมเมล ยังโดนฟาดงวงเข้าให้ หากสร้างไม่พอใจขึ้นมา
แค่เดินไปบอกอะไรสักอย่างที่กระตุ้นความไม่พอใจของ ฟานกัล รับรองว่าจากนั้นคุณจะเปลี่ยนเป็นสิ่งไร้ค่าทันที โดยที่ไม่ได้รับคำปรึกษาหรือการแนะนำทุกกรณี
ตอนเขาคุมแมนฯยูไนเต็ดดวลกับอาร์เซน่อล แล้วไปโวยวายผู้ตัดสินด้วยแอ็คติ้งสุดขีด ลงไปนอนกับพื้นทำท่าให้ดูประกอบ ปรากฏว่าภาพนั้นถูกสื่อนำไปเผยแพร่มากมาย กลายเป็นเรื่องน่าขบขัน
ฟานกัล โมโหมากๆที่ทุกคนหัวเราะเยาะ เขาเกรี้ยวกราดใส่ว่าตัวเองไม่ใช่พวกตลกที่จะมาขำกันอย่างนี้
มันน่าตลกตรงที่เขาสามารถดูแคลนหยามคนอื่นได้ แต่พอถึงคราวบ้างกลับไม่พอใจขึ้นมา
เราอาจพูดได้เลยว่า ฟานกัล เป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงปรี๊ดและต้องให้ทุกคนทำตามอย่างที่ต้องการ โดยไม่มีผ่อนปรนอะไรทั้งสิ้น
เด็ดขาดมาดขรึม แต่ขาดวาทศิลป์และไม่อาจเอาชนะใจลูกทีมหลายต่อหลายคนได้
ไม่แปลกที่หลังแยกทางกับแมนฯยูไนเต็ดแล้ว เขาจะได้แต่รองานใหม่เข้ามา กระทั่งสุดท้ายไม่มีข้อเสนอน่าพอใจ จึงต้องประกาศรีไทร์จากกุนซือ
แม้จะประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ แต่หากไม่มีใครยินดีกับคุณหรือร่วมกล่าวคำอำลาให้เกียรติอย่างที่ควรจะเป็น
นั่นหมายความว่าคุณล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา