19 พ.ค. 2020 เวลา 09:47 • ความคิดเห็น
" 8 นิสัยวางแผนทางการเงิน 💵 "
มีใครที่เก็บเงินไม่อยู่บ้างคะ ? มีหลายคนที่เก็บเงินไม่อยู่ และไม่รู้ด้วยว่าเงินหายไปไหน และนำไปใช้จ่ายอะไรหมด ? วันนี้ฟางจะนำวิธีที่ฟางใช้อยู่มาพูดและมาแนะนำสำหรับคนที่ไม่ค่อยได้วางแผนการใช้จ่ายทางการเงินกันนะคะ
ภาพจาก : https://pin.it/2ZNqkUW
1. บันทึกรายรับ รายจ่าย อย่างสม่ำเสมอ
เราควรจะกำหนดเป้าหมายและวางแผนการใช้จ่ายทางการเงิน ด้วยการทำรายรับรายจ่ายค่ะ
ก่อนอื่น...เราจะเริ่มต้นง่ายๆ จากการแบ่งประเภท "รายรับ" และ "รายจ่าย" ของเราก่อนว่ามีอะไรบ้าง
รายรับ คือ สิ่งที่บ่งบอกถึงความสามารถในการหาเงินของเราว่ามาจากทางใดบ้าง ได้แก่
- รายรับหลักๆ เช่น เงินเดือน ค่าแรงที่ได้รับในแต่ละเดือน
1
- รายรับอื่นๆ หรือ รายรับเสริม เช่น รายรับจากอาชีพเสริมต่างๆ หรือ ผลตอบแทนจากการลงทุน
ส่วน รายจ่าย คือ สิ่งที่บ่งบอกถึงการใช้จ่ายของตัวเรา ว่าได้ใช้เงินไปอย่างไรบ้าง โดยจะแบ่งออกเป็น รายจ่ายคงที่ และ รายจ่ายผันแปร
- รายจ่ายคงที่ คือ รายจ่ายที่เกิดขึ้นแน่นอนและสม่ำเสมอในทุกๆเดือน เช่น ค่าเช่าหอพัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร (ตามความจำเป็น) ค่าใช้จ่ายในการดูแลครอบครัว เป็นต้น
- รายจ่ายผันแปร คือ รายจ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลง ไม่เท่ากันในแต่ละเดือน เช่น ค่างานเลี้ยงสังสรรค์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าท่องเที่ยว สันทนาการต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งผลต่างระหว่างรายรับและรายจ่ายของเรา จะเป็นตัวสะท้อนให้เห็นว่า ตัวเรานั้นมีความสามารถในการบริหารจัดการเงินดีแค่ไหนค่ะ ถ้าเงินเหลือนี่จะถือว่าดีมาก แต่ถ้าเงินขาดถือว่า..ยังจัดการได้ไม่ดีเนอะ แต่ก็ค่อยๆฝึกกันไปค่ะ
เพื่อให้เป็นการเข้าใจง่ายขึ้น...ฟางว่าเราลองมาดูวิธีการบันทึกรายการรายรับและรายจ่ายพร้อมตัวอย่างประกอบกันเลยดีกว่าค่ะ เช่น
สมมติว่า เราได้รับรายรับ (เงินเดือน) มาจำนวน 10,000 บาท วิธีการบันทึกรายการจะเป็นแบบนี้ค่ะ
1. เริ่มต้นออมเงินก่อน 10% ของรายรับทันที 1,000 บาท
2. นำเงินส่วนที่เหลือ 9,000 บาท มาลงบันทึกในบัญชี เป็น รายรับ
3. เมื่อมีรายการใช้จ่ายต่างๆก็นำมาจดบันทึกไว้เป็น รายจ่าย อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เช่น
3
- ค่าอาหาร 2,500 บาท
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 2,000 บาท
- ค่าเดินทาง 1,000 บาท
- ค่า Netflix 419 บาท
- ค่าโทรศัพท์ 1,000 บาท สมมุติประมาณนี้นะคะ
4. หลังจากนั้นเราต้องตรวจสอบดูสรุปยอดรายการทุกสิ้นเดือนโดยการบันทึกรายรับรายจ่ายนั้น เราจะบันทึกที่ไหนก็ได้นะคะ อาจจะใช้ Excle กระดาษ สมุดจด หรือว่าจะเป็นโปรแกรม หรือ Application ต่างๆที่ตอนนี้มีให้ดาวน์โหลดลงมือถือ สามารถบันทึกกันได้ง่ายๆเลย
เพื่อนๆก็สามารถเลือกได้ตามสะดวกเลยค่ะ การที่เราบันทึกรายรับรายจ่าย จะทำให้เรารู้การใช้จ่ายของเราในแต่ละเดือน ช่วยให้เราสามารถตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปทำให้มีเงินเหลือมากขึ้น เช่น ค่ากาแฟ ค่าชอปปิ้งของที่ไม่จำเป็น ได้ค่ะ
🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃🍃
2. ทำให้รายจ่ายอยู่ภายใต้การควบคุมของเรา
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมากๆเลยนะคะ เราต้องอย่าให้รายจ่ายมาเป็นตัวควบคุมเรา เราต้องควบคุมรายจ่ายให้ได้ค่ะ
ยิ่งปัจจุบัน เราจะใช้จ่ายเรื่องอะไรก็แทบจะไม่ต้องควักกระเป๋าหยิบเงินสดขึ้นมาจ่ายกันเลย แค่หยิบสมาร์ทโฟนคู่ใจขึ้นมาก็สามารถสแกน QR Code โอนเงินผ่านแอปพลิเคชัน หรือหยิบบัตรขึ้นมาก็สามารถติ๊ดบัตร หรือรูดบัตรจ่ายได้อย่างง่ายดาย ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น จริงมั้ยคะ ?
เพราะฉะนั้น โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย เวลาเจอของกระจุกกระจิกบางประเภท ถึงแม้ราคามันอาจจะไม่สูงมาก มันก็สามารถดูดเงินออกจากกระเป๋าคุณได้นะคะ เพราะว่าสินค้าเหล่านั้นเขาตั้งราคามาเพื่อดึงดูดนักช้อปอยู่แล้ว ฟางแนะนำว่าคิดดีๆก่อนนะคะ หากไม่จำเป็นก็อย่าเพิ่งซื้อ
ส่วนสินค้าที่มียี่ห้อ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งของที่ฟุ่มเฟือยไร้สาระเอามากๆ เพราะราคาต่อชิ้นค่อนข้างสูงจนน่าตกใจ แต่ฟาง ไม่ได้แนะนำให้เลิกซื้อนะคะ เพียงแต่แนะนำให้มีสติก่อนซื้อเท่านั้นเองค่ะ นานๆครั้งคุณอาจจะซื้อให้เป็นรางวัลตัวเอง อันนั้นก็ไม่ว่ากันค่ะ แต่ถ้าซื้อประจำ ประมาณว่าคอลเลคชั่นใหม่มาแล้ว ฉันต้องมี ! อะไรแบบนี้ไม่ได้นะคะ
2
และจริงๆแล้ววคุณสามารถเลือกเสื้อผ้า หรือสิ่งของ อื่นๆ ที่ดูดีและเหมาะกับบุคลิกของคุณได้โดยที่ไม่ต้องมีราคาแพงเลยด้วยซ้ำ อย่ามัวยึดติดกับของราคาแพงหรือความคิดที่ว่าจะต้องมีเหมือนเพื่อน เพราะนั่นจะทำให้เกิดปัญหาการเงินกับตัวคุณเอง ซึ่งก็คงไม่ดีหรอกจริงไหมคะ ?
🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈🎈
3. พยายามอย่าเพิ่มหนี้ และพยายามปลดหนี้
ไม่มีใครไม่มีหนี้ และไม่เคยมีหนี้ จริงไหมคะ ? แต่หากคนที่ยังมีหนี้สินอยู่ คุณควรเริ่มต้นจากการตระหนักว่าตัวเองมีภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบ มีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น จะได้ไม่เพิ่มหนี้สินให้ตัวเองมากขึ้นนะคะ และคุณควรสำรวจหนี้สินทั้งหมดของตัวเองทีมีอยู่
1
ซึ่งประโยชน์ของการสำรวจหนี้สินจะช่วยให้คุณเห็นขนาดของภาระที่แท้จริงว่ามีขนาดใหญ่แค่ใหน และเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเตือนตัวเองว่าไม่ควรก่อหนี้เพิ่ม และทำให้คุณมองเห็นปัญหาและหาทางจัดการแก้ไขต่อไปค่ะ
ถ้าหากคุณสำรวจหนี้สินทั้งหมดของตัวเองเรียบร้อยแล้ว วิธีการปลดหนี้ลำดับต่อมา คือการจัดลำดับการปิดหนี้สินค่ะ มาดูกัน มันมี 2 แบบค่ะ คือ ปิดหนี้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อน หรือ ปิดหนี้ที่เหลือระยะเวลาผ่อนน้อยก่อน ค่ะ
การปิดหนี้ที่คิดอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดก่อนเป็นวิธีการที่หลายๆ คนทราบเป็นอย่างดีอยู่แล้วเนอะ เพราะยิ่งปิดได้เร็วเท่าไรก็หมายความว่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดการผ่อนลดลงไป และสำหรับการปิดหนี้ที่เหลือระยะเวลาผ่อนน้อยก็จะช่วยปิดยอดนี้นั้นไปก่อนและมีเงินเหลือสำหรับปิดหนี้ตัวอื่นได้เร็วขึ้น หรือมีเงินเหลือสำหรับตัวเองและลงทุนสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคตได้ค่ะ เพื่อนๆก็สามารถเลือกได้ตามที่เราต้องการและเหมาะสมกับตัวเราค่ะ
2
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
4. หากมีเงินเหลือ ควรนำเงินเข้าสูการออมทั้งหมด
ข้อนี้ฟางเข้าใจเลยค่ะว่า หลายคนอาจจะไม่เหลือเงินเลย ถึงแม้ทำรายรับรายจ่ายไปแล้ว ลดสิ่งไม่จำเป็นแล้วก็ตามนะคะ ก็ไม่เป็นไรนะคะแค่เราไม่ก่อภาระหนี้สินเพิ่ม และสามารถบริหารเงินของคุณให้เหลือเก็บบ้างและพอใช้นั่นก็ถือว่าดีที่สุดแล้วค่ะ
แต่มันมีอีกหลายคนเช่นกันค่ะ ที่มีรายรับเยอะ และมีเงินเหลือเยอะ ฟางแนะนำว่าคุณควรนำเงินที่เหลือเข้าสู่การเก็บออมค่ะ มันจะดีกับคุณมากๆ หากในอนาคตคุณต้องการใช้เงินในการลงทุนทำอะไรสักอย่าง หรือเกิดไม่สบาย ต้องใช้เงินในการรักษา คุณก็จะมีเงินตรงนี้สำรองในเวลาฉุกเฉินได้
🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒🍒
5. กินให้พอประมาณ
เรื่องการกินนี่ก็เป็นเรื่องใหญ่ของคนเราเลยเหมือนกันนะคะ ลองมาคิดๆดูค่าใช้จ่ายในส่วนการกินเยอะเหมือนกันค่ะ เพราะคนเราต้องกินเพื่อดำรงชีวิตให้อยู่ได้ ตื่นเช้ามาเราก็ต้องกินแล้ว ออกจากบ้านก็ต้องกิน และการกินแต่ละครั้งเราต้องใช้เงินซื้อ
เพราะฉะนั้น กินแค่พอประมาณนะคะ ไม่ได้แนะนำให้อดอยากนะคะ แต่หมายถึงกินอะไรก็ได้ที่เราอยากกินนั่นแหล่ะค่ะ แต่บางอย่างก็ควรจะพอดี เช่น การสังสรรค์ ปาร์ตี้ หรือ กาแฟ คุณเคยคิดมั้ยว่าบางทีคุณก็หมดเงินไปกับการไปสังสรรค์ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือ เสียเงินค่ากาแฟ เพราะบางคน ชอบดื่มกาแฟสดที่มีราคาแพงเสียด้วย จริง ๆ แล้ว คุณสามารถประหยัดค่ากาแฟส่วนนี้ได้โดยซื้อกาแฟแบบซองที่ราคาถูกกว่ามาชงดื่มเองได้ แต่ฟางก็เข้าใจนะคะบางคนก็อาจจะชอบและเกี่ยวกับเรื่องของรสชาติ แต่ถ้าหากอยากประหยัดวิธีนี้ก็ช่วยได้นะคะ
1
🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕🥕
6. ฉลาดเกี่ยวกับการใช้บัตรเครดิต
จริงๆ แล้วฟางอาจจะให้ข้อมูลในข้อนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่ นะคะ เพราะฟางยังไม่เคยมีบัตรเครดิตเลย 55+ แต่ถ้าเดาก็น่าจะ 99 % ของคนส่วนใหญ่ต้องมีบัตรเครดิต บางคนก็อาจจะหลายใบด้วยใช่ไหมคะ ?
2
บัตรเครดิตเนี่ยฟางว่ามันเป็นการชำระเงินที่แปลกเหมือนเหรียญที่มีอยู่ 2 ด้าน หากใช้เป็นจะช่วยให้เจ้าของบัตรประหยัดเงินไปได้มาก แต่หากใช้ไม่เป็นอาจมีหนี้มากจนเกินรับไหวก็เป็นได้ เพราะบัตรเครดิตเป็นการใช้เงินในอนาคต (Future Money) เพราะฉะนั้นพยายามจ่ายให้ตรงกำหนด เพราะหากไม่จ่ายเลยนอกจากเสียดอกเบี้ยแล้วยังต้องเสียค่าติดตามทวงถามหนี้และเสี่ยงที่จะเสียประวัติในเครดิตบูโรอีกด้วย ทำให้อนาคตการขอสินเชื่ออย่างอื่นเป็นไปได้ยากด้วยนะคะ
🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶🌶
7. หารายได้หลายทาง
ฟางเชื่อว่ามีหลายๆคนที่มีรายได้เข้ามานอกเหนือจากการทำงานประจำ เพราะตัวฟางเองก็หารายได้จากช่องทางอื่น ที่นอกเหนือจากงานประจำเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันมีเยอะมาก หากใครที่ยังไม่รู้ว่าจะหายังไง แบบไหน ก็อาจจะลองเลือกจากความชอบของเราก่อนดูสิคะ
1
เช่น บางคนอาจจะชอบทำขนม ก็สามารถทำขนมขายได้ ซึ่งช่องทางการขายก็หลากหลายมากค่ะ ไม่ว่าจะ Facebook , IG , Shopee หรือบางคนอาจจะชอบกาแฟ ก็เปิดร้านกาแฟเล็กๆ หรือบางคนอาจจะชอบถ่ายภาพ ก็หารายได้จากการขายภาพ แบบนี้เป็นต้นค่ะ ลองค้นหาความชอบของตัวเองดูนะคะ บางทีอาจทำเงินให้คุณได้โดยไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ
🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭🍭
8. วางแผนเกษียณอายุ
การวางแผนเกษียณอายุ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว อีกนานกว่าจะเกษียณ หรือไม่ก็อยากทำงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าไม่มีแรงทำงาน ค่อยหยุดทำงาน แต่จริงๆแล้ว คุณอย่าลืมนะคะ คนเราอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ สุขภาพร่างกายอาจจะไม่ได้แข็งแรงเสมอไป หากสภาพร่างกายไม่ไหว ก็ไม่สามารถทำงานหาเงินต่อไปได้ ทำให้ชะล่าใจ คิดว่า รอก่อน ยังไม่ถึงเวลา เพราะฉะนั้นเราควรวางแผนเกษียณตัวเองค่ะ ทำยังไงมาดูกัน
1. คุณต้องสำรวจตัวเอง
คุณต้องสำรวจตัวคุณเองนะคะว่า รายได้ของคุณในทุกวันนี้ มันมีความมั่นคงมากน้อยแค่ไหน อาชีพที่ทำอยู่ แหล่งรายได้ที่มีคุณสามารถทำไปจนถึงอนาคตได้ไหม เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปไกลมาก อาจจะลดบาบาทของคนเราไปได้เยอะ ทำให้กระทบต่อหลากหลายอาชีพและธุรกิจ เพราะฉะนั้นต้องสำรวจตัวเองกันนะคะ
2. สำรวจแหล่งเงินได้หลังเกษียณ
คุณต้องสำรวจแหล่งเงินได้หลังเกษียณค่ะว่า คุณคาดว่าจะได้รับมาจากทางไหนได้บ้าง เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ , กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ , กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือจะรายได้จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ หรือเงินปันผล แบบนี้เป็นต้นค่ะ
3. คำนวณวางแผนการใช้จ่ายหลังเกษียณ
เราต้องตั้งเป้าหมายกันค่ะ ว่าเราอยากจะเกษียณตัวเองตอนอายุเท่าไหร่ ต้องใช้เงินเท่าไหร่หากเกษียณไปแล้ว มีค่าใช้จ่ายอะไรที่เราต้องเตรียมไว้บ้าง เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น
4. ทำตามแผน
เมื่อเราคำนวณทุกอย่างไว้หมดแล้ว เราก็เก็บออมเงินตามแผนที่เราได้วางไว้ค่ะ
5.ติดตาม ประเมินผล
เมื่อเราออมเงินไปแล้ว เราควรติดตามและประเมิณผลอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน หรือ 1 ปีนะคะ ว่าเป็นไปตามแผนที่เราวางไว้หรือเปล่า หรือหากไม่เป็นไปตามแผน ก็ต้องปรับเปลี่ยนแผนให้ตรงตามที่เราต้องการค่ะ
1
🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬🍬
เป็นยังไงกันบ้างคะทุกคน อยากฉลาดทางการเงิน ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับแต่งให้พอดีกับเป้าหมายชีวิตของคุณกันนะคะ อนาคตเราไม่แน่นอน วางแผนไว้มันก็ดี ฟางเชื่อว่าหากใครทำวิธีเหล่านี้ก็จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาวได้ค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่ได้วางแผน รีบวางแผนกันเลยนะคะ หากเราโฟกัสที่เป้าหมาย แล้วลงมือทำ ทุกอย่างก็สำเร็จได้ด้วยตัวของเราเองค่ะ !!
#เรื่องดีดี #8 นิสัยวางแผนทางการเงิน 💵
โฆษณา