20 พ.ค. 2020 เวลา 14:09
Gran Torino (2008) คนกร้าว ทะนงโลก
หนึ่งหนังดี ที่เราไม่เคยลืม แม้ว่าจะผ่านไปกว่า 10ปี
คำเตือน บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังทั้งเรื่อง หากต้องการเพิ่มอรรถรสในการรับชม ควรข้ามค่ะ
อดีตทหารผ่านศึกวัยชราเชื้อสายอเมริกันโปแลนด์ อย่าง Walt Kowalski
ที่หลังจากรอดจากสงคราม เขาก็ผันตัวมาทำงานในโรงงานรถยนต์ฟอร์ดจนเกษียณ Walt ถือเป็นชายชราที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลอย่างแท้จริง จนถูกลูกหลานรอบข้าง มองว่าหัวโบราณ และเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
หรือแม้กระทั่งหลวงพ่อ Janovich บาทหลวงที่ Dorothy ภรรยาที่เพิ่งเสียชีวิตของเขา ฝากฝังไว้ให้ช่วยดูแล Walt แต่กลับถูกไล่ ด้วยเหตุผลซึ่งหน้าว่า เด็กเมื่อวานซืน อายุ 27 ที่มาเป็นบาทหลวง จะเข้าใจชีวิตได้มากมายแค่ไหนกันเชียว
หลังจากภรรยาเสียชีวิต Walt อาศัยอยู่เพียงลำพังกับเจ้า Daisy สุนัขคู่ใจ ฝั่งลูกๆและครอบครัว ก็ไม่อินังขังขอบกับพ่อตัวเองนัก เพราะเจอหน้ากันทีไร ก็มีเหตุให้โดนตำหนิอยู่ร่ำไป
ข้างบ้านของ Walt เป็นบ้านของครอบครัวของชาวม้ง เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะในหมู่บ้านนั้น มีทั้งคนม้ง คนยิว คนผิวสี อยู่มากมาย นับได้ว่าคนอเมริกัน กลายเป็นคนกลุ่มน้อยในหมู่บ้านนี้ซะเอง
Walt มักขวางหูขวางตา ครอบครัวชาวม้งเพื่อนบ้านอยู่เสมอ และไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะยื่นมิตรไมตรีให้ ซึ่งลูกสาวและลูกชายของครอบครัวเพื่อนบ้าน กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น เช่นเดียวกับหลานๆของเขา มีชื่อว่า Sue และ Thao
กลางดึกคืนหนึ่ง Thao เกือบโดน Walt ยิง เพราะเขาโดนแก๊งนักเลงชาวม้งที่เป็นญาติๆกัน บังคับให้เข้าไปขโมยรถ Ford Grand torino สุดหวงของชายชราข้างบ้าน แม้จะรอดมาได้แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ทำให้ Thao รู้สึกผิดมาก
โดยเฉพาะเมื่อ แก๊งนักเลงมาบังคับให้ Thao ออกไปด้วยอีก แต่เขาไม่ยอม จนเกิดเหตุชุลมุน กลับเป็น Walt ที่เอาปืนมาขู่ จนเหตุการณ์สงบลงได้
Walt ทำไปเพราะเหตุการณ์เริ่มบานปลายมายังสนามหน้าบ้านของตัวเองเท่านั้น แต่ครอบครัวชาวม้งและญาติถือเป็นบุญคุณ จนนำข้าวของ ทั้ง อาหาร ของใช้ และดอกไม้มาวางไว้ให้ที่หน้าบ้านไม่ขาด
ต่อมา Walt บังเอิญช่วย Sue จากกลุ่มวัยรุ่นผิวสีที่กำลังทำรุ่มร่ามกับเธอเข้าอีกครั้ง นั่นยิ่งทำให้เขาถูกมองว่าเป็นวีรบุรุษมากขึ้นเป็นอีก แม้ Walt จะไม่ได้ต้องการที่จะเป็นก็ตาม แต่จากเหตุการณ์นั้น เขาก็ได้สนิทสนมกับ Sue มากขึ้น จนเธอชวนเขาไปร่วมในงานสังสรรค์ของครอบครัวชาวม้งด้วย
Thao สารภาพกับ Walt และขอโทษที่เคยคิดจะขโมยรถของเขา แม้จะทำให้ Walt ฉุนมาก แต่เขาก็จำเป็นต้องรับ Thao มาช่วยทำงานเพื่อไถ่โทษ ตามที่แม่ของ Thao ขอร้อง
Walt ถือโอกาสนี้ใช้ Thao ให้ซ่อมหลังคาบ้านและปรับภูมิทัศน์ของบ้านตรงข้าม ซึ่งเขารำคาญตามานาน เพราะเป็นที่อยู่คุณปู่และหลานสาวตัวน้อยชาวม้งเช่นกัน บ้านจึงไม่ค่อยได้รับการซ่อมแซมมากนัก
Thao เป็นเด็กวัยรุ่นที่ขยันขันแข็งคนหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อWalt เห็นความตั้งใจในการทำงานให้สำเร็จของ Thao ก็เริ่มนึกเอ็นดู จนในที่สุด เขาก็พา Thao ไปฝากงานกับเพื่อนที่ทำงานด้านก่อสร้าง และยังสอนการใช้ชีวิตหลายๆอย่างให้ พร้อมทั้งออกเงินค่าเครื่องมือที่ใช้ในงานก่อสร้างให้ก่อนเสียอีก
ในที่สุด Walt ก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าเขาสนิทกับครอบครัวของ Thao มากกว่าลูกหลานแท้ๆของตัวเองเสียอีก เขาไปร่วมสังสรรค์และพูดคุยกับ Thao และ Sue อย่างถูกคอ แม้ในตอนที่ Walt ไอหนักเข้าจนมีเลือดปน มีแต่เด็กทั้งคู่ที่เป็นห่วง ตัว Walt เองแม้จะไปหาหมอมาแล้ว ก็ยังไม่กล้าบอกอาการให้ลูกชายตัวเองรู้
Thao ยังต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มนักเลงม้ง ที่ยังพยายามมายุ่งและทำร้ายร่างกายเขา เมื่อ Walt รู้เข้าเขาบุกไปซุ่มทำร้ายหนึ่งในแก๊ง และกำชับว่าอย่ามายุ่งกับ Thao อีก
แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่ Walt คาดไว้ เมื่อกลุ่มนักเลงขับรถมากราดยิงที่บ้าน Thao แม้คนในบ้านไม่มีใครบาดเจ็บร้ายแรง แต่โชคร้ายที่ Sue ไม่ได้อยู่บ้าน เธอออกไปหาเพื่อนในคืนนั้นพอดี และ กลับมาพร้อมสภาพที่ยับเยิน เธอถูกพวกนักเลงรุมขืนใจและทำร้ายร่างกาย Walt โกรธแค้นสุดขีด เขาแทบใจสลายกับสภาพของ Sue ที่ได้เห็น
Thao ขอร้องให้ Walt พาเขาไปแก้แค้น แต่ Walt ขอเวลาวางแผนก่อน บาทหลวงJanovich ที่มาช่วยเหลือครอบครัวของ Thao ได้คุยกับ Walt และขอร้องให้เขาอย่าคิดทำอะไร แต่ Walt เองกลับครุ่นคิดถึงหนทางที่ครอบครัวของ Thao จะอยู่รอดปลอดภัยจากนักเลงพวกนั้นได้อย่างไร ในเมื่อนิสัยของชาวม้งคือปิดปากเงียบ และตำรวจก็ไม่อาจช่วยจัดการได้
วันหนึ่ง Walt ได้ตัดผม โกนหนวด และนำสูทไปเข้าให้พอดี และไปสารภาพบาปกับบาทหลวง Janovich อีกด้วย ทำให้บาทหลวงกังวลใจ และขอร้องให้ตำรวจไปตรวจตราที่บ้านของกลุ่มนักเลง เพราะว่ากลัว Walt จะบุกไปและเป็นอันตรายซะเอง แต่เมื่อรออยู่นาน และไม่เห็นเหตุการณ์ผิดปกติ พวกตำรวจก็ขอตัวกลับ และบังคับให้บาทหลวงกลับไปด้วยกัน
Thao มาหา Walt เพื่อดูอาวุธที่เตรียมไว้ แต่กลับถูกขังไว้ในบ้านแทน Walt บอกเพียงว่าเขาเคยฆ่าคนมาแล้วในสงคราม และไม่อยากให้ Thao รับรู้ถึงความรู้สึกนั้น อนาคตของ Thao นั้นยาวนานกว่าเขามาก ให้เขาจัดการเรื่องนี้เองดีกว่า หลังจากนั้นก็โทรบอก Sue เรื่องกุญแจบ้าน และฝากเจ้า Daisy ไว้กับอาม่าของ Thao
Walt บุกเดี่ยวไปยังบ้านของแก๊งนักเลง เขาตะโกนเสียงดัง จนชาวบ้านแถวนั้นออกมามุงดู Walt หยิบบุหรี่ขึ้นมา และขอไฟจุดบุหรี่ ในขณะที่เขากำลังเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างภายใต้เสื้อออกมา กลุ่มนักเลงก็สาดกระสุนใส่เขาไม่ยั้ง ปรากฏว่าสิ่งที่ Walt หยิบออกมานั้นมีเพียง ไฟแช็กอันหนึ่งเท่านั้น ทำให้นักเลงทั้งกลุ่มโดนตำรวจรวบ โดยที่ชาวบ้านแถวนั้นเป็นพยานได้ว่า Walt มาขอไฟจุดบุหรี่ และไร้อาวุธใดๆ
ภายในงานศพของ Walt นอกจากลูกหลานแล้ว ครอบครัวของ Thao และ Sue มาร่วมงานด้วยความเศร้า และเมื่อเปิดพินัยกรรมก็พบว่า ทรัพย์สินเพียง 2 อย่างที่เขามี อย่างแรกคือบ้านนั้นถูกยกให้โบสถ์ และรถ Grand torino สุดหวงของ Walt นั้น เขายกให้กับ Thao ซึ่งThaoก็ดูแลทั้งรถและเจ้า Daisy เป็นอย่างดี และคงไม่มีวันลืมเจ้าของตัวจริงของทั้งคู่ไปได้
หนังเรื่องนี้มีโอกาสได้ดูครั้งแรกทางทีวี เมื่อสิบปีมาแล้ว ตอนนั้นไม่ได้ดูตั้งแต่ต้นเรื่อง แต่จำได้ว่าร้องไห้จนตาบวมกับตอนจบที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน เมื่อหยิบมาดูอีกครั้ง ก็ยังประทับใจเหมือนเดิม และยิ่งเข้าใจถึงเหตุผลของปู่ Walt ว่าต้องการกำจัดแก๊งนักเลงไม่ให้มายุ่งกับครอบครัว Thao และ Sue ได้อีก ประกอบกับตัวเองเริ่มป่วยไข้ จึงขอใช้ชีวิตที่เหลือ แลกกับการให้แก๊งนักเลงโดนรวบเข้าซังเต คงจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
โฆษณา