20 พ.ค. 2020 เวลา 22:00 • ปรัชญา
“ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓
ความสุขที่เกิดจากความสงบของใจนี้ ต้องเกิดจากการปฏิบัติ การจะปฏิบัติได้ก็ต้องมีเวลาปฏิบัตินั่นเอง ถ้ายังไปเกี่ยวข้องกับการหาเงินใช้เงินอยู่ เวลาจะไปปฏิบัติก็ปฏิบัติไม่ได้ ก็จะติดอยู่ ไม่สามารถเข้าสู่การปฏิบัติเพื่อความสุขที่แท้จริงได้ คนที่จะไปปฏิบัติเพื่อเข้าสู่ความสุขที่แท้จริงได้นี้ต้องสละข้าวของเงินทองออกบวชกัน ดูพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่าง ถ้าพระพุทธเจ้ายังเสียดายเงินเสียดายทองอยู่ ยังอยากอยู่กับความสุขแบบในวังอยู่ ก็จะไม่สามารถที่จะออกบวชได้ เมื่อไม่ได้บวชก็จะไม่มีเวลาที่จะมาสร้างความสงบที่จะเป็นความสุขที่แท้จริงให้แก่ใจได้ พระพุทธเจ้าก็เลย ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง จะเอาทั้ง ๒ ทางไม่ได้ จะเอาความสุขจากการมีทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทอง แล้วจะปฏิบัติควบคู่ไปด้วย มันทำไม่ได้ ทำก็ไม่ได้ผล เพราะมันขวางกัน ขัดกัน ไปกันคนละทิศคนละทาง เหมือนไปทิศเหนือกับไปทิศใต้นี่ มันก็จะดึงกันไปดึงกันมา เดี๋ยวอยากได้ความสุขทางทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทอง มันก็ดึงไปทางหนึ่ง เดี๋ยวก็อยากได้ความสุขที่เกิดจากความสงบ มันก็ดึงกลับไปอีกทางหนึ่ง มันก็ดึงกันไปดึงกันมา จะไม่สามารถไปสู่ความสุขที่แท้จริงได้
การที่จะไปสู่ความสุขที่แท้จริงนี้ ต้องตัดความสุขทางทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองไป แต่ในเบื้องต้นอาจจะยังทำไม่ได้ ก็ให้ทำแบบซ้อมไปก่อน เช่น หาวันใดวันหนึ่ง สมัยก่อนเราเรียกว่า “วันพระ” วันที่ไม่ต้องทำงานทำการ เอาวันนั้นมาฝึกเป็นนักบวช ชาวพุทธเราจะถือศีล ๘ กัน ถือศีลของนักบวช แล้วมาฝึกอยู่แบบนักบวช คือ ไม่อาศัยทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองมาเป็นเครื่องมือให้ความสุข จะมาหาธรรมะเป็นเครื่องมือให้ความสุข อาศัยการภาวนา การควบคุมจิตใจด้วยสติ ด้วยปัญญา เพื่อให้ใจเข้าสู่ความสงบ อันนี้ก็เป็นการทดลองทำก่อน เพราะถ้าเราไม่ลองทำ เราจะไม่รู้ว่าเราทำได้หรือไม่ได้ เหมือนการหัดว่ายน้ำ เวลาจะหัดว่ายน้ำ เราไม่ลงไปที่น้ำลึกก่อน เราเผื่อว่ายไม่ได้ เราก็ยังยืนได้อยู่ ถ้าไปว่ายในที่มันลึก พอเกิดว่ายไม่ได้ขึ้นมา มันก็ไม่มีที่ยืน มันก็จมน้ำตายได้ ฉะนั้นการที่เป็นฆราวาสแล้วจะไปบวชนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องมีการซ้อมก่อน ด้วยการเรียนรู้วิธีอยู่แบบนักบวชก่อน
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
โฆษณา