21 พ.ค. 2020 เวลา 13:04 • บันเทิง
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน
นี่ก็เป็นบทความแรกที่ผมจะเริ่มเขียนลงในเพจนี้
เป็นเพจที่เกี่ยวกับการรีวิว(Spoiler)ภาพยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
เริ่มต้นที่หนัง Parasite ชนชั้นปรสิต ภาพยนต์สัญชาติเกาหลีที่พึ่งได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่ 92 ไปทั้งหมด 4 รางวัลด้วยกันคือ
1.สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
2.ผู้กำกับยอดเยี่ยม
3.บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
4.ภาพยนต์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม
(รางวัลออสการ์ หรือ Academy award ซึ่งลักษณะของรางวัลจะเป็นรูปปั้นที่มีชื่อว่า Academy award of merit เป็นรูปอัศวินถือดาบครูเสด)
หนังเรื่องนี้กำกับโดย บงจุนโฮ ซึ่งก็คือคนด้านล่างนี้
ผมอยากจะเล่าประวัติของผู้กำกับท่านนี้สักหน่อย ของบงจุนโฮ เกิดและเติบโตในที่เมือง แทกู เกิดมาในครอบครัวนักเขียนและศิลปิน ซึ่งตามเดิมครอบครัวเค้าอยากให้เรียนคณะสังคมวิทยา แต่บงจุนโฮเป็นคนที่หลงใหลในภาพยนตร์ จึงเข้าร่วมอบรมหลักสูตร 2 ปีที่ Korean Academy of film arts ซึ่งในตอนนั้นเค้าก็ทำหน้าที่ทั้งเขียนบทและผู้ช่วยผู้กำกับ ซึ่งบงจุนโฮ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่าอะไรคือจุดกำเนิดที่ทำให้เค้าหลงรักภาพยนตร์
“ผมเติบโตขึ้นมาในยุค 1970s ซึ่งตอนนั้นกองทัพสหรัฐฯ มีช่องทีวีในเกาหลีเป็นของตัวเอง ทุกคืนวันศุกร์และเสาร์ช่องนี้จะมีหนังอเมริกันให้ดูเสมอ ผมมักนั่งดูคนเดียวในขณะที่คนในครอบครัวเข้านอนหมด ผมดูหมดทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นหนังชั้นยอดหรือเกรดบี ตอนนั้นเกาหลีตกอยู่ภายใต้รัฐบาลเผด็จการ และบรรยากาศบ้านเมืองมีความเป็นอนุรักษนิยม แต่หนังที่ฉายทางทีวีวันศุกร์นั้นมีความเสรีนิยมมาก”
ในส่วนของสไตน์การทำของบงจุนโฮ ทุกเรื่องล้วนมีประเด็นทางสังคมการเมืองมันเป็นความสนุกของเขาในการสอดแทรกประเด็นทางสังคมที่ซีเรียสลงไปในจุดต่าง ๆของหนังนำไปสู่การวิพากษ์สังคมในหนังของเขาเอง และได้กลายเป็นแบบแผนเฉพาะในการเขียนบทหนังที่เป็นเอกลักษณ์ของบจุนโฮไปในทุก ๆ เรื่อง
ทำไม ถึงตั้งชื่อเรื่องว่า Parasite หละ??
ตอนแรกทุกคนต่างคาดหวังว่า Parasite จะต้องเป็นหนังสัตว์ประหลาดหรือหนังไซ-ไฟ แต่ตัวละครในหนังเรื่องนี้คือมนุษย์ เป็นครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้จริง ๆ อยากใช้ชีวิตผูกสัมพันธไมตรีกับผู้อื่น แต่มันไม่ได้ผลสำหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาเลยถูกผลักให้ต้องมีความสัมพันธ์แบบปรสิต ผมมองว่ามันเป็นหนังแนวโศกสุข (โศกนาฏกรรมผสมสุขนาฏกรรม) ที่เต็มไปด้วยความตลก ความสยอง และความเศร้า เมื่อคำนึงว่าคุณอยากใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมสุข ประสบความสำเร็จ แต่มันยากเย็นเหลือเกิน
เกริ่นมาตั้งนานมาเข้าเนื้อเรื่องกันดีกว่าถ้าสังเกตุในฉากเริ่มแรก การกำหนดให้ผู้ชมได้รับรู้ตั้งแต่ช็อตเปิดเรื่องผ่าน
การเคลื่อนกล้องจากบนลงล่างว่า ครอบครัวคิม
ซึ่งประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูกสาว และลูกชาย ไม่ได้เป็นเพียงแค่พวกหาเช้ากินค่ำและทำงานสารพัดสารเพ ทว่าห้องของพวกเขาก็ยังโผล่พ้นพื้นถนนมาแค่ครึ่งเดียว และตอกย้ำความเป็นคน ‘ระดับล่าง’ อย่างแท้จริง และจุดกำเนิดปัญหาของหนังเรื่องนี้ เริ่มจาก
ครอบครัวอบอุ่น
วันนึงเพื่อนของ คิมคีวู (ที่แสดงโดย ชเวอูชิก) ได้เอาหินก้อนนึงมาให้ เพื่อเป็นสิ่งนำความโชคดี ซึ่งเพื่อนของคิมคีวูก็เป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษให้กับลูกในครอบคนรวยครอบครัวนึง แต่ว่าเพื่อนของเขานั้นกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ก็เลยจะให้คิมคีวูมาช่วยสอนต่อหน่อย แต่คิมคีวูไม่ได้เรียนต่อที่มหาลัย
จึงไม่ได้มีเอกสารที่จะไปยืนยันว่าเป็นนักศึกษาเลยได้ให้น้องสาวที่ชื่อว่า คี-จอง (แสดงโดย พัคโซดัม) ที่เก่งในเรื่องการปลอมเอกสารใช้โดยโปรแกรม Photoshop โกงประวัติการศึกษาทำเอกสารปลอมว่าเป็นนักศึกษาในมหาลัย หลังจากนั้น คิมคีวู ไปที่บ้านเศรษฐีได้ ซึ่งบ้านนี้มีอยู่กับ4 คน คุณนาย คุณชายพัค ลูกสาวประมาณเด็กม.ปลาย และลูกชายคนเล็กชั้นประถม
ก้อนหินนำโชคที่เพื่อนนำมาให้
ซึ่งตอนเดินเข้ามาพบเจอกับแม่บ้าน และคุณนายยอน-กโย (แสดงโดย โจยอจอง) เป็นคนที่ค่อนข้างง่ายๆและหัวอ่อนมาก หลังจากั้นจึงให้คิมคีวู โดยใช้ชื่อเป็นครูเคลวิน สอนภาษาอังกฤษโดยเธอจะเข้าไปดูด้วย ถ้าทุกอย่างโอเคเธอจะจ้างต่อ
ส่วนลูกชายเป็นเด็กที่ซนและคลั่งไคล้อินเดียแดง มีอารมณ์ศิลปะมีพรสวรรค์ในการวาดรูป คุณนายคุยกับครูเคลวินว่า จ้างติวเตอร์สอนศิลปะกี่คนก็ไม่มีใครควบคุมอยู่ได้สักที ครูเคลวิน จึงเล็งเห็นโอกาส ได้บอกไปว่า รู้จักครูสอนศิลปะคนนึงจบมาจากอมเริกาซึ่งเป็นน้องสาวของเขาเอง
ซึ่งใช้ชื่อว่าครู เจสสิก้า โดยระหว่างสอนเธอบอกว่าให้คุณนายออกไปรวมทั้งแม่บ้านด้วย เพราะจะรบกวนการสอนของเธอเอง พอได้ลองมาสอนลูกชายของคุณนายไม่รู้ทำอย่างไงลูกชายของเธอกลับเป็นเด็กสุภาพเรียบร้อยขึ้นมาทันที
คุณนายจึงจ้างครูเจสสิก้าต่อไป ต่อมาเธอจึงวางแผนที่จะเอาพ่อของเธอ ที่ชื่อว่า คิม กีแท็ก (แสดงโดย ซองคังโฮ)เข้ามาทำงานตำแหน่งคนขับรถ เธอจึงวางแผนกำจัดคนขับรถคนเก่าออกซึ่งก็สำเร็จ
เมื่อเรื่องดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เธอก็ว่าแผนที่จะไล่แม่บ้านออกที่ชื่อว่า มุนกวัง (แสดงโดย อี จองอึน) เพื่อนำแม่ของเธอที่ชื่อว่า ซุงซุก (แสดงโดย จัง ฮเยจิน) และแล้วเธอก็ทำสำเร็จอีก ทุกที่มาถึงจุดนี้ดูราบลื่นมากที่สุด ทุกคนในครอบครัวตระกูลคิม ได้เข้ามาทำงานในบ้านทุกคน และได้ใช้ชีวิตเหมือนที่ฝันไว้จริงๆ
ปลอมตัวเป็นครูเจสสิก้า
จนมาอยู่ในวันนึงที่ครอบครัวเศรษฐีนี้ต้องการออกไปตั้งแคมป์ ครอบครัวคิมเลยพากันมาปาร์ตี้ที่บ้านเหมือนกับเป็นบ้านของตัวเองสะงั้นในขณะที่ทุกคน
กำลังมีความสุข ความซวยที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมาคือวันนั้นฝนตกหนักมาก
แม่บ้านคนเก่าได้มากดออดหน้าบ้านและบอกว่าลืมของสำคัญไว้ที่ห้องใต้ดินเป็นของที่สำคัญมากๆ (ช่วยชั้นหน่อยเถอะ ไรงี้) แม่ของพระเอกตอนแรกก็เหมือนว่าจะไม่ให้แต่ด้วยความสงสารจึงให้เข้ามาและให้พ่อและลูกๆไปหลบกันก่อน พอแม่บ้านคนเก่าเข้ามาและเดินไปที่ชั้นใต้ดิน ความพีคคือดันมีชั้น
ใต้ดินลับ และสิ่งของที่อยู่ชั้นใต้ดินคือสามีของแม่บ้าน ซึ่งทำไว้ตั้งแต่เจ้าของบ้านคนเก่า
สาเหตุที่ต้องมาอยู่ก็เพราะว่า สามีเป็นหนี้นอกระบบ โดนตามทวงอยู่เธอจึงเห็นจังหวะที่เจ้าของบ้านคนเก่าย้ายไปต่างประเทศ และครอบครัวพัคจะย้ายเข้ามาอยู่เจ้าของบ้านคนเก่าเลยแนะนำว่ามีแม่บ้านคนนึงที่ทำงานเก่งมีระเบียบมากครอบครัวพัคเลยจ้างเธอต่อ
ในห้องใต้ดินมีทั้งตู้เย็นห้องน้ำ สวิสต์ไฟที่สามารถส่งรหัสมอสได้ ต่อมาเธอได้ขอร้องให้ซุงซุกเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับและขอให้เอาอาหารมาให้สามีทุกอาทิตย์โดยเธอจะจ่ายให้ทุกเดือนแม้จะไม่มากเพราะเธอก็เหลือเงินไม่เยอะแล้ว
ในขณะที่คุยกันครอบครัวคิมที่แอบฟังอยู่ดันลื่นบันไดลงมาทำให้ความแตก แม่บ้านคนเก่าเลยฉวยโอกาสหยิบโทรศัพท์ถ่ายคลิปเก็บไว้และขู่ว่าถ้าเข้ามาทำร้ายจะกดส่งคลิปให้คุณนาย
แต่ในช่วงเวลาที่แม่บ้านคนเก่าเพลอ พ่อของพระเอกก็วิ่งเข้าชาร์จใส่แม่บ้านและก็เกิดการแย่งชิงมือถือกันอย่างดุเดือด ในขณะนั้นเองความซวยยังไม่จบซวยซ้ำซวยซ้อน คุณนายพัคโทรมาบอกว่าฝนตกหนัก ใกล้จะถึงบ้านแล้วในอีก 8 นาทีให้ทำอาหารไว้ให้ด้วย
ครอบครัวคิมจึงจัดการแม่บ้านและสามีมัดไว้และเอาทั้งคู่ลงไปไว้ชั้นใต้ดิน พอครอบครัวเศรษฐีมาถึง ครอบครัวคิมยังหนีออกไปไม่ทันเลยต้องซ่อนตัวในบ้านใต้โต๊ะ
ในระหว่างนั้นเองแม่บ้านคนเก่าก็พยายามเดินขึ้นมาจากห้องใต้ดิน แม่พระเอกได้ถีบลงไปอีกรอบจนตกบันไดและศรีษะไปกระแทกกับพื้นทำให้เริ่มมองไม่ชัด (น่าสงสารมาก)
ในคืนนั้นพอครอบครัวเศรษฐีกำลังจะเข้านอนลูกชายคนเล็กก็อยากจะเอากระโจมอินเดียแดงไปนอนนอกบ้านคุณนายกับสามีเลยต้องมานอนที่โซฟาเพื่อดูลูกชาย ส่วนครอบครัวพระเอกก็ยังหลบอยู่ใต้โต๊ะ
ระหว่างนั้นก็ได้พูดขึ้นมาว่า คนขับรถ(ที่เป็นพ่อพระเอก) เกือบที่จะพูดลามปามกับเขาหลายครั้งแต่ก็ถือว่ายังโอเคอยู่ แต่สิ่งที่ไม่ชอบที่สุดเลยคือกลิ่นตัวเหม็นเหมือนกลิ่นสาบพวกคนที่ขึ้นมาจากรถไฟใต้ดิน
ครอบครัวพระเอกรอจนกระทั่งสองผัวเมียหลับแล้วค่อยหลบออกไป เนื่องจากวันนั้นฝนตกหนักอย่างมากเมื่อคิมคีวูกลับมาถึงบ้านน้ำก็ได้ท่วมไหลเข้าบ้านเกือบจะท่วมหัวเลย
บ้านน้ำท่วม เหลือแต่ก้อนหินคือสิ่งที่มีค่าที่สุด
จนสุดท้ายก็ต้องก็ต้องไปหลบภัยที่โรงยิมเช้าวันต่อมา คุณนายอยากจะจัดงานวันเกิดชดเชยให้กับลูกชาย คุณนายก็เลยชวน 2ติวเตอร์มาร่วมงานด้วย ส่วนพ่อของพระเอกก็ถูกจ้างมาให้แสดงเป็นอินเดียแดง
ระหว่างนั้นเองคิมคีวูก็ตัดสินใจว่าจะจัดการแม่บ้านคนเก่ากับสามี ด้วยกันนำหินที่ได้จากเพื่อนที่หยิบติดมือมาจากตอนหนีน้ำท่วม พอพระเอกเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ก็ดันทำหินหลุดมือ ช่วงระหว่างนั้นสามีของแม่บ้านก็นำเชือกมารัด
ทั้งคู่เริ่มต่อสู้กันพระเอกก็พยายามหนีขึ้นมาแต่พอหนีขึ้นมาได้ก็ดันพลาดท่าไปล้มเอาซะงั้น สุดท้ายเลยโดนสามีของแม่บ้านคนเก่าเอาหินที่ตัวเองถือมาทุบไปที่ศรีษะเต็มๆ
หลังจากนั้นสามีของแม่บ้านคนเก่าเนี่ยก็เดินไปหยิบมีดในครัวแล้วก็เดินเข้าไปในสวนที่จัดงานวันเกิดอยู่ น้องสาวของพระเอกที่กำลังเดินถือเค้กวันเกิดมาเซอร์ไพรส์ถูกแทงที่หน้าอกจนเลือดท่วม
ช่วงจังหวะถือเค้ก ก่อนที่จะโดนมีดแทงเข้าที่หัวใจ
ช่วงจังหวะนั้นพ่อพระเอกก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ส่วนสามีแม่บ้านคนเก่าก็ถูกไม้เสียบบาบีคิวแทงล้มไปทับพวงกุญแจรถยนต์ ช่วงนั้นทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด
คุณพัคที่กำลังจะหยิบพวกกุญแจรถยนต์มาก็ทำที่ท่าเหมือนได้กลิ่นสาบเหม็น พ่อพระเอกสังเกตเห็นรู้สึกไม่พอใจเกิดอารมณ์ชั่ววูบ เลยไปหยิบมีดแล้วแทงคุณพัค หลังจากนั้นก็ได้วิ่งหนีไป
ภาพตัดมาที่พระเอกที่ฟื้นหลังจากการผ่าตัดสมอง ส่วนน้องสาวก็ต้องตาย หลังจากนั้นก็ต้องไปขึ้นศาลกับแม่ พร้อมข้อหาหลอกลวง ปลอมแปลงเอกสารแต่โชคดีได้ลงอาญา
พ่อพระเอกก็หนีหายไปอย่างไร้ร่อยรอย พอพระเอกกับแม่กับมาอยู่ที่บ้านก็ยังมีตำรวจมาตามๆดู แต่เวลาผ่านไปก็ไม่มีใครมาตามอีกเลย วันนึงพระเอกเดินขึ้นเขาแล้วไปส่องกล้องดูที่บ้านเศรษฐีก็มีครอบครัวชาวต่างชาติย้ายเข้ามาอยู่ แต่เขาสังเกตเห็นไฟหน้าบานกระพริบเป็นรหัสมอส
สรุปคือ วันนั้นที่พ่อแทงคุณพัคก็หนีออกนอกบ้านแต่นึกขึ้นมาว่ามีห้องใต้ดินจึงได้หลบไปที่นั่น และได้ทำการฝังศพแม่บ้านที่บริเวณส่วนหย่อมหน้าบ้านของเศรษฐี ต่อมาพระเอกเลยตั้งใจทำงานเพื่อหาเงินซื้อบ้านหลังนั้นเพื่อที่จะ
ได้เจอกับพ่ออีกครั้ง
ภาพรวม2ครอบครัว
#ถ้าชอบอย่างไรสามารถติชมได้ ฝากติมตามด้วยนะครับ
#อ่านหนังกันไหม
#blockdit
ที่มา :
โฆษณา