22 พ.ค. 2020 เวลา 08:55 • สุขภาพ
โควิด-19 ‘แว่นขยายความเหลื่อมล้ำ’ มหาเศรษฐีสหรัฐฯ รวยขึ้น 4 แสนล้าน แต่ยอดคนว่างงานพุ่ง 38.6 ล้านคน
ว่ากันว่าวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิด New Normal และวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ๆ ของมนุษย์เท่านั้น เพราะมันยังทำหน้าที่เป็นเหมือน ‘แว่นขยาย’ ที่ช่วยเร่งปฏิกิริยาและทำให้ภาพความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ปรากฏขึ้นชัดเจนยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
ตัวอย่างที่ง่ายที่สุดของกรณีดังกล่าวคือเคสของสหรัฐอเมริกา ที่สำนักข่าว CNBC ได้ออกมารายงานข้อมูลของโครงการของชาวอเมริกันเพื่อการเสียภาษีและสถาบันศึกษานโยบายด้านความเหลื่อมล้ำ โดยชี้ว่าในช่วงที่เกิดโรคระบาดโควิด-19 (กรอบระยะเวลาตั้งแต่กลาง 18 มีนาคม ถึง 19 พฤษภาคม 2020) มหาเศรษฐีในประเทศของพวกเขามีทรัพย์สินพุ่งสูงขึ้นรวม 15% คิดเป็นการเพิ่มขึ้นในจำนวนเงินกว่า 4.34 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 13.8 ล้านล้านบาท
ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินที่เหล่าอภิมหาเศรษฐีครอบครอง ณ ปัจจุบันมีจำนวนเงินรวมกว่า 3.382 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 2.948 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยพบว่า เจฟฟ์ เบโซส์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มค้าปลีก Amazon มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 34,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Facebook ที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นราว 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าบรรดาเศรษฐีอเมริกันที่มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงนี้ส่วนใหญ่ล้วนแล้วอยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลด้วยกันทั้งสิ้น และนับเป็นเพียงไม่กี่อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบเบาจนถึงขั้นอาจจะไม่ได้รับผลกระทบเลยจากการระบาดของโควิด-19
ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลชุดเดียวกันยังชี้ให้เห็นอีกด้วยว่าเหล่าเศรษฐีอเมริกันที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ค้าปลีก โรงแรมที่พัก ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบรุนแรง รายได้ลดลงกันถ้วนหน้า ตัวอย่างเช่น ราล์ฟ ลอเรน (แฟชั่น-ค้าปลีก) ที่มีรายได้หายไปราว 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจอห์น พริทซ์เกอร์ (โรงแรม) ที่สูญเงินไปกว่า 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้ามมาดูฝั่งพลเมืองอเมริกันทั่วๆ ไปกันบ้าง เมื่อข้อมูลจากกรมแรงงานที่เปิดเผยออกมาพบว่าชาวอเมริกันจำนวนกว่า 2.438 ล้านราย ได้ลงทะเบียนเป็นผู้ว่างงานเพื่อรับความช่วยเหลือตามมาตรการรัฐในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้ว่างงานในประเทศทั้งหมดเพิ่มขึ้นสูงผ่านหลัก 38.6 ล้านรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย Reuters มองว่าการที่ตัวเลขยอดลงทะเบียนผู้ว่างงานยังคงเพิ่มขึ้นสูงสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจต่างๆ ในประเทศยังคงไม่เร่งรีบที่จะกลับมาเริ่มจ้างงานพนักงานทั่วๆ ไปในสัดส่วนปกติ แม้บางส่วนจะเริ่มทยอยกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งได้แล้วก็ตาม
เจสัน รีด ศาสตราจารย์ด้านการเงินประจำมหาวิทยาลัยน็อทร์ดาม ให้ความเห็นกับ Financial Times ว่า หากรัฐบาลกลางและรัฐไม่ตื่นตัวและดุดันมากพอในการแก้ไขปัญหาคนว่างงานที่เกิดขึ้น สหรัฐฯ ก็อาจจะมีแนวโน้มที่จะได้เห็นจำนวนผู้ว่างงานเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้อีกแน่นอน
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 ยังทำให้นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจจะถูกแรงเขย่าครั้งรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) หรือในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำที่เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 11 ปีที่แล้วเลยก็ว่าได้
เมื่อปะติดปะต่อข้อมูลทั้งสองชุดนี้รวมกัน ทั้งความมั่งคั่งของอภิมหาเศรษฐีที่มีมูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นในช่วงนี้อย่างมหาศาล และจำนวนคนลงทะเบียนว่างงานในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็พอจะทำให้เห็นว่าตัวเลขทั้งสองนี้ ‘พุ่ง’ แม้จะเป็นการเพิ่มขึ้นเหมือนกัน แต่กลับไม่ใช่เรื่องที่ดีเอาเสียเลย
ในทางตรงกันข้าม ประเด็น ‘ความเหลื่อมล้ำ’ ที่เคยถูกถกเถียงกันอย่างแพร่หลายก่อนหน้านี้ก็กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งใน ‘ความปกติใหม่’ ที่ผู้คนในหลายประเทศต้องเผชิญหน้ากันอย่างไม่เต็มใจเช่นกัน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
โฆษณา