22 พ.ค. 2020 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
จุดจบที่ไม่สวยงาม ของแบรนด์ความงามหมื่นล้าน Victoria’s Secret
“วิกตอเรียส์ซีเคร็ต” แบรนด์ชุดชั้นในสัญชาติอเมริกัน ที่มีสาขามากกว่า 1,000 แห่งทั่วโลก
หลังจากที่ประสบกับวิกฤติทางการเงินสะสมมาเป็นเวลานาน บวกเข้ากับวิกฤติโคโรนาไวรัส ตอนนี้ สาขามากกว่า 250 แห่งทั่วสหรัฐฯ ถูกประกาศปิดบริการเป็นที่เรียบร้อย แต่ทว่าการประกาศปิดให้บริการครั้งนี้ คือเป็นการปิดไป อย่างถาวร..
Cr. Twitter:@dailyromee
วิกตอเรียส์ เป็นหนึ่งในเครือ L Brands ผู้ค้าปลีกด้านอุตสาหกรรมความงามยักษ์ใหญ่แห่งสหรัฐฯ ซึ่งมีแบรนด์ชื่อดังในเครือ ทั้ง Pink, Bath & Body Works และ Victoria’s Secret มีผลประกอบการแต่ละปี ดังนี้..
ปี 2018 (สิ้นสุดงวดบัญชี 3 กุมภาพันธ์ 2018)
มีรายได้รวม 12,632 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไรสุทธิ 983 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปี 2019 (สิ้นสุดงวดบัญชี 2 กุมภาพันธ์ 2019)
มีรายได้รวม 13,237 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไรสุทธิ 644 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ปี 2020 (สิ้นสุดงวดบัญชี 1 กุมภาพันธ์ 2020)
มีรายได้รวม 12,914 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไรสุทธิ -366 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และเมื่อมองไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ (สิ้นสุดงวดบัญชี 4 พฤษภาคม)
มีรายได้รวม 1,654.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
กำไรสุทธิ -296.87 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่า ผลกระทบส่วนหนึ่งมาจากวิกฤติโรคระบาดที่ทั้งโลก ต่างกำลังประสบอยู่..
สำหรับ วิกตอเรียส์ ซีเคร็ท แบรรนด์ชุดชั้นในสตรีและผลิตภัณฑ์ด้านความงาม ก่อตั้งมาตั้งแต่มิถุนายน ปี 1977 ปัจจุบันมีอายุมากกว่า 42 ปี
ชื่อเสียงที่เลื่องลือไปทั่วทั้งโลกของวิกตอเรียส์ สร้างขึ้นผ่านงานแฟชั่นโชว์และนางงามชื่อดังตลอดมา และด้วยความเชื่อมั่นตลอดความเป็นแบรนด์ดัง ตามมาซึ่งเม็ดเงินในแต่ละปี มากกว่าหลักหมื่นล้านเหรียญ
ทว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หน้าร้านส่วนใหญ่ต้องหยุดให้การบริการชั่วคราว ตามมาซึ่งยอดขายของแบรนด์ลดลงกว่าร้อยละ 46 มาอยู่ที่ 821.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน
ในขณะที่อีกหนึ่งแบรนด์หลักอย่าง Bath & Body Works ก็มียอดขายลดลงร้อยละ 18 และปิดสาขาเป็นจำนวน 50 สาขาด้วย
ทั้งนี้ วิกตอเรียส์ ประสบปัญหาทางการเงินมาก่อนหน้า ตั้งแต่อดีตซีอีโอของ L Brands อย่าง Les Wexner ต้องเข้ารับการตรวจสอบ จากคดีความสัมพันธ์ของเขากับ Jeffrey Epstein เศรษฐีที่เกี่ยวข้องกับคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กสาว และฆ่าตัวตายไปเมื่อปีก่อน ซึ่งนั่นตามมาซึ่งความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทอย่างรุนแรง
ไม่เพียงแค่นั้น กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา L Brands ไม่ได้ประสบกับปัญหาจากโรคระบาดอย่างเดียว แต่หลังจากที่ New York Times รายงานข่าวว่าผู้บริหารมีความคิดเกลียดชังต่อสตรีเพศ ยิ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ ตลอดจนหุ้นของบริษัท ที่ร่วงลงไปกว่าร้อยละ 75 ซึ่งถือว่ามากที่สุดในรอบ 5 ปี
จากเหตุผลหลายประการ วิกตอเรียส์ ซีเคร็ท ที่เป็นหนึ่งในนางเอกหลัก ต้องถอนหน้าร้านออกจากสหรัฐฯ 235 แห่ง และอีก 15 แห่งในแคนาดา
นี่ถือเป็นจุดจบที่ไม่สวยงาม ของแบรนด์ความงามหมื่นล้าน ชื่อดังระดับโลก ที่กำลังจะเลือนหายไปจากความเชื่อมั่นเชื่อใจของ..อเมริกันชน
อย่างไรก็ตาม ความน่าสนใจไม่ได้อยู่แค่ในสหรัฐฯ แต่ตอนนี้ ได้ลามออกไปทั่วโลก Victoria’s ที่ถึงจุดจบเพราะความเชื่อมั่น คำถามก็คือ ในประเทศอื่น ๆ ยังมีความเชื่อมั่นต่อ Victoria’s และ L Brands อยู่หรือไม่ ?
1
หากใช่ พวกเขาอาจจะเดินกลับมาผงาดบนพรมแดงได้ แต่ถ้าหาไม่ Victoria’s อาจจะไม่จบแค่ในอเมริกา แต่อาจจะถึงจุดจบไป.. ทั่วทั้งโลก
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
โฆษณา