22 พ.ค. 2020 เวลา 14:19 • ปรัชญา
ทักษะการฟัง : ยิ่งฟังยิ่งมีเสน่ห์
ฟังอย่างไรที่จะทำให้คนตกหลุมรัก
“มนุษย์เกิดมาพร้อมกับสองหูแต่มีเพียงแค่หนึ่งปาก” ประโยคที่เราได้ยินกันบ่อยมากเวลาที่เรากำลังสอนหรือถูกสอนหรือเคยได้ยินจากคนอื่น
เพื่อเป็นการเตือนว่า ‘เราต้องฟังมากกว่าที่จะพูด’ เพราะเรามีสองหู
มีใครเคยได้ยิน deep listening ไหมครับ?
ถ้าเป็นภาษาไทยจะเรียกว่า การฟังอย่างลึกซึ้ง,การฟังอย่างเข้าใจ,การฟังเพื่อบำบัด
ก่อนหน้าที่จะได้รู้จักทักษะนี้ ผมต้องยอมรับตัวเองไว้เลยว่าผมเป็นคนที่พูดมากในระดับหนึ่ง เพราะเวลาที่เราพูดมาก ทุกคนจะฟังเราหรืออาจจะไม่ฟัง(ก็ไม่แน่นะครับ5555)
ผมชอบเล่านั่นเล่านี่ เล่าเรื่องตลก เรื่องไร้สาระ เรื่องเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยมากเพื่อจะได้กลายเป็น ‘จุดสนใจ’ แต่ไม่ได้เรียนรู้เลยว่าการพูดของผมนั้น มันไม่ได้ช่วยอะไรให้กับคนอื่นเลยสักนิด
มันมีจุดเปลี่ยนที่ผมอยากจะเอามาแชร์ครับ
ผมเคยจำเหตุการณ์ได้ว่าผมเคยกำลังพูดอยู่กับกลุ่มเพื่อนผมอยู่ ณ เวลานั้นทุกคนสนใจเรื่องที่ผมพูดมาก แต่ผมจบการเล่าเรื่องของผมในเชิงที่แบบว่า ‘ไม่มีอะไรหรอกเพื่อน เรื่องที่เล่าไปก็งั้นๆแหละ ไม่มีประโยชน์อะไร’
เพื่อนผมในกลุ่มคนหนึ่งพูดออกมาว่า ‘นี่เสียเวลาฟังตั้งนานไม่ได้อะไรเลยเนี่ยนะ’
แล้วทุกคนก็หัวเราะก้ากกันในกลุ่มอย่างสนุกสนาน แต่ในใจลึกๆของผมนั้นแล้วไม่เลยครับ ...
ประโยคนั้นทำให้ผมได้คิด คิดว่าเราพูดอะไรไปเนี่ย เสียเวลาจริง พูดไปตั้งนานไม่เห็นได้อะไรเลย(แต่ก็มีทางอ้อมก็คือผมจะกลายเป็นคนที่ทำให้เพื่อนๆไม่เครียด55555)
ผมลองเปลี่ยนเป็นให้เงียบลงบ้าง เพื่อเรียนรู้ที่จะเริ่มฟัง ซึ่งช่วงแรกๆมันก็ตะกุกตะกักบ้าง เพราะยังติดนิสัยที่เราชอบพูดอยู่
พอเราเปลี่ยนมาฟังบ้าง จะเริ่มได้ยินสิ่งที่คนเขาสื่อสารกันจริงๆ ใจความหลักๆของการสนทนานั้นคืออะไร เรากำลังสื่ออะไรซึ่งกันและกัน
มันเหมือนเป็นการสร้างสมาธิทางอ้อมด้วย
‘คุณอาจจะได้ยินแต่คุณไม่ได้ฟังอย่างแท้จริง’ ประโยคนี้ทำให้ผมเข้าใจได้เป็นอย่างดีเลยว่าความแตกต่างระหว่างการได้ยินกับการฟังได้เป็นอย่างดี
นี่คือสิ่งที่ผมเริ่มฝึกการฟังแบบลึกซึ้งครับ
1.การสบตา
2.การแสดงออกว่าเราสนใจ
3.การให้ความคิดเห็น
4.การเข้าอกเข้าใจเอาตัวเองไปอยู่ในเหตุการณ์
และนี่คือทริกเล็กๆที่ผมไปหามาสำหรับฝึกการฟังอย่างลึกซึ้งครับ
ทุกวันนี้แน่นอนล่ะครับ
เรามีคนพูดมากกว่าคนฟัง ถ้าเกิดอยากจะช่วยคนอื่นที่มีปัญหาแล้วเขาต้องการจะอธิบาย ผมว่า การฟังอย่างลึกซึ้ง(deep listening)นี้ จะช่วยให้คนคนๆนั้นหลงรักและประทับใจในตัวของเราอย่างแน่นอนครับ
ถ้าชื่นชอบบทความ เห็นว่ามีประโยชน์
สามารถกดไลก์ กดแชร์ และกดติดตามเพจเอาไว้ได้เลยนะครับ
จะได้มาเจอกันบ่อยๆ :)
โฆษณา