22 พ.ค. 2020 เวลา 23:36 • ธุรกิจ
"คาถาคุ้มภัยห่างไกลหนี้"
รวมเทคนิคดีๆในการใช้ชิวิตแบบห่างไกลการเป็นหนี้
...หนี้..ไม่ว่าจะเป็นหนี้แบบไหน ก็คงไม่มีใครอยากจะเป็น แต่เชื่อไหมว่าขนาดไม่มีใครอยากเป็น แต่สถิติหนี้ครัวเรือนยังสูงถึง13 ล้านๆบาท คนวัยทำงานอายุ 25-35 ปี เป็นหนี้ส่วนบุคคลและบัตรเครดิตมากกว่าครึ่ง อีกทั้งยังมีโอกาสจะเป็นหนี้เสียถึง 20% แถมสถิติยังบอกอีกว่าคนไทยเป็นหนี้เร็วขึ้น นานขึ้นและมากขึ้นอีกด้วย
...วันนี้แอดมินนำเอาคาถาดีๆมาฝากเพื่อนๆ เพื่อให้รอดพ้นจากวงจรหนี้ ที่อาจจะทำร้ายชีวิตเราไปทั้งชีวิต
................คาถาคุ้มภัยห่างไกลหนี้......................
อย่าทำบัตรเครดิต.....อย่าคิดซื้อเงินผ่อน
อย่าใจอ่อนค้ำประกัน.....อย่าขยันเล่นหวย
อย่าคิดรวยแบบเร่งด่วน......อย่าง่วนซื้อข้าวของ.
อย่ามองรถป้ายแดง.....อย่าแข่งแบรนด์เนม
อย่าอิ่มเอมนอกบ้าน....อย่าเผาผลาญเงินทอง
อย่ามองชีวิตแบบประมาท.....อย่าผิดพลาดไม่อดออม
...ลองมาดูความหมายของคาถากันนะครับว่าจะทำให้เราห่างไกลหนี้ได้อย่างไร?
1.อย่าทำบัตรเครดิต.
...บัตรเครดิต ถือเป็นตัวเร่งชั้นดีในการก่อหนี้ เพราะการมีบัตรเครดิตจะเป็นตัวเร่งให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยเกินตัวคือทำให้เราซื้อของที่มีมูลค่ามากกว่าเงินที่เรามีอยู่ และบางทีก็มากเกินกว่ากำลังที่เราจะหาเงินมาชำระอีกด้วย
...มีคนมากมายเป็นหนี้บัตรเครดิตและไม่สามารถชำระหนี้ได้ หลายคนถูกฟ้อง ถูกบังคับคดี ถูกอายัดทรัพย์ อายัดเงินเดือน ถ้าใครบริหารเงินไม่เป็นก็อย่าคิดมีบัตรเครดิตเลยนะครับ อยู่แบบคนไร้เครดิตแต่ไร้หนี้ ชีวิตดีกว่าเยอะ
1
2.อย่าคิดซื้อเงินผ่อน
...หลายคนมีแนวคิดว่า"หากไม่ซื้อเงินผ่อนก็คงไม่มีโกาสได้ซื้อ"ซึ่งทำให้ใครหลายคนเป็นหนี้ก่อนเวลาอันควร เช่น ผ่อนทีวี ตู้เย็น เฟอร์นิเจอร์ รถมอเตอร์ไซด์ รถยนต์ หรือแม้กระทั่งผ่อนบ้าน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับการซื้อแบบผ่อนชำระนี้ก็คือดอกเบี้ย เจ้าดอกเบี้ยนี่แหละที่อาจทำให้ใครหลายคนถอนตัวไม่ขึ้นไปตลอดชีวิต ยกตัวอย่างง่ายๆ ซื้อบ้านราคา 1 ล้าน แต่หากผ่อนชำระนาน 30 ปี ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นอาจทำให้เราต้องชำระเงินถึง 2 ล้านบาท หรือคิดอีกแบบคือถ้าหาเงินซื้อบ้านด้วยเงินสดใช้เวลาแค่15 ปี แต่หากผ่อนชำระ อาจต้องทำงานหาเงินนานถึง 30 ปี นั่นเท่ากับการเป็นหนี้เกือบตลอดชีวิตเลยทีเดียว เป็นไปได้ซื้อเงินสดกันนะครับ
1
3.อย่าใจอ่อนค้ำประกัน
...มีหลายคนที่ผมรู้จัก เป็นหนี้จากการค้ำประกัน และมักเป็นหนี้ก้อนใหญ่ เพราะไอ้คนกู้ตัวจริงไม่ยอมชดใช้ คนค้ำจึงต้องรับกรรมและรับหนี้แทน ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมา กรณีแบบนี้มีโอกาสสร้างหนี้สูงพอสมควร แม้ว่าคนที่เราจะค้ำประกัน จะเป็นเพื่อน พี่น้อง หรือจะเป็นสามีภรรยาก็ตาม หากไม่อยากเป็นหนี้ ก็หลีกเลี่ยงการค้ำประกันนะครับ
1
4.อย่าขยันเล่นหวย
...ข้อนี้หมายรวมถึงการเล่นพนันและเสี่ยงโชคทุกชนิดซึ่งนับเป็นการเสพติดชนิดหนึ่งที่อาจถอนตัวไม่ขึ้น เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าการเล่นพนันหรือเล่นหวยโอกาสเสียมันมากกว่าโอกาสได้มากโข แต่มันก็เย้ายวนชวนให้เราติดกับดัก ความสนุก ความตื่นเต้น จนถึงขนาดที่ต้องกู้ยืมเงินมาเล่นกันเลย อันนี้มีให้เห็นทั่วไป เลี่ยงได้เลี่ยงนะครับ จะได้ห่างไกลหนี้
1
5.อย่าคิดรวยแบบเร่งด่วน
...เรื่องนี้มีให้เห็นอยู่หลายกรณี น้องๆในบริษัทผมหลายคนถูกชักชวนให้ลงทุนด้วยข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธเพราะให้ผลตอบแทน 30-40% และไม่มีโอกาสขาดทุน โอกาสดีๆแบบนี้มาถึง ก็ต้องไขว่คว้าไว้แม้จะต้องกู้เงินมาลงทุนก็ตามสุดท้ายก็คล้ายแชร์ลูกโซ่ ล้มไม่เป็นท่า ทิ้งไว้แต่หนี้ก้อนโต จำไว้ว่า ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆโดยไม่ต้องศึกษา หาความรู้ ลองผิดลองถูก ไม่งั้นคนคงจะรวยกันทั้งโลก
6.อย่าง่วนซื้อข้าวของ
...คนเป็นหนี้จำนวนมากเกิดจากนิสัยแบบนี้ คือชอบซื้อ ชอบสะสมข้าวของ เครื่องใช้ หรือเสื้อผ้า จนเกินจำเป็น ขอปปิ้งจนลืมไปว่าจะต้องมีเงินเก็บออมไว้บ้าง พอเกิดเรื่องฉุกเฉิน จึงไม่มีเงินมาแก้ปัญหา เกิดการกู้ยืมเป็นหนี้เป็นสินกัน เพราะของที่ซื้อสะสมมันแลกเป็นเงินคืนมาไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ควรสะสมที่สุดคงจะหนีไม่พ้นเงินครับ จะได้ห่างไกลหนี้กัน
7.อย่ามองรถป้ายแดง
...คนจำนวนมากเป็นหนี้ระดับหลายๆแสนจนถึงหลักล้านบาท เพราะต้องการมีรถดีๆไว้ใช้ จึงมองหารถป้ายแดงโดยลืมไปว่ามันราคามากโขจนต้องผ่อนชำระหลายปี พอผ่อนหมดก็มีรถรุ่นใหม่มายั่วยวนใจ ทำให้อยากได้ใหม่ไปอีก แต่ไอ้คันป้ายแดงที่เคยใช้มาห้าหกปีตอนที่ดาวน์มาราคาเป็นล้านตอนนี้เหลือราคาแค่สามแสน เลยต้องยอมเป็นหนี้ผ่อนรถคันใหม่ป้ายแดงกันต่อไป คนที่ติดกับดักแบบนี้มีมากมายนะครับ หากอยากมีรถใช้และคิดว่าตนเองใช้รถไม่ถึงเจ็ดแปดปีก็คงจะเปลี่ยนรถ อันนี้เลิกมองป้ายแดงเถอะ เอาไว้รวยๆก่อนค่อยมองมัน ไม่งั้นจะเป็นหนี้กันหัวโต
2
8.อย่าแข่งแบรนด์เนม
...ข้อนี้เป็นประสบการณ์ตั้งแต่สมัยเรียน มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งติดของแบรนด์เนม ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า กางเกง รองเท้า แถมยังชอบตำหนิผมว่าใช้ของไม่มียี่ห้อมันดูไม่ดี แต่มันก็มายืมเงินผมและเพื่อนๆเป็นประจำ เพราะไม่มีเงินซื้อข้าวกิน หากใครไม่อยากเป็นหนี้ท่วมหัวก็เลิกมองของแบรนด์เนมนะครับ เอายี่ห้อให้เหมาะสมกับฐานะตนเองก็พอ อย่าเกินตัว เช่นเงินเดือนสองสามหมื่นใช้รถสองล้าน อันนี้ติดกับหนี้สิน ลุกไม่ขึ้นแน่นอน ของดีไม่มีแบรนด์ราคาไม่แพง ก็หาไม่ยากหรอกครับ
"ถึงกูจะดูไม่ดี แต่กูก็มีอันจะกินโว้ย"ท่องกันไว้จะได้ไม่เป็นหนี้
1
9.อย่าอิ่มเอมนอกบ้าน
...ข้อนี้ก็ไม่ต่างจากข้ออื่นๆ พฤติกรรมคนมักถูกสร้างขึ้นเพราะการกระทำซ้ำๆ การกิน เที่ยว ดื่ม จนติดเป็นนิสัย จะทำให้เราใช้จ่ายเงินมากมาย จนบางครั้ง เงินไม่พอก็ต้องเป็นหนี้ เพื่อนำเงินมาตอบสนองความสุขนอกบ้านที่เราเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง จนวันนึงมีหนี้มากมายจนถอนตัวไม่ขึ้นก็สายเกินไปเสียแล้ว มาฝึกมีความสุขในบ้านแบบมีค่าใช้จ่ายน้อยๆกันนะครับ
1
10.อย่าเผาผลาญเงินทอง
...หลายคนหลายครอบครัวลืมบริหารค่าใช้จ่ายจิปาถะในบ้าน จนทำให้เงินทองรั่วไหลแบบไม่ทันระวัง รู้ตัวอีกทีเงินเก็บก็ไม่มี ฉุกเฉินทีก็เป็นหนี้ตามมา ข้อนี้ผมกำลังพูดถึง การใช้น้ำ ใช้ไฟ ใช้รถ ใช้โทรศัพท์ แบบไม่ประหยัด เอาสะดวกสบายไว้ก่อน ใช้ชีวิตแบบนี้ ค่าใช้จ่ายประจำจะสูง ลองหันกลับไปดูเงินมันก็รั่วไหลไปหมดแล้ว บางทีค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ ค่าโทรศัพท์รวมๆกันอาจทำให้เงินทองติดลบเลยก็ได้ เรื่องเล็กๆแต่ก็ต้องระมัดระวัง
11.อย่ามองชีวิตประมาท
...ข้อนี้ผมเจอมากับตัวเองเลย คือตอนลูกป่วยหนักนอนโรงพยาบาลหลายวัน ค่าใช้จ่ายเป็นแสน เงินเก็บมีไม่พอ ต้องไปยืมเงินแม่มาใช้ก่อน คิดย้อนไปอีกที เคยมีคนชวนทำประกันสุขภาพให้ลูก แต่เราประมาทคิดว่าลูกคงจะไม่เจ็บป่วยอะไรมากมาย แต่ความจริงคือเราไม่รู้อนาคต การทำประกัน ก็ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดหนี้สินได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ถ้าพร้อมก็ทำไว้เถอะครับ จะได้ไม่ต้องเสียใจภายหลังแถมอาจต้องเป็นหนี้เป็นสินอีกต่างหาก
12.อย่าผิดพลาดไม่อดออม
...ข้อนี้สำคัญที่สุด ถึงแม้คนเป็นหนี้ส่วนใหญ่มักใช้เงินเกินตัว แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ไม่เคยใช้เงินเกินตัว ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ก็ต้องเป็นหนี้ เนื่องจากไม่มีเงินเก็บออม พอมีเรื่องฉุกเฉิน ก็เลยต้องไปกู้ยืมมาแก้ปัญหา ดังนั้น"การอดในบางอย่างเพื่อให้ได้ออม"ยังเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิตห่างไกลจากการเป็นหนี้
ท่องคาถานี้ไว้นะครับจะได้ไม่เป็นหนี้
ขอบคุณครับ
โฆษณา