Blockdit Logo (Mobile)
เรื่องดีดี
•
23 พ.ค. 2020 เวลา 08:12 • ไลฟ์สไตล์
☀️ ช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศร้อนและแดดแรงมากๆเลยนะคะ ออกไปไหนมาไหนก็ร้อนมากมาย ยังไม่พอส่งผลกระทบต่อผิวของเราอีกด้วย เนื่องจากในแสงแดดมีรังสี UVA และ UVB วันนี้ฟางจะมาแนะนำทริคการเลือกเสื้อผ้าสีสันสดใสในการป้องกันรังสี UV กันค่ะ
การสวมใส่เสื้อผ้าในทุก ๆ วันของเราสามารถป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีในแสงแดดได้นะคะ และเนื่องจากเสื้อผ้าในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายแบบและหลากหลายเนื้อผ้าให้เลือกตามความต้องการ ซึ่งทุกคนทราบหรือไม่คะว่าเนื้อผ้าแต่ละประเภทนั้นให้ความสามารถในการป้องกันรังสียูวีต่างกันนะคะ 🙃
เวลาที่คุณเลือกซื้อเสื้อผ้ามาสวมใส่ คุณเคยได้อ่านดู Label กันรึยังเอ่ยยย ? ว่าเสื้อผ้าของเรามีค่า UPF เท่าไหร่กันบ้าง ? แต่ก่อนอื่น ฟางว่า เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่า UPF กันก่อนค่ะ ว่า UPF คืออะไร ?
UPF ชื่อเต็มๆของมันคือ Ulraviolet Protection Factor มันคือค่าความสามารถป้องกันรังสียูวีของสิ่งทอ เช่น เสื้อผ้า กางเกง หมวก ปลอกแขน หรือถุงเท้า เป็นต้นค่ะ
1
คราวนี้ฟางก็จะมาแนะนำชนิดของผ้าที่ควรสวมใส่เวลาที่เราต้องออกแดดกันบ้างนะคะ ปกติผ้าที่มีเนื้อบางเบาก็จะมีความสามารถในการกันรังสี UV น้อยกว่าผ้าที่มีความหนาและแน่นกว่าค่ะ
ภาพจาก : https://pin.it/7wUeS47
โดยทั่วไปผ้าถัก (Knitted fabrics) อย่างเสื้อยืดก็จะมีค่า UPF ที่สูงกว่าผ้าทอ (Woven fabrics) อย่างเสื้อเชิ้ตนะคะ โดยที่ค่า UPF นั้นจะบ่งบอกถึงความสามารถในการป้องกันรังสี UV โดยเกณฑ์ดังนี้ค่ะ
☀️ UPF 15-24 ถือว่าเป็นเกณฑ์ดี กันรังสี UV ได้ 93.4-95.9% เหมาะกับการอยู่กลางแดด 1 นาที - 1 ชั่วโมง
☀️ UPF 25-39 ถือว่าเป็นเกณฑ์ดีมาก กันรังสี UV ได้ 96.0 -97.5 % เหมาะกับการอยู่กลางแดด 1-4 ชั่วโมง
☀️ UPF 40-50+ ถือว่าเป็นเกณฑ์ยอดเยี่ยม กันรังสี UV ได้ 98% เหมาะกับการอยู่กลางแดด 1- 8 ชั่วโมง
ฟางยกตัวอย่างนะคะ เช่น เสื้อที่มีคะแนน UPF เท่ากับ 15 หมายความว่ารังสี UV ของดวงอาทิตย์ 1/15 สามารถเข้าถึงผิวของผู้สวมใส่ ขณะที่เสื้อที่มีคะแนน UPF เท่ากับ 50 หมายความว่าเพียง 1/5 ของรังสี UV ที่ดวงอาทิตย์สามารถเข้าถึงของผู้สวมใส่ และอีกวิธีหนึ่งนะคะ ในการรับรู้การให้คะแนนนี้คือ UPF ที่ 20 ( ให้แสง UV ถึง 1/20 ) เท่ากับการบล็อก 95 % UPF เท่ากับ 40 บล็อก 97.5 % และ UPF 50 บล็อก 98 %
โดยที่เกณฑ์ขององค์กร Consumer product นั้นเค้าจะระบุไว้ว่าผ้าที่มีค่า UPF สูงกว่า 30 ขึ้นไป ถือว่าผ้าชนิดนั้นเป็นผ้าที่ใช้ป้องกันแดดได้ จะได้รับตราสัญลักษณ์แนะนำจากมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง (Sun protective fabrics) ในขณะที่กำหนดที่เกณฑ์ UPF 6 ขึ้นไป ถือว่าเป็นผ้ามาตรฐานที่ควรสวมใส่ในฤดูร้อน (อันนี้ฟางคิดว่าน่าจะของเขตเมืองหนาวและอบอุ่นนะคะไม่น่าใช้เกณฑ์เดียวกับเมืองร้อนอย่างไทยเรา 😅 )
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว อาจมีหลายคนสงสัยว่า " เคยดูป้ายแท็กเสื้อผ้าเหมือนกัน มันไม่เห็นมีเลย แล้วอย่างนี้จะรู้ได้ยังไงว่าเสื้อผ้าที่เรากำลังเลือกกันรังสียูวีได้มั้ย " ใช่มั้ยคะ ? ฟางจึงแบ่งลักษณะของเนื้อผ้ามาเพื่อประกอบกับการตัดสินใจในการเลือกซื้อได้ดังนี้ค่ะ
ภาพจาก : https://pin.it/2HwrQ9P
1. พิจารณาจากสี
สีเสื้อผ้าที่เข้มหรือสีที่สดใสจะช่วยให้ช่วยป้องกันผิวของคุณจากรังสียูวี ได้โดยการ "ดูดซับ " แทนที่จะปล่อยทะลุผ่าน เพราะฉะนั้นสีที่มีความเข้มกว่า สดใสกว่า จะช่วยปกป้องผิวได้ดีกว่าเสื้อผ้าเฉดสีอ่อนๆนะคะ
2. เลือกที่ "เนื้อผ้า "
ผ้าทอแบบหนาแน่น เช่น ผ้าเดนิม (ยีนส์) , ผ้าใบ , ผ้าขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์ จะให้การป้องกันได้ดีกว่าผ้าที่ทอแบบบางๆนะคะ วิธีการง่ายๆเลยคือ ให้คุณลองขึงผ้าให้แสงส่องผ่านดู ถ้าแสงสามารถทะลุเนื้อผ้าได้ง่ายๆ นั่นแสดงว่ารังสียูวีก็ทะลุมาหาผิวเราได้ง่ายเช่นกันค่ะ
3. การะบวนการผลิต
อันนี้ก็สำคัญค่ะ ผ้าฝ้ายที่ไม่ได้ผ่านการฟอกจะมีเส้นใยธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นตัวดูดซับรังสียูวีไว้ ในขณะที่ผ้าโพลีเอสเตอร์แบบเงาและผ้าซาตินน้ำหนักเบาก็สามารถช่วยป้องกันการสะท้อนแสงออกไปได้ ด้วยความเงาของเนื้อผ้าค่ะ นอกจากนี้ผ้าที่ผ่านการย้อมสารป้องกันการแทรกซึมของรังสียูวี อันนี้ก็สามารถช่วยปกป้องได้เช่นกันนะคะ
4. ขนาดและความพอดี
คุณควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้พอดี หรือกึ่งหลวมจะช่วยให้ผ้าปกป้องผิวได้ดีกว่าสวมเสื้อผ้าที่ฟิตๆ เพราะเมื่อเนื้อผ้าถูกยืดออก จะเป็นการเปิดขยายช่องของเส้นด้ายให้แสงแดดทะลุผ่านเสื้อผ้าเข้าหาผิวได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
🌼🌼 ข้อควรรู้ 🌼🌼
นอกจากทั้งหมดที่ฟางพูดถึงมานี้ หากเสื้อผ้ายืดหรือย้วยกว่าปกติ หรือเเม้กระทั่งมีความเปียกชื้น จะเป็นการลดความสามารถในการปกป้องผิว ทำให้รังสียูวีสัมผัสกับผิวได้ง่ายขึ้นนะคะ
อ้อ !! ส่วนค่า UPF และ SPF นั้นมีความแตกต่างกันนะคะ โดยที่ค่า SPF นั้นย่อมาจาก Sun protection factor ซึ่งครอบคลุมการป้องกันรังสี UV เฉพาะ UVB และแสงนะคะ ซึ่งนิยมใช้วัดประสิทธิภาพของครีมกันแดดมากกว่า แต่ถ้าครีมกันแดดมีค่า PA+ ระบุด้วยนั่นหมายความว่า สามารถกันรังสี UVA ได้ด้วยนะคะ ^^
ในขณะที่ค่า UPF นั้นครอบคลุมการป้องกันรังสี UV ทั้ง UVA และ UVB เลย นั้นนิยมใช้วัดประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UV รวมของเครื่องนุ่งห่มด้วยนะคะ 😊
รู้อย่างนี้แล้วหากเพื่อนๆเลือกซื้อเสื้อผ้า ก็ลองหาดูค่า UPF บน Label กันด้วยนะคะ หากเจอก็จะได้ช่วยคุณตัดสินใจในการเลือกซื้อง่ายขึ้น แต่ถ้าหาไม่เจอก็เลือกจากแบบที่คุณชอบ หรือเลือกจากเนื้อผ้า หรือลักษณะที่ฟางได้บอกไป ประกอบการตัดสินใจนะคะ จะได้เลือกเสื้อผ้าที่กันรังสียูวีเพื่อปกป้องผิวของเราจากแสงแดดได้ค่ะ 🙃
# เรื่องดีดี #เลือกเสื้อผ้าให้ป้องกันรังสียูวี ☀️
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา