23 พ.ค. 2020 เวลา 14:21 • ปรัชญา
# นักให้บริการแบบเป็ดและนกอินทรี
เพราะจุดเปลี่ยนของชีวิตในวันนี้ขึ้นอยู่กับความคิดชั่วขณะนั้น อ่านเรื่องราวต่อไปนี้แล้วคุณจะเข้าใจ
ในขณะที่ Harvey Mackay และเพื่อนของเขา กำลังยืนรอแท็กซี่ที่บริเวณด้านหน้าของสนามบินเพื่อรอรถแท็กซี่สักคันขับผ่านมา
จนเมื่อรถแท็กซี่คันหนึ่งขับเข้ามาใกล้ ๆ Harvey จึงรีบโบกมือเรียกให้เขาจอด ซึ่งสิ่งแรกที่สังเกตได้ชัดเจนก็คือ รถแท็กซี่คันนี้ ถูกขัดจนเงาวับ อีกทั้งคนขับรถก็แต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกเน็คไทสีดำ และสวมใสกางเกงสแลคสีดำเงางาม
ทันทีที่คนขับรถแท็กซี่เดินมาใกล้ ๆ เขาทั้งสองคน คนขับรถ คนนั้นก็โค้งตัวลง พร้อมทั้งเปิดประตูรถด้านหลังให้พวกเขา เข้าไปนั่งรอด้านใน
การบริการขั้นที่หนึ่ง
หลังจากนั้นเขาก็ส่งการ์ดใบหนึ่งมาให้ ทั้งสองคนได้อ่าน พร้อมทั้งพูดขึ้นมาว่า “รบกวนอ่านสักหน่อย ในระหว่างที่ผมกำลัง ยกกระเป๋าสำภาระของคุณทั้งสอง เก็บที่ด้านหลังรถให้นะครับ”
ทันทีที่เขาพูดจบ Harvey และเพื่อน ก็รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ทั้งสองจึงเริ่มเปิดอ่านการ์ดใบนั่นดู โดยด้านในได้เขียนระบุไว้ว่า
นี่คือภารกิจของ Wally:
.
เพื่อให้ลูกค้าของผมไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัย ผมจึงอยากจะมอบและสร้างสภาพแวดล้อมภายในรถให้เป็นเหมือนการดูแลคนในครอบครัว
มอบให้ด้วยใจ
ทันทีที่อ่านจบ Harvey ก็ได้เหลือบขึ้นมามองภานในรถ จนเขาได้พบว่า ภายนอกที่ดูสะอาดมากแล้ว ภายในรถคันนี้ยิ่งดูสะอาดสะอ้านมากขึ้นไปอีกเท่าตัว อีกทั้งอุณหภูมิด้านในรถก็กำลังเย็นสบายอีกด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน Wally คนขับรถแท็กซี่ ก็เปิดประตูเข้ามานั่งด้านในรถ ซึ่งในระหว่างที่เขา กำลังปรับเบาะคนขับอยู่นั้นเอง เขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้งว่า “คุณอยากจะดื่มกาแฟสักแก้วไหมครับ
ผมมีกระติกน้ำร้อน พร้อมทั้งซองกาแฟดิป และถ้วยกระดาษ คุณสามารถบอกผมได้เลยนะครับ หากคุณต้องการ และแน่นอนว่าไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ” เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรอย่างมาก
บริการขั้นที่สอง
และเมื่อเสียงของ Wally เงียบไป เพื่อนของ Harvey ก็พูดติดตลกขึ้นมาว่า “ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่ต้องการเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในตอนนี้”
Wally ที่รอคอยคำตอบผ่านการมองจากกระจกมองหลัง จึงตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีปัญหาเลยครับ ผมมีกระติกแช่เย็นไว้สำหรับแช่เครื่องดื่มที่ด้านหน้าพร้อมบริการ มีโค้ก น้ำส้ม และน้ำเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงเครื่องดื่มชูกำลัง อยากรับอะไรไหมครับ”
เมื่อได้ฟังเช่นนั้น Harvey จึงพูดติด ๆ ขัด ๆ คล้ายคนติดอ่าง เพราะความทึ่งขึ้นมาว่า “งั้น ผม ขอ เป็น น้ำโค้ก ครับ”
คำขอ
เมื่อได้ฟังแบบนั้น Wally ก็รีบเอื้อมมือไปหยิบโค้กจากกระติก แล้วก็ยื่นให้กับ Harvey ไป หลังจากนั้นเขาก็ถามทั้งสองคนอีกครั้งว่า
“ในระหว่างที่ผมกำลังจะขับรถออกไป คุณสามารถหยิบหนังสือมาอ่านได้ตามสบายเลยนะครับ ผมมี หนังสือ The Wall Street Journal, Time, Sports Illustrated แล้วก็ USA Today หรือจะให้ผมเปิดวิทยุฟังรายการเพลงโปรดของพวกคุณก็ได้ครับ”
เมื่อพูดจบ รถก็เคลื่อนตัวออกไปจากสนามบิน Harvey จึงยื่นการ์ดคืนให้กับ Wally พร้อมทั้งบอกจุดหมายปลายทางที่พวกเขาต้องการจะไปอีกครั้ง
ระหว่างทาง
Wally จึงพูดแนะนำเส้นทางที่ดีที่สุดในการไปจึงจุดหมายปลายทางของวันนี้ให้กับทั้งสองคนได้ฟัง อีกทั้งเขายังยินดีที่จะแนะนำเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งให้ฟังได้อีกด้วย หาก Harvey และเพื่อนต้องการ
ด้วยความประหลาดใจในการบริการ เพื่อนของ Harvey จึงพูดขึ้นมาว่า “คุณให้บริการแบบนี้กับทุกคนรึเปล่าครับ”
Wally จึงยิ้ม แล้วก็มองผ่านกระจกมองหลัง เพื่อตอบพวกเขาพร้อมรอยยิ้มว่า“ไม่หรอกครับ จริง ๆ แล้วผมเพิ่งเริ่มมาให้บริการแบบนี้ได้สองปีเอง
เรื่องราว
เพราะเมื่อห้าปีก่อนตอนขับแท็กซี่ใหม่ ๆผมมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการบ่น การด่า ในระหว่างที่ขับรถ ผมทำทุกวันราวกับว่าการบ่นคืองานอดิเรกไปเลยครับ จนวันหนึ่งผมได้ฟัง Wayne Dyer
นักเขียนที่มาพูดออกรายการวิทยุ เพื่อโปรโหมดหนังสือของเขาที่ชื่อว่า ‘You'll See It When You Believe It .’ ซึ่งในวันนั้น Dyer ได้พูดว่า ‘ถ้าหากในตอนเช้า คุณตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยความคิดที่ว่า วันนี้มันคือวันที่แย่ ตลอดทั้งวันในวันนั้นของคุณ ก็จะได้พบเจอแต่เรื่องแย่ ๆ และเรื่องที่น่าผิดหวัง
ฉะนั้น จงหยุดบ่น หยุดคิดเรื่องลบ ๆ ในตอนเช้า แล้วดึงตัวเองออกมาจากข้อเปรียบเทียบต่าง ๆ ที่เรามีอยู่ในหัว
รายการวิทยุ
เพราะหากคุณไม่ยอมเอาความคิดลบ ๆ เหล่านั้นออกไป คุณก็จะเป็นได้เพียงแค่เป็ด ที่ไม่สามารถหยิบจับอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง
แต่หากคุณหยุดความคิดเหล่านั้นได้ แล้วเริ่มโฟกัสสิ่งที่คุณจะทำจริง ๆ คุณก็เป็นเหมือนดังเช่นนกอินทรี ที่มองเห็นโอกาสในการทะยานสู่เป้าหมายได้อย่างน่าทึ่งเลยแหล่ะ’
ซึ่งทันทีที่ผมฟังจบ ผมก็รู้เลยว่า ผมเป็นอย่างนั้นจริง ๆ วัน ๆ นึง ผมแทบจะหยิบจับอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยซักอย่าง เพราะมั่วเอาเวลาไปบ่นด่าคนอื่นเขา ตั้งแต่นั้นมา ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตัวเอง
ดำเนินต่อไป
หลังจากนั้นมาผมก็เริ่มฝึกตัวเอง จนมันก็ทำให้ผมได้เห็นจุดเปลี่ยน ในระหว่างที่ผมหยุดคิดลบ และเริ่มสังเกตรถแท็กซี่คันอื่น ๆ จนได้รู้ว่า
รถส่วนใหญ่มักจะดูสกปรก อีกทั้งคนขับหลายคนก็ชอบทำตัวไม่เป็นมิตร จึงเป็นเหตุให้ลูกค้าไม่ชอบ และไม่มีความสุขที่ได้ใช้บริการ ผมจึงตัดสินใจเริ่มต้นจากการพูดเพราะ ๆ กับลูกค้าก่อน ซึ่งผลที่ได้กลับมา มันก็ทำให้ผมมีความสุขมากขึ้นจริง ๆ”
“ให้อย่างไรได้อย่างนั้นสินะครับ” Harvey พูดเปรยขึ้นมา
ส่วนร่วม
Wally จึงตอบกลับมาพร้อมด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่เลยครับซึ่งในปีแรกที่ผมเป็นนกอินทรีย์ฝึกหัด รายได้ของผมก็เพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่าจากปีก่อนอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งปีนี้มันก็เพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ เกือบจะสี่เท่าแล้ว
ผมจึงรู้สึกโชคดีมาก ที่ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองในวันนั้น จนกลายเป็นผมได้ในทุกวันนี้ อีกอย่างหนึ่ง
แต่ก่อนผมแทบจะไม่มีลูกค้าเลย ต้องรอเป็นวัน ๆ แตกต่างจากทุกวันนี้มาก ลูกค้าบางท่านติดต่อมาหาผมโดยตรง เพื่อที่จะทำการนัดหมายให้ผมขับรถไปส่งเขา บ้างก็ส่งเป็นข้อความมาแจ้งผมไว้ก็มี
การเปลี่ยนแปลง
จนบางครั้งงานที่เข้ามามีมากเสียจนทำคนเดียวไม่ไหว ผมจึงต้องขอให้เพื่อนที่มีแนวคิดในแบบเดียวกัน ให้มาช่วยบ้าง ซึ่งเพื่อนของผมคนนั้นเค้าใช้รถลิมูซีนในการรับส่งลูกค้าเลย เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ
ผมยังเคยเล่าเรื่องราวเป็ดและนกอินทรีย์ให้กับเพื่อนคนอื่น ๆ ได้ฟังอีก กว่า 50 คน แต่ก็มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่ตั้งใจเปลี่ยนแปลง
แล้วก็เริ่มโฟกัสตามเป้าหมาย จนชีวิตพลิกผันไปมากกว่าเดิมเลย ทำให้ทุกวันนี้ผมมีความสุขที่ได้ทำงานนี้จริง ๆ ”
ดังคำที่กล่าวไว้ว่า “ใจที่คิดแต่เรื่องลบ ไม่เคยส่งผลให้ชีวิตเป็นบวกเลยสักครั้งเดียว”
แปลและเรียบเรียงโดยเรื่องเล่าจากดาวนี้
ที่มา:
อ่านบทความเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย 😄
โฆษณา