27 พ.ค. 2020 เวลา 10:00 • กีฬา
" ประวัติศาสตร์ย่อของฟุตบอลตุรกี "
ตุรกี นับได้ว่าเป็นชาติหนึ่งที่คลั่งไคล้ฟุตบอลไม่แพ้ชาติไหนในโลก
ผลงานในระดับนานาชาติของพวกเขาก็มองข้ามไม่ได้ และคงไม่มีใครลืมขุนพลเติร์กในฟุตบอลโลก 2002 ลงได้อย่างเด็ดขาด
กว่าที่กีฬาฟุตบอลจะรุ่งเรืองในตุรกี ไม่ใช่เรื่องง่าย พอๆ กับประวัติศาสตร์ชาติของพวกเขา
การเปลี่ยนผ่านจากจักรวรรดิอ็อตโตมันมาเป็นสาธารณรัฐตุรกี และการสู้เพื่อสิทธิ์ในการเล่นฟุตบอลอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกัน
ฟุตบอลเข้ามายังดินแดนตุรกี พูดให้ตรงกว่าคือสมัยยังเป็นอ็อตโตมัน ในราวปี 1870s โดยพ่อค้า นักเดินทางชาวบริติช เอามาเล่นกันตามเมืองท่าอย่าง อิซเมียร์, ซาโลนิก้า (อยู่ในกรีซในปัจจุบัน) แล้วค่อยแพร่มาถึงอิสตันบุล
สักพัก ชนส่วนน้อยอย่างพวก อาร์เมเนียน, กรีก หรือ ยิว ก็รับเอาเกมฟุตบอลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของพวกเขา
คนเติร์กเอง แม้จะอยากเล่นก็เล่นไม่ได้ นี่คือปัญหา เพราะอ็อตโตมันภายใต้การปกครองของซุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 ห้ามไม่ให้เติร์กมุสลิมเล่นฟุตบอลเหมือนชนชาติอื่น
คาดกันว่าทางผู้ปกครองกังวลว่าฟุตบอลจะทำให้ควบคุมคนลำบาก เพราะเป็นโอกาสเหมาะที่จะมารวมตัวกัน
หนึ่งในบุคคลที่มีความสำคัญต่อวงการฟุตบอลเติร์กคือ ฟูอัต ฮุสนู คายาชาน เขาได้ลูกฟุตบอลมาจากเพื่อนชาวบริติช ในอิสตันบุล เขาตัดสินใจก่อตั้งทีมฟุตบอลที่มีแต่ชาวเติร์ก มุสลิม
สโมสรของเขามีชื่อว่า Black Stockings FC ถือได้ว่าเป็นสโมสรฟุตบอลแรกในตุรกี (อ็อตโตมัน) เป้าหมายของฟูอัต คือการเตะบอลให้ชนะพวกกรีก และบริติชในสนามให้ได้
ทีมของเขาต้องแอบซ้อม และลงสนามเล่นอย่างเป็นทางการนัดแรกเจอกับทีมของพวกกรีกเมื่อ 8 พฤศจิกายน 1901 แน่นอน ว่าพวกเขาแพ้ไป 1-5 โดยประตูเดียวของทีมได้มาจากการยิงของ ฟูอัต ฮุสนู นี่เอง
อย่างไรก็ดี หลังจากเกมเตะจบอึดใจเดียว เจ้าหน้าที่ทราบเรื่องก็ตามมาพบ และวิ่งไล่จับกุมเหล่าผู้เล่นทันที
ฟูอัต ฮุสนู โดนตั้งข้อหา "ตั้งเสาโกล์ฟุตบอล, ใส่ชุดแบบคนกรีก และ เตะลูกฟุตบอล" ปัจจุบัน เราอาจมองเป็นเรื่องขบขัน แต่มันไม่ตลกเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ภายใต้กฏหมายของอ็อตโตมัน
แน่นอน ทีม Black Stockings ของเขาโดนยุบทันทีเช่นกัน
หลังจากนั้น ฟูอัต ฮุสนู ได้ไปเล่นให้ทีมอื่นๆ ในทีมที่มีกลุ่มนักเตะมาจากทั้งคนกรีก และบริติช และเขาถูกเรียกด้วยชื่อเล่นว่า บ็อบบี้
สถานการณ์ของฟุตบอลตุรกี เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเมื่อเปลี่ยนศตวรรษ ในปี 1905 อาลี ซามี ได้ตั้งทีมฟุตบอล กาลาตาซาราย แต่ไม่ได้ใช้ชื่อนี้ในสาธารณะ ท่ามกลางสโมสรของคนบริติช หรือกรีก หรือชาติอื่นๆ ทีมของเขาถูกเรียกว่า "อีกทีมหนึ่ง" (Another Team)
อาลี ซามี ผู้นี้ก็คือ อาลี ซามี เยน บิดาแห่งกาลาตาซารายนั่นเอง
ช่วงนี้เอง การเมืองการปกครองของอ็อตโตมันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อคนหนุ่มหัวสมัยใหม่ เรืองอำนาจ มีบทบาทในหน่วยงานของรัฐบาล โดยเฉพาะทางการทหาร ที่เรียกกันว่า กลุ่มยัง เติร์กส์ (Young Turks)
หลังจาก กลุ่มยัง เติร์กส์ ทำการปฏิวัติ พวกเขากดดันซุลต่านให้มีการแก้รัฐธรรมนูญให้มีเสรีภาพมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการยกเลิกการแบนมุสลิมเติร์กจากการเล่นฟุตบอล
ปี 1910 นายทหารที่มีความสามารถ และได้ชื่อว่า "บิดาแห่งเติร์กทั้งมวล" ตามนามสกุลที่ตั้งขึ้นมา อย่าง มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก ก็ยึดอำนาจจากซุลต่านอับดุล ฮามิดที่ 2 และในภายหลัง เขาได้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกีขึ้นมาแทนอ็อตโตมัน และกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกของตุรกี
เมื่อการเมืองการปกครองเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน นั่นหมายถึงอิสรภาพในการเตะฟุตบอลของคนเติร์กมุสลิมก็เปิดกว้างขึ้นทันที
สำหรับฟูอัต ฮุสนู ท้ายสุดเขาได้ย้ายมาเล่น เป็นนักเตะของกาตาลาตาซาราย และหลังจากแขวนสตั๊ด ก็ได้เป็นโค้ช คุมทีมอริตลอดกาลของกาลาตาซาราย อย่าง เฟเนร์บาห์เช่ นั่นเอง
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา