27 พ.ค. 2020 เวลา 05:15 • สุขภาพ
คนไทยเริ่มการ์ดตกแล้ว ทำไมยังไม่เกิดโรคระบาดรอบสอง
การ์ดตกอย่างชัดเจน
การ์ดในการป้องกันโรคโควิด19 จากภาคประชาชนนั้นเริ่มตกลงแล้วจริง โดยดูได้จากการสำรวจเปรียบเทียบพฤติกรรมที่ช่วยป้องกันการระบาดของโรค (การ์ด) ใน 2 ช่วงเวลา เปรียบเทียบกัน
นี่ก็ประมาท การ์ดตกอีกเช่นกัน
1) การใส่หน้ากากเวลาออกจากบ้าน
• วันที่ 24-25 มีค = 94.97%
• วันที่ 8-14 พค = 91%
2) การล้างมือด้วยน้ำและสบู่
• วันที่ 24-25 มีค = 92.29%
• วันที่ 8-14 พค = 83.4%
3) การทำความสะอาดมือด้วยแอลกอฮอล์
• วันที่ 24-25 มีค = 86.10%
• วันที่ 8-14 พค = 83.4%
4) การเว้นระยะห่างทางสังคม
• วันที่ 24-25 มีค = 64.37%
• วันที่ 8-14 พค = 60.7%
5) การหลีกเลี่ยงใช้มือสัมผัสใบหน้า
• วันที่ 24-25 มีค = 59.72%
• วันที่ 8-14 พค = 52.9%
วินัยในการดูแลป้องกันตนเองในด้านต่างๆข้างต้น ลดลงตั้งแต่ 2.7-8.8% ซึ่งมีนัยสำคัญ เพราะเป็นการลดลงในทุกมาตรการ
เราลองมาดูกันนะครับว่า เมื่อการ์ดเริ่มตกลง อัตราการติดเชื้อรายใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นอย่างไรบ้าง พบว่าในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ (1-26 พค) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งสิ้น 90 ราย เฉลี่ยวันละ 3.46 ราย ซึ่งดูแล้วไม่ได้มากมายจนน่าตกใจแต่อย่างใด
ถ้าอย่างนั้น เราสรุปได้มั้ยว่าการลดการ์ดลงก็ไม่เห็นเป็นอะไรมาก ก็ลดต่อลงไปอีกหน่อยก็ยังได้ ตรงนี้คงจะสรุปง่ายๆอย่างนั้นไม่ได้ เนื่องจากเวลาที่มาตรการต่างๆเริ่มดำเนินการนั้น จะไม่ได้มีผลต่อการติดเชื้อเพิ่มทันที หากแต่ว่าต้องรอดูผลอย่างน้อยที่สุด 14 วัน เท่ากับระยะฟักตัวของโรค ในที่นี้ผลของพฤติกรรมที่ผ่อนคลายลงของประชาชนซึ่งทำการสำรวจช่วงวันที่ 8-14 พฤษภาคม 2563 จะมีผลกระทบต่อจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
แต่ด้วยข้อมูลบางอย่างที่มีการพบเพิ่มเติม (แม้จะยังยืนยัน 100% ไม่ได้) ทำให้เราต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบระมัดระวังมากขึ้น คือ
1) มีผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ แต่แพร่เชื้อได้เพิ่มมากขึ้น
2) ระยะฟักตัวของโรค จากภูมิภาคต่างๆทยอยพบว่ามากกว่า 14 วัน
ด้วยปรากฎการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้มีการประมาณการทางสถิติว่า ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการดูผลกระทบของมาตรการต่างๆ อาจต้องขยับเพิ่มมากกว่า 14 วัน เช่น เป็น 28 วัน หรือ 42 วัน เป็นต้น
การติดตามดังกล่าวสอดคล้องกับการระบาดรอบสองใน 2 ประเทศสำคัญที่สามารถควบคุมโรคให้สงบรอบที่ 1 ได้ดีนานนับเดือน คือ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ แต่เมื่อมีความจำเป็นต้องผ่อนคลายมาตรการลงบ้าง และค่อยๆติดตามดูอย่างใกล้ชิดก็พบว่าระยะเวลา 14 วันที่จะประเมินผลหลังมีมาตรการนั้นสั้นเกินไป ในที่สุดทั้งสองประเทศดังกล่าวก็เกิดการระบาดรอบ 2 ขึ้น ด้วยความรวดเร็วรุนแรงดังนี้
1
สุดท้ายจบลงแบบหมดสภาพ
สิงคโปร์ ญี่ปุ่น
• 1 เมย. 926 2,000
• 10 เมย. 1,910 4,979
• 20 เมย. 8,014 10,434
• 30 เมย. 16,169 13,895
• 10 พค. 22,460 15,663
• 26 พค. 32,343 16,581
โดยภายในชั่วเวลาไม่ถึง 2 เดือนสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 34.92 เท่าตัว และญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 8.29 เท่าตัว ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหนึ่งที่มีผลด้วยคือการลดหย่อนของวินัยในการป้องกันตนเอง (การ์ดตก) ของคนทั้ง 2 ชาตินั่นเอง
วินัยที่เป็นส่วนหนึ่งของการ์ดป้องกันโรค
หนึ่งในวินัยที่เป็นการ์ดป้องกันไวรัสน็อคเรา
อีกหนึ่งในวินัยที่เป็นการ์ดป้องกันถูกไวรัสน็อค
เราคงยังต้องย้ำถึงวินัยการดูแลป้องกันตนเองพื้นฐาน อันได้แก่ การใส่หน้ากากเมื่อต้องออกนอกบ้าน การล้างมือ การรักษาระยะห่าง การไม่เอามือมาสัมผัสใบหน้าเพราะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ทั่วโลกแล้วว่าสามารถป้องกันโรคโควิด19ได้ และไม่ควรทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า ถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อย (เพิ่มเป็นหลักหน่วยต่อวัน) จะทำให้เราหย่อนวินัยลงได้ เพราะการที่เราหย่อนวินัยลงนั้นอาจไม่เกิดผลเสียทันที แต่ถ้ามีการระบาดครั้งใหม่จะทำให้เกิดการระบาดที่รวดเร็วและรุนแรง เนื่องจากเรามีคนที่ยังคงวินัยไว้น้อยเกินไป ซึ่งไม่เพียงพอที่จะช่วยสกัดกั้นไม่ให้เกิดการระบาดใหญ่ในการระบาดรอบที่สอง
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
โฆษณา