27 พ.ค. 2020 เวลา 07:27 • ข่าว
ECONOMY : นักลงทุนชาวจีนกำลังซื้อหุ้นของตลาดฮ่องกงในปริมาณที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมอัดฉีดเงินเพิ่มกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมวางแผนจะใช้งบประมาณช่วยเหลือกว่า 40% ของ GDP
เม็ดเงินจากประเทศจีนกำลังไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทำให้ศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียต้องเผชิญความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
นักลงทุนต่าง ๆ ของจีน ซึ่งมีตั้งแต่ Brokers ไปจนถึงบริษัทประกันภัยหลายแห่ง หรือแม้แต่นักลงทุนรายย่อยที่มีขนาดบัญชีสูงกว่า 70,000 ดอลลาร์ขึ้นไป กำลังเข้าซื้อหุ้นของบริษัทฮ่องกงเป็นจำนวนกว่า 3.53 หมื่นล้านหุ้นภายในปี 2020 นี้ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ณ ปัจจุบันนี้นักลงทุนของจีนมีสัดส่วนเป็น 2.9% ของมูลค่าตลาดฮ่องกงทั้งหมด โดยเป้าหมายหลักของนักลงทุนชาวจีนมี 3 แห่งดังนี้
(1.) Industrial & Commercial Bank of China Ltd. หรือที่รู้จักกันดีในชื่อย่อว่าธนาคาร ICBC นั่นเอง
(2.) Ping An Healthcare and Technology Co. บริษัททางด้านเทคโนโลยีสุขภาพ
(3.) China Construction Bank Corp. ธนาคารยักษ์ใหญ่ของจีนอีกแห่งหนึ่ง
ในขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่ากองทุนของจีนที่ควบคุมโดยรัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง
Comment : สำหรับ World Maker มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งเป็นสัญญาณยืนยันแล้วว่าจีนแน่วแน่อย่างมากกับการเข้าควบคุมฮ่องกง โดยคาดว่าจะประกาศกฎหมายใหม่ในวันพรุ่งนี้ (28 พฤษภาคม 2020)
1
ขณะเดียวกันสหรัฐฯ กำลังหารือเรื่องมาตรการคว่ำบาตรจีน และทรัมป์ได้ออกมากล่าวว่าทีมบริหารของเขากำลังทำบางอย่างที่ทรงพลังอย่างมาก และจะประกาศให้ทราบภายในสัปดาห์นี้
ปัจจุบันก็มาถึงวันที่ 3 ของสัปดาห์แล้ว นั่นแปลว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึง 4 วันก่อนที่เราจะได้รู้ความเคลื่อนไหวสำคัญครั้งต่อไปของสหรัฐฯ และจีนครับ
(อ่านเพิ่มเติมเรื่องนี้ได้จาก : https://www.blockdit.com/articles/5ecdab1fde8ec70cd056962f)
ญี่ปุ่นเปิดเผยการอัดฉีดเงินเพิ่มเติมกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
นับเป็นมาตรการอัดฉีดครั้งที่ 2 ของญี่ปุ่นหลังจากอัดฉีดรอบแรกไปเพียง 1 เดือนก่อนหน้านี้ ทั้งหมดทำไปเพื่อป้องกันไม่ให้ธุรกิจและผู้ประกอบการล้มละลาย ขณะที่การทรุดตัวของเศรษฐกิจกำลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เม็ดเงินมูลค่า 117 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ จะถูกนำไปใช้เพื่อค้ำประกันเงินกู้ และบริษัทภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานหรือบริษัทอื่น ๆ ทางด้านสุขภาพ
ขณะเดียวกัน คาดการณ์จากสำนักงานคณะรัฐมนตรีระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหดตัวกว่า 20% เมื่อเทียบรายไตรมาส
มาตรการช่วยเหลือล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ข้อมูลของทางการญี่ปุ่นยืนยันแล้วว่าประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่ (Deep Recession)
Shinzo Abe ซึ่งเป็น 1 ในคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นกล่าวว่า "รัฐบาลจะตอบสนองต่อการระบาดโดยการปรับใช้มาตรการครั้งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะมีการสนับสนุนด้วยเม็ดเงินประมาณ 40% ของ GDP"
นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะออกตราสารหนี้เพิ่มอีกประมาณ 5.58 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ภายใน 6 เดือนของปีนี้ ญี่ปุ่นต้องออกพันธบัตรโดยรวมไปแล้วกว่า 1.86 ล้านล้านดอลลาร์
Comment : ตัวเลข 40% ของ GDP นั้นถือเป็นมูลค่าที่มหาศาลเลยทีเดียวครับ ซึ่งต่อไปนี้ World Maker คาดว่าหนี้ต่อ GDP ของญี่ปุ่นจะเพิ่มขึ้นอีกมาก อาจสูงกว่า 300% ของ GDP ได้เลยทีเดียว และน่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในอนาคตจะเติบโตได้อีกเมื่อไหร่
ข้อควรรู้เพิ่มเติม
(1.) Recession คือภาวะเศรษฐกิจถดถอย
(2.) Depression คือภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
(3.) ความรุนแรงของวิกฤตเศรษฐกิจเรียงจากน้อยไปมากได้ตามนี้ Recession < Deep Recession (หรือ Great Recession) < Depression < Great Depression
การกดไลค์ กดแชร์ กดติดตาม และการติชมในเชิงสร้างสรรค์ของคุณ เป็นกำลังใจให้เราและเหล่าอาชีพนักเขียนทุกคนในการพัฒนาผลงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ขอเชิญทุกท่านร่วมสร้างสังคมการเรียนรู้ที่ดีด้วยกันกับเรา
World Maker
สามารถติดตาม World Maker ผ่านทาง Facebook ได้แล้ววันนี้ที่
โฆษณา