28 พ.ค. 2020 เวลา 01:44 • ธุรกิจ
จะเกิดอะไรขึ้น? หากสหรัฐฯ Sanction ฮ่องกง
สถานการณ์ การแก่งแย่งชิงความเป็นหนึ่งในโลก ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ยกระดับมาอีกขั้นหนึ่ง โดยจีนยืนกรานที่จะผลักดัน “กฎหมายความมั่นคงในฮ่องกง” ซึ่งนอกจากจะจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองแล้ว ยังทำให้ฮ่องกงไม่น่าดึงดูดในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของภูมิภาคอีกต่อไป
ล่าสุด (27 พ.ค.) ทางด้าน นายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าฮ่องกง ไม่ได้มีความเป็นอิสระต่อจีน อีกต่อไป โดยนายไมค์ ที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน กล่าวต่อว่า
“สหรัฐฯ คาดหวังว่าความเป็นอิสระและความรุ่งเรืองของฮ่องกง จะเป็นตัวอย่างให้จีนเห็น และทำตาม, แต่ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าจีนกำลังพยายามทำให้ฮ่องกง เหมือนตัวเอง”
ยังไม่ได้มีการประกาศ Sanction หรือ คว่ำบาตรฮ่องกง แต่มีโอกาสที่สหรัฐฯ จะยุติการให้ “สิทธิพิเศษ” แก่ฮ่องกง ซึ่งก็เป็นสิทธิ ที่ประธานาธิบดี อย่างนายทรัมป์ จะทำได้ ผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรส
ในบทความนี้ เราลองไปดูกันว่า การที่ สหรัฐฯ ยุติการให้ “สิทธิพิเศษ” แก่ฮ่องกง หมายถึงอะไรบ้าง เพื่อที่เพื่อนๆ ที่ทำการค้าระหว่างประเทศ จะได้เตรียมตัวเอาไว้ได้ทัน (ยุคนี้มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจริงๆ)
หากพร้อมแล้ว เราไปติดตามกันเลย
=====================
ผู้นำเข้า ส่งออก หาขนส่งมืออาชีพ
นึกถึง ZUPPORTS
=====================
1) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ก็คือ มูลค่าการค้า ระหว่างสหรัฐฯ และฮ่องกง มีประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท ที่สำคัญคือ ในระยะยาว บริษัทที่จะไปเปิดออฟฟิศ หรือระดมทุนในฮ่องกง ก็คงอาจต้องคิดหนัก โดยทางด้านนักวิชาการของจีน ระบุว่า “นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของ จุดจบของฮ่องกง” เป็น “Nuclear option” คือ รุนแรงมากๆ
Getty Image
2) สหรัฐฯ เอง ก็เสียประโยชน์ไม่ใช่น้อย หากทำรุนแรงเกินไป โดยฮ่องกง เป็นเสมือนประตูเปิดให้บริษัทของสหรัฐฯ ทำธุรกิจกับจีนแผ่นดินใหญ่ เชื่อมโยงตลาดทุน เข้าหากัน โดยมีบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯกว่า 290 บริษัท ที่มีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคตั้งอยู่ที่ฮ่องกง และอีกกว่า 434 บริษัท ที่มีสาขาตั้งอยู่ที่นั่น
นอกจากนี้ สหรัฐ ยังได้ดุลการค้ากับฮ่องกง กว่า 1 ล้านล้านบาท หากสหรัฐฯ ทำอะไรรุนแรงไปตัวเองอาจได้รับผลเสียมากกว่า
3) ผลกระทบในวงกว้าง โดยเริ่มจากสงครามการค้า ตามมาล่าสุดคือ สงครามทางการเงิน ซึ่งการละเมิดเสรีภาพของชาวฮ่องกงของจีน อาจหมายถึงการที่สหรัฐฯ จะห้ามบุคคล หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน เข้าสหรัฐฯ
The lights of Temple Street Night Market shine bright in 1975 Cr. SCMP
4) เรื่องนี้ทางจีนเองก็กล่าวย้ำว่า เป็นเรื่องในบ้านของจีน และจีนพร้อมที่จะตอบโต้พลังจากนอกประเทศ ที่พยายามมายุ่งวุ่นวายเรื่องชาวบ้าน
โดยทาง Shenyi ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัย Shanghai Fudan ของจีน ระบุว่า การที่สหรัฐฯจะคว่าบาตรฮ่องกง คงเป็นผลเสียกับสหรัฐฯเองมากกว่า
5) ในแง่ผลกระทบต่อไทยเอง เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จะต่อเนื่องกับเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง โดยมีผลกระทบหลายภาคส่วนได้แก่
หนึ่ง ด้านการค้าและการลงทุน ฮ่องกงเป็นคู่ค้าลำดับที่ 5 ของไทย โดยไทยส่งออกไปยังฮ่องกงประมาณ 5% (ในปี 2018) สินค้าไทยที่ส่งออกไปยังฮ่องกงที่สำคัญ ได้แก่ รถยนต์-อุปกรณ์, เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, อัญมณีและเครื่องประดับ, เคมีภัณฑ์และพลาสติก และผลิตภัณฑ์ยาง แน่นอนว่าเรื่องนี้กระทบปริมาณส่งออก
อย่างไรก็ตาม ในร้ายก็มีดี คือ โอกาสในการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุน มาที่อาเซียน โดยทางทีมเศรษฐกิจของไทยเอง ก็พยายามจีบนักธุรกิจฮ่องกง ให้เข้ามาลงทุนในไทย
สอง การท่องเที่ยว หากคนจีนไปเที่ยวฮ่องกง หากสหรัฐฯคว่าบาตรจริงๆ แล้วประท้วงกันรุนแรงขึ้น คนจีนก็อาจมาเที่ยวไทยแทน แต่ต้องบอกว่าโควิด ระบาดแบบนี้ การท่องเที่ยวก็แย่กันไปหมด
สาม เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของฮ่องกง ก็คือ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งเหมือนฮ่องกงจะสิ้นมนต์ขลังไปแล้ว จริงๆ แล้วไทยเอง ก็ทำหนังเก่ง ไม่แพ้ ฮ่องกงเกาหลีใต้ ถ้ารัฐบาลเราเน้นสนับสนุนหน่อย อาจเป็นอุตสาหกรรมดาวรุ่งขึ้นมาแทนฮ่องกง ก็ได้ เชื่อว่าคนไทยก็มีความคิดสร้างสรรค์ และด้านการออกแบบ งานศิลปะเก่ง เป็นลำดับต้นๆ ของโลกเหมือนกัน
Avenue of Star
สำหรับชาวฮ่องกงเอง ก็หดหู่ และสิ้นหวัง...
จริงๆ แค่เจอประท้วง พร้อมโควิด ชาวฮ่องกง ก็อยู่ยากแล้ว...
ด้วยความที่เศรษฐกิจฮ่องกงอยู่ได้ด้วยการค้าระหว่างประเทศ และการท่องเที่ยว ทำให้ในขณะนี้ เหล่าพ่อค้า แม่ค้า ต่างประสบปัญหาเดียวกันคือ “ยอดขายเป็นศูนย์”
ยิ่งมาเจอแบบนี้ น่าจะจบจริงๆ
Cr. SCMP
=====================
ผู้นำเข้า ส่งออก หาขนส่งมืออาชีพ
นึกถึง ZUPPORTS
=====================
❤️ อ่านบทความย้อนหลังได้ที่
👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก
นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า Market place
โฆษณา