29 พ.ค. 2020 เวลา 12:49 • ความคิดเห็น
สงครามทั้ง 4
จากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างอเมริกาและจีนในปี 2019 ทำให้ทั่วโลกกลัวว่าจะเป็นเหตุให้เกิดสงครามใหญ่ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยการเจรจาที่ดูเหมือนจะจบลงด้วยดีของผู้นำทั้งสองฝ่าย
3 มกราคม ต้นปี 2020 เกิดข่าวช็อคโลกอีกครั้งเมื่อสหรัฐอเมริกาลอบสังหารผู้นำทางทหารของอิหร่าน ผู้คนต่างหวาดกลัวว่าจะลุกลามกลายเป็นมหาสงครามอีกครั้ง...แต่ทุกอย่างถูกกลบด้วยข่าวการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสในประเทศจีนที่สร้างทั้งความหวาดกลัวและความเกลียดชังไปพร้อม ๆ กัน
ก่อนหน้านี้โลกผ่านสงครามใหญ่มาแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งสร้างความเสียหายจนไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก
สงครามครั้งที่หนึ่งหรือที่เราเรียกว่ามหาสงคราม เกิดขึ้นในปี 1914 ครั้งนั้นเราอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “สงครามเคมี” เนื่องจากการสู้รบส่วนใหญ่อาศัยความรู้ในศาสตร์เคมี มีการใช้ดินระเบิด กระสุนปืน และแก๊สต่าง ๆ เป็นอาวุธในการทำร้ายกัน
ส่วนสงครามใหญ่ที่สร้างความเสียหายกระจายไปทั่วโลก ซึ่งเรียกกันว่าสงครามโลกครั้งที่ 2  นั้น อาจเรียกอีกอย่างว่า “สงความพลังงานฟิสิกส์” เนื่องจากระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองนักวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์ถูกเรียกตัวเข้าสถาบันวิจัยต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก คลื่นวิทยุ คลื่นไมโครเวฟ ระบบการสื่อสารต่าง ๆ ถูกพัฒนาเพื่อนำมาใช้ในการสู้รบ
2
แม้กระทั่ง บิล ฮิลเลตต์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งฮิวเลตต์ แพคการ์ด ก็ถูกเรียกตัวไปประจำการในกองทหารซิกแนว คอร์ป ของอเมริกา
สงครามปิดฉากด้วย “ระเบิดปรมาณู” อาวุธที่ใช้ความรู้ในสาขาฟิสิกส์ตามทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์ชื่อก้องโลกอย่างอัลเบิร์ต ไอน์สไตล์ แต่ระเบิดปรมาณูสองลูกที่ใช้ถล่มญี่ปุ่นนั้นกลับทำเกิดคำถามมากมายว่าจำเป็นแค่ไหนในเมื่อหลายฝ่ายก็ประกาศเลิกสงครามแล้ว
1
จะเห็นได้ว่าสงครามทั้งสองครั้งที่ผ่านมาใช้ความรู้ในศาสตร์ของเคมี และฟิสิกส์ในการสู้รบกัน จึงทำให้มีคนตั้งข้อสังเกตว่าหากโลกนี้จะมีสงครามครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งน่าจะเป็นสงครามที่ต้องใช้วิชาความรู้ด้านชีววิทยาสู้รบกัน
แม้กระทั่งศาสตราจารย์สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ยังเคยกล่าวไว้ก่อนเสียชีวิตว่า มนุษย์จะถูกกวาดล้างจากไวรัสที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม
หลังจากที่โคโรน่าไวรัสกระจายไปทั่วโลก ทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ละประเทศประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกจากที่พัก ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบาก บางคนตกงานขาดรายได้
เป็นไปได้ไหมที่ปัจจุบันเรากำลังอยู่ในช่วงสงครามชีวภาพ?
สงครามครั้งนี้เป็นสงครามรูปแบบใหม่ที่ไม่ได้ใช้อาวุธประหัดประหารกัน ผู้ที่ทำหน้าที่ออกรบครั้งนี้จึงไม่ใช่ทหารในชุดลายพรางสีเขียว แต่เป็นทีมนักรบเสื้อกาวน์
ตั้งแต่เชื้อโรคเริ่มระบาดนักรบกลุ่มนี้ทำงานกันอย่างหนัก มีทีมควบคุมการระบาด มีทีมรักษา มีทีมวิจัย ทีมติดตามโรค และทีมที่เป็นความหวังของผู้คนคือทีมผลิตอาวุธ หรือทีมวิจัยวัคซีนนั่นเอง
ประเทศไทยโชคดีที่ ในที่สุดรัฐบาลในสายนักรบเสื้อเขียวตัดสินใจให้นักรบเสื้อขาวนำทีม จึงทำให้ควบคุมการระบาดได้ดี ส่งผลให้ทีมรักษาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพภายใต้ข้อจำกัดหลาย ๆ ประการ ทำให้ทั่วโลกยกย่องงานด้านสาธารณสุขของไทย...ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคนไทยทุกคน
1
จากการระบาดของโคโรน่าไวรัสครั้งนี้ทำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วเมื่อถึงยามคับขัน คนไทยสามารถร่วมมือร่วมใจปฏิบัติตามข้อตกลงที่ภาครัฐกำหนดเพื่อยับยั้งการระบาดได้เป็นอย่างดี...ไม่ว่าสงครามครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ไทยจะไม่ใช่ประเทศผู้แพ้ในสงครามแน่นอน
คาดกันว่าผลจากการระบาดของโคโรน่าไวรัสจะทำให้เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตามมา แล้วโลกก็จะเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สาย และ เอไอ อย่างเต็มรูปแบบ
1
แล้วสงครามครั้งใหม่ก็จะมาเยือนอีกครั้ง...ถึงเวลานั้นคงต้องใช้นักคณิตศาสตร์จำนวนมากเป็นนักรบ เพราะสงครามครั้งนี้จะไม่ใช่การสู้รบระหว่างคนกับคน หรือคนกับเชื้อโรคอีกแล้ว แต่จะเป็นการสู้รบระหว่างคนกับสมองกลอัจฉริยะที่มนุษย์เป็นผู้สร้าง...
แม้กระทั้งบิล เกตส์ อีลอน มัสก์ เจฟฟ์ เบซอส และ ศาสตราจารย์สตีเฟน ฮอว์คิง ต่างก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การพัฒนาเอไอและปัญญาประดิษฐ์ต่าง ๆ แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวหากไม่มีการควบคุมที่ดี
วันหนึ่งปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นอาจจะกลับมาทำร้ายมนุษย์...เหมือนกับปัจจุบันที่มนุษย์กำลังถูกไล่ล่าจากโคโรน่าไวรัส เชื้อโรคที่หลายคนเชื่อว่าเป็นไวรัสที่เกิดจากการดัดแปลงพันธุกรรมด้วยฝีมือมนุษย์....
pordee
โฆษณา