[นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า] เคล็ดลับ ที่ทำให้ TikTok โด่งดังถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาบริษัทสตาร์ทอัพจีน ส่วนใหญ่จะใหญ่ในจีน มีไม่กี่บริษัทที่ก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลกได้

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

30 พ.ค. 2020 เวลา 14:40 • ธุรกิจ

เคล็ดลับ ที่ทำให้ TikTok โด่งดังถึงขนาดนี้

ที่ผ่านมาบริษัทสตาร์ทอัพจีน ส่วนใหญ่จะใหญ่ในจีน มีไม่กี่บริษัทที่ก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลกได้

TikTok โซเชียลมีเดียสัญชาติจีน เป็นแอปฯ ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกเกิน 1 พันล้านคน เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ - ใช้เวลาเพียง 3 ปีเท่านั้นหลังจากที่เริ่มเปิดให้บริการ

และล่าสุด TikTok ก็พยายามเปลี่ยนบริษัทให้กลายเป็นองค์กรระดับโลกอย่างแท้จริง โดยการจ้าง Kevin Mayer อดีตหัวหน้าทีม Disney+ มานั่งตำแหน่ง CEO

TikTok ก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร? และจะไปได้ไกลขนาดไหน?

ในบทความนี้แอดมินได้ถอดรหัสความสำเร็จของ TikTok จาก Podcast ของ โปรเฟสเซอร์ Jeff Towson แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิตอลและสตาร์ทอัพจีน

เคล็ดลับนั้นคืออะไร หากพร้อมแล้ว เราไปติดตามกันเลย

=====================

ผู้นำเข้า ส่งออก หาขนส่งมืออาชีพ

นึกถึง ZUPPORTS

www.zupports.co

=====================

จุดเริ่มต้น ของ TikTok

ปี ค.ศ.2012 Zhang Yiming ในวัย 29 ปี วิศวกรคอมพิวเตอร์ และอดีตพนักงาน Microsoft Zhang ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค เข้าสู่ยุค Smartphone เขาจึงได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัท Bytedance โดยมุ่งเน้นการใช้ Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ เพื่อ “แนะนำ” คอนเทนต์ที่น่าสนใจให้ผู้บริโภคที่ใช้งานมือถือ

Zhang Yiming Cr. Yahoo Finance

ทุกวันนี้เราน่าจะคุ้นเคยกับการดู Netflix หรือ YouTube ที่มีการใช้ AI “แนะนำ” ให้เลือกดูคอนเทนต์ที่น่าสนใจ หรือ พอดูจบ ก็มีการแนะนำว่าควรดูหนังเรื่องไหนต่อดี ซึ่งผู้บริโภคก็ยังต้องตัดสินใจกดเลือก เองอยู่ดี

แต่สำหรับ Bytedance เองได้ทำการยกระดับประสบการณ์ในการรับชมคอนเทนต์ไปอีกขั้นก็คือ การนำเสนอคอนเทนต์แบบ Push คือ ส่งให้ผู้บริโภคดูเลย อย่างเปลี่ยนก็แค่ใช้หัวแม่โป้ง เลื่อนเปลี่ยนเรื่องเอา

แอปฯ ที่ทำให้ Bytedance เริ่มเป็นที่รู้จักก็คือ แอปฯ ที่ชื่อ Toutiao (โถวเถี่ยว) ที่แปลตรงตัวว่า “พาดหัวข่าววันนี้” ซึ่งก็เป็นการรวบรวมข่าวมานำเสนอต่อผู้บริโภค โดยใช้อัลกอริทึม เหมือนที่ Facebook ใช้ โดยนำเสนอให้เหมาะกับพฤติกรรมของผู้บริโภค

Cr. Turner's Blog

ปี 2016 ByteDance ได้เปิดตัวแอปฯ ใหม่ ที่ชื่อว่า Douyin (โต่วอิน) โดยใช้ AI ผสมกับแนวคิดของ คลิปวิดีโอสั้นๆ เพียง 15 วินาที ซึ่งระบบ AI ก็จะช่วยเลือกคลิปขึ้นมาให้ และด้วยความวิดิโอสั้นเพียง 15 วินาที ผลก็คือ ทาง Douyin ได้ข้อมูล Feedback อันมหาศาลจากผู้ชมด้วยความสั้นของวิดิโอ

ถึงแม้คลิปจะสั้น แต่ก็เป็นคลิปที่น่าติดตามทุกคลิป....ทำไปทำมา กลับกลายเป็นว่า คนนั่งดูคลิปบน Douyin ใช้เวลามากกว่าดูวิดีโอยาวๆ ในแพลตฟอร์มอื่นซะอีก คือ วิดิโอมันดูสนุกจนติดงอมแงม (ติดเหมือนกับคนติดโค้ก – เพราะน้ำตาลและคาเฟอีน)

ปีถัดมา Bytedance เปิดตัว Douyin เวอร์ชั่นต่างประเทศในชื่อ TikTok จนโด่งดังไปทั่วโลก

ในไทยเอง พอเจอโควิด-19 ก็กลายเป็น เหล่าดารา นักแสดง ผู้มีชื่อเสียง ไปเต้นกันอยู่ใน Tiktok จนยอดผู้ใช้งานพุ่งระเบิด (คุณสุทธิชัย หยุ่น ก็ไปชู๊ตบาสโชว์ 10 ลูก ลง 10 ลูกเลย)

ปัจจัยแห่งความสำเร็จ?

เราลองไปดู หก ปัจจัย ที่ช่วยให้ TikTok เติบโตกันเลย

หนึ่ง ใช้แล้วติดงอมแงม (Addictive)

ด้วยเสน่ห์ของคลิปวิดิโอสั้นๆ 15 วินาที (ในช่วงแรก ซึ่งตอนนี้โพสได้ 60 วินาทีละ) และส่วนใหญ่คือ คลิปสนุก ล้อเลียน การลิปซิงค์ ต่างๆ มันโดนใจวัยรุ่น ทำให้อดไม่ได้ที่จะเลื่อนดูต่อรัวๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไร้สาระ แต่ก็เหมือนเล่นเกมส์ คือ เสียเวลาไปโดยไม่รู้ตัว

Cr. Turner's Blog

สอง ใช้งานง่าย และเป็นสิ่งที่คนอยากแชร์

แอปฯ TikTok ใช้งานง่าย แค่มีมือถือ ก็สามารถหยิบขึ้นมาถ่ายวิดิโอตัวเอง ใส่เพลง ใส่ Effect แล้วก็กดโพสได้เลย ถึงแม้วิดิโอ จะดูไม่โปรก็ไม่เป็นไร ขอแค่ตลก ไร้สาระ...เป็นพอ

และที่สำคัญ คือ คลิปสั้นๆ ที่พอคนดูแล้วรู้สึกว่าเจ๋ง หรือชอบ เพราะความไร้สาระของมัน ก็เลยแชร์ต่อให้คนอื่นดู พอยิ่งแชร์เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งเป็นที่รู้จักของคนอื่น

หากเทียบ กับ podcast ยาวๆ ที่คนปกติคนจะไม่ค่อยแชร์ให้คนอื่น นั่นคือ สิ่งที่คนชอบแชร์ก็คือ รูป คลิปสั้นๆ หรือ Infographic

สาม ผู้ใช้งานเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ขึ้นมาเอง (Audience-Builder Digital Platform)

เหมือน อินสตาแกรม หรือ เฟสบุ๊ค ที่ผู้ใช้งานสามารถสร้างคอนเทนต์ ขึ้นมาเองได้ ทำให้ TikTok มีคอนเทนต์ ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และด้วยคอทเทนต์แนวตลกไร้สาระ ก็ทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์ม ที่ผู้ชม กลายร่างเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ สูงมากๆ

สี่ Network Effect – ผู้ใช้งานยิ่งเยอะ ยิ่งทรงพลัง

อันนี้น่าสนใจ คือ คอนเทนต์ แนวตลก ไร้สาระ มันเป็น คอนเทนต์ ที่ “Evergreen” หรือ ดูได้เรื่อยๆ คุณค่าไม่ได้ลดลงมากตามกาลเวลา ไม่เหมือน คอนเทนต์แนวข่าวสาร ที่พอเวลาผ่านไป ข่าวนั้นก็ตกยุคไปแล้ว

ส่งผลให้คนใหม่ๆ ที่เข้ามาใน TikTok ก็ยังรู้สึกฮากับคลิปเก่า ที่มีอยู่ในระบบ จากนั้นก็กลายร่างเป็นคนทำคลิปซะเอง ยิ่งทำให้มีวิดิโอฮาๆ เพิ่มขึ้นอีก ช่วยเสริมให้ผู้ใช้งานเพิ่ม พอมีคนอยู่เยอะ ทีนี้เหล่าคนดัง ก็เริ่มอยากมาลงคลิปบ้างแล้ว เพราะมีคนดูเยอะ

blockdit.com

Suthichai Podcast

สุทธิชัย หยุ่น ชวนออกกำลังกาย ให้ท่ายว่าชู้ 10 ครั้งจะลงสักกี่ลูก?

ห้า First Mover – เริ่มก่อนได้เปรียบ

มีคำศัพท์หนึ่งในโลกดิจิตอล ก็คือ “Operational Marathon” คือ แอปฯ ที่เริ่มก่อนหน้าคนอื่น ก็จะสั่งสมข้อมูลได้มากกว่า และพัฒนาไปได้ไกลกว่าคนที่ตามมาทีหลัง

TikTok ก็ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิก คลิปวิดิโอสั้นๆ แนวไร้สาระแบบนี้

หก AI และการใช้ดิจิตอลล้วนๆ

ด้วยระบบ AI ทำให้พนักงาน TikTok ไม่ได้ทำงานปฏิบัติการอีกต่อไป แต่มีหน้าที่ออกแบบ “Machine” หรือเครื่องจักร ที่ใช้ในการรับคลิป คัดเลือก และโชว์คลิปให้คนที่เข้ามาใช้งานแอปฯ

TikTok สามารถรองรับผู้ใช้งานได้แบบไม่จำกัด ทุกอย่างเป็นซอฟต์แวร์ทั้งหมด โดยที่คนไม่ต้องเข้ามาวุ่นวาย (หลังจากที่ได้ออกแบบ Machine แล้ว)

แล้วถ้าให้เลือก แค่ 2 ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ TikTok พุ่งเป็นจรวด เพื่อนๆคิดว่า 2 ข้อนั้นคือ อะไร???

โปรเฟสเซอร์ Jeff Towson

โปรเฟสเซอร์ Jeff วิเคราะห์ว่า ผู้บริโภค คงคิดแค่ TikTok มันทำให้ติดงอมแงมจริงๆ เหมือนคนที่ติดกาแฟ กระทิงแดง หรือโค้ก คือ TikTok เสมือนเข้ามาแฮกสมองคนดู คือ ดูเพลิน ทั้งวิดิโอ เพลง ลิปซิงค์ ท่าเต้นต่างๆ

แต่คำถาม คือ แพลตฟอร์มอื่นๆ ไม่มีเรื่องเหล่านี้เลยหรอ? ทั้งวิดิโอสั้น ทั้งเรื่องตลก ทั้งเต้น Cover ซึ่งก็ต้องบอกว่ามีใน YouTube อยู่แล้ว...ดังนั้นข้อหนึ่ง อาจไม่ใช่คำตอบ

หรือ จะบอกว่า AI ของ TikTok เทพกว่า AI ของเจ้าอื่น ก็อาจจะแค่ดีกว่า แต่คงไม่ได้เทพขนาดนั้น...ข้อหก ก็อาจไม่ใช่

โปรเฟสเซอร์ Jeff คิดว่า ช่วง 2 ปีแรก สิ่งที่ทำให้ TikTok ขยายกลุ่มผู้ใช้งานได้ มาจาก ปัจจัยข้อสอง (ใช้งานง่ายและแชร์ได้ง่าน) และข้อห้า (เริ่มก่อน) ก็คือ พอคลิปมันเจ๋งและทำตามได้ง่าย ทำให้คนทำตามและแชร์ให้เพื่อนๆดู นอกจากนี้ TikTok ยังเป็นความแปลกใหม่ในช่วงนั้น

และด้วยความที่เป็นคอนเทนต์แบบ Evergreen ดูกี่ทีก็ฮา ทำให้เริ่มมี Network Effect ผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น และมีคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม โปรเฟสเซอร์ Jeff ยังสงสัยว่า คลิปวิดิโอสั้นๆ นี่มันจะยั่งยืนจริงหรือ? หากผ่านไปอีก 5 ปี คนยังคิดว่าเต้นแบบนี้มันเจ๋งอยู่อีกไหม? ถ้าคนเริ่มเบื่อขึ้นมา ความน่าสนใจของแพลตฟอร์มก็จะยิ่งลดลงไปตามคนที่เบื่อแล้วเลิกเล่น

หรือ นี่คือ ฟองสบู่ลูกถัดไป ขึ้นเร็วก็ลงเร็ว...

เหมือนที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกว่ายังจำช่วงที่ ฮูลาฮูป โด่งดังมากๆ ได้….

ก้าวต่อไปของ TikTok

Kevin Mayor ในวัย 57 ปี ผิดหวังเล็กน้อยกับการที่ไม่ได้รับตำแหน่ง CEO ของ Disney ต่อจาก Robert Iger

ซึ่ง Kevin เองก็ฝากผลงานชิ้นโบว์แดงไว้ที่ Disney โดยหลังจากการเปิดตัว Disney+ เมื่อเดือน พฤศจิกายนปีที่แล้ว ล่าสุดมีผู้ใช้งานถึง 55 ล้านคนเลยทีเดียว

Cr. Financial Times

โดยทาง Kevin จะรับตำแหน่ง CEO ของ TikTok และ รับตำแหน่ง COO (Chief Operating Officer) ของบริษัทแม่ อย่าง ByteDance ด้วย

Kevin ระบุว่า เกมและเพลง เป็นสิ่งที่ TikTok สามารถขยายกิจการได้ในอนาคต

ในอดีต เราติดภาพว่าสินค้าจีน คือ ของก๊อปแบบด้านนอกเหมือนเป๊ะ แต่ข้างในมันไม่ใช่

ปัจจุบัน จีนทำได้ดีกว่านั้น และเจ๋งมากแบบ TikTok

TikTok ผู้ใช้งานทั่วโลก 1 พันล้านคนเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์โลก

แต่ ก็ต้องติดตามว่าความเจ๋ง จากคลิปวิดีโอสั้นๆ ลิปซิงค์ เต้น Cover เพลง จะยั่งยืนหรือไม่? จะอยู่ได้นานขนาดไหน? คงต้องดูกันยาวๆ