1 มิ.ย. 2020 เวลา 08:26 • ปรัชญา
ในฐานะที่เพจของผมก็ถึง1000แล้ว
ซึ่งเป็นก้าวที่2ที่ยิ่งใหญ่มากๆสำหรับผม
และตัวผมเองก็ทำเพจเกี่ยวกับเรื่องผี
วันนี้ผมจึงอยากทำบทความเกี่ยวกับผีในมุมมองของศาสนาพุทธครับ
ว่าง่ายๆก็คือ เหมือนสรุปว่าผีในมุมมองหรือแนวคิดของศาสนาพุทธนั้นเป็นอย่างไร
และนี่คือบทความแรกของ1000follows
ในวันที่1ของเดือนมิถุนายน
บทความนี้มีชื่อว่า
"ผีตามแนวคิดของพระพุทธศาสนา"
จะเป็นยังไง ไปดูกันครับ
3
2
1
Let's go ~
ความเชื่อเรื่องผีนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน อยู่ในชีวิตประจำวันเลยก็ยังว่าได้
โดยในไทยของเรานี่มีตำนานเกี่ยวกับผีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผีเปรต ผีปอบ ผีกระสือ ผีกองกอย ฯลฯ บลาๆๆ เยอะแยะไปหมด
ในยุคสมัยก่อนเชื่อกันว่า ภูตผีวิญญาณต่างๆมักจะสิงสู่อยู่ตาม แม่น้ำ ลำธาร ป่าเขา ที่นา และด้วยความเชื่อเช่นนี้ จึงทำให้มนุษย์ไม่กล้าที่จะรุกรานธรรมชาติมากเกินไป เพราะกลัวถูกผีลงโทษ
และด้วยความกลัวนี้ก็ได้ทำให้มนุษย์และธรรมชาติในสมัยก่อนมีความสมดุลต่อกัน เพราะมนุษย์ไม่กล้าเอาเปรียบหรือทำลายธรรมชาติมากจนเกินไป
และในทางพระพุทธศาสนา "ผี" หมายถึงดวงวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า "เปรต" "อสุรกาย"
แต่ถ้าผมจำไม่ผิด ตามตำราทางพระพุทธศาสนา จะเรียกเปรตว่า"ผีเปรต" แบบที่เราเรียกกันติดปากตามปกติ แต่ถ้าเป็นจำพวกอสุรกาย จะเรียกโดยรวมว่าผี เช่น ผีปอบ ผีกระสือ บลาๆๆ
และคำว่าผีก็ไม่ได้หมายถึงแค่อสุรกายหรือเปรตอย่างเดียว ยังหมายถึง ภูตหรือปีศาจอีกด้วย
ตามพระพุทธศาสนา
ผีคือสัตว์ที่เกิดในอสุรกายภูมิ ซึ่งพระพุทธศาสนาได้แบ่งภพภูมิที่สัตว์ต่างๆไม่ว่าจะสัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ หรือโอปปาติกะ (สัตว์นรก ผี เทวดา)จะต้องเวียนว่ายตายเกิดไว้ทั้งหมด 31 ภพภูมิ โดยจะเรียกกันว่า วัฏสงสาร 31 ภูมิ ( และถ้าผมจำไม่ผิด จะแบ่งออกเป็น สุคติภูมิ 27 และ ทุคติภูมิ 4 )
2
โดย"สุคติภูมิ" หมายถึง ภพภูมิที่ดี
มีทั้งหมด 27 ภูมิ และ "ทุคติภูมิ"
หมายถึง ภพภูมิที่ไม่ดี โดยจะแบ่งย่อยออกไปอีกดังนี้ครับ
ประมาณนี้เลยครับ
และตามหลักศาสนาพุทธนั้น ผีเกิดอยู่ในภพภูมิของอสุรกายและเปรต
และก็ผีนั้นเป็นคำไทย ส่วนอสุรกายเป็นคำบาลี แต่ความหมายของทั้ง2คำนั้นเหมือนกันอย่างสิ้นเชิง
แต่ถึงแม้ผีจะเป็นอสุรกายในศาสนาพุทธเรา
แต่ก็ใช่ว่าผีจะร้ายเสียเสมอไป
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ ไม่ว่าจะเกิดภพภูมิไหนๆ ก็สามารถทำความดีได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมนุษย์หรือผู้มาจากภพภูมิที่ดีเสมอไป แต่การทำกรรมดีอาจจะไม่สามารถทำได้เท่ากับมนุษย์แค่นั้นเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาล้วนต้องการบุญกันอย่างมากมาย
และนอกจากในวัฏสงสาร 31 แล้ว
สิ่งที่ยืนยันว่าผี อสุรกาย เปรต เป็นอย่างเดียวกันนั่นก็คือ "คติ 5"
คติ 5 ก็คือภูมิที่สัตว์จะต้องไปเกิดที่ถูกจำแนกไว้ในพระไตรปิฎกเล่มที่11 โดยมีทั้งหมด 5 อย่าง
โดยในพระไตรปิฎกระบุไว้ว่า
อสุรกายและผีนั้นจัดอยู่ในคติของเปรตครับ
เผื่อใครสงสัยต่อครับว่า
"ตายแบบไหนจึงจะเกิดเป็นผี"
พระอาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกเอาไว้ว่า
การตายมีอยู่ 4 อย่างด้วยกัน ซึ่งก็คือ
(อย่าอ่านเสียงต่ำนะครับ)
อายุกขยะ หรือว่าตายไปตามกาลเวลา
หมดอายุขัยนั่นเองครับ
กัมมักขยะ เป็นการตายแบบสิ้นเวรสิ้นกรรมต่อโลกใบนี้
อุภยักขยะ ตายเพราะหมดเวรหมดกรรมและก็หมดอายุด้วย
อุปัจเฉทกมรณะ ตายเพราะมีเวรกรรมที่ทำไว้เข้ามาทำให้ตาย
ข้อสุดท้ายเผื่อใครงงครับ สมมุติว่า
มีคนๆหนึ่งเคยทรมานวัวตัวหนึ่งด้วยการตีด้วยไม้และสุดท้ายก็ฆ่าวัว
จากเดิมเขาอาจจะต้องตายเพราะสิ้นอายุ แต่ด้วยผลกรรมนั้นหรืออาจจะผนวกกับแรงอาฆาตของน้องวัว ทำให้เขาอาจจะต้องตายเช่นเดียวกับวัว อาจจะโดนทำร้ายแบบวัว หรือ อาจจะมีอาการทรมานเฉกเช่นเดียวกับวัวและตายไปครับ
เรื่องเล่าเกี่ยวกับเวรกรรมตามทัน ผมเคยอ่านและฟังคนอื่นมาค่อนข้างเยอะครับ
ไว้มีโอกาสจะนำมาเล่าให้ฟังครับ
โอเคครับ ต่อๆ
ตามหลักพระพุทธศาสนาบอกเอาไว้ว่า
"การที่จะเกิดเป็นอะไรในชาติถัดไป
อยู่ที่ดวงจิตสุดท้ายและจิตใจของผู้ตาย"
ถ้าหากเป็นคนดี ทำแต่เรื่องดีๆ จิตใจนึกถึงแต่เรื่องดีๆ และดวงจิตสุดท้ายนึกถึงแต่กรรมดีที่เคยทำเอาไว้ ก็อาจจะส่งผลให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดี มนุษย์ เทวดา หรืออาจจะได้เป็นผีกึ่งเทวดา
1
แต่ถ้าเป็นคนชั่ว รังแต่จะทำให้คนอื่นเสียหาย
ทำแต่เรื่องเลวทรามต่ำช้า ในหัวก็จะนึกถึงแต่เรื่องร้ายๆ สุดท้ายก็จะเกิดเป็นผีชั้นต่ำนั่นเองครับ
และตามความเชื่อ ผีมีทั้งชั้นดีและไม่ดี ผมขอยกตัวอย่างคร่าวๆของผีชั้นดีและไม่ดีนะครับ
ผีชั้นดีก็จะเป็นผีที่มีฤทธิ์หรือออกแนวกึ่งผีกึ่งเทวดา เช่น ผีบ้านผีเรือน ผีที่เป็นเจ้าพ่อเจ้าแม่หรือเจ้าที่ ผีฟ้า รุกขเทวดา(เทวดาที่สิงอยู่ตามต้นไม้ หรืออาจจะเป็นผีนี่แหละ แต่สิงอยู่ตามต้นไม้และไม่ทำร้ายใคร) และนางไม้ครับ
( ทุกชนิด ผีตานี นางตะเคียนก็ด้วย) ฯลฯ
ผีชั้นเลวก็จะเป็นพวกผีที่ออกแนวBad Bad ทำร้ายคนอื่นหรือให้โทษแก่ผู้คน หรือผีที่เกิดจากการก่อกรรมไม่ดีเอาไว้ เช่น ผีปอบ ผีกระสือ ผีเป้า ผีโพง ผีกระหัง ผีกองกอย เป็นต้น
อ้อ และก็สัมภเวสีก็จัดเป็นผีครับผม
ซึ่งก็นับเป็นเปรตและอสุรกายเช่นกันครับ
อยู่ในระดับชั้นต่ำนั่นเองครับ
รุกขเทวดา ขอบคุณภาพจากWikipediaครับ🙏
สรุปโดยรวมเลยละกันนะครับ
ตามหลักพระพุทธศาสนา ผีและอสุรกายเป็นอย่างเดียวกัน ภพภูมิเดียวกัน และเกิดจากการมีกรรมและเขาก็ต้องการผลบุญเช่นเดียวกัน
แต่ถึงอย่างไรก็ดี ผีก็ไม่ได้มีแค่ผีชั้นไม่ดี
ผีชั้นดี ผีที่มีฤทธิ์ มีผลบุญติดตัวก็ยังมีอยู่
และอย่าลืมทำความดีกันวันละนิดจิตแจ่มใสนะครับทุกคน ผมเชื่อว่าทุกคนที่นี่เป็นคนดีกันทุกคนอยู่แล้ว ทำความดีเสริมเข้าไป ปังๆแน่นอนจ้า😄
และถ้าวันนี้บทความออกจะมึนๆงงๆก็ขออภัยด้วยนะครับ ผมไม่ได้ใช้หนังสือหรือข้อมูลอ้างอิงใดๆเลย ใช้แต่ความรู้ตัวเอง
เพราะเรื่องนี้ผมอยากเขียนออกมาเองล้วนๆครับ
ถ้าเขียนไม่ดีก็ขออภัยด้วยนะครับ🙏
สำหรับวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้แหละครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุขนะครับ
บุญรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองครับ
และถ้าชอบก็อย่าลืมกดไลค์ กดว้าว กดเลิฟ
ถ้าใช่กดแชร์ไปที่หน้าฟีดของท่าน
ติดตามเพจเรื่องเล่าในความมืดกันด้วยนะครับ
จะได้เจอกันบ่อยๆนะ
สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ🙏😊
เขียนจากสมอง เรียบเรียงเป็นคำอ่าน
เล่ามาจากใจ:เรื่องเล่าในความมืด
⏳1/6/63✒️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา