31 พ.ค. 2020 เวลา 16:14 • ปรัชญา
พลังแห่งความเมตตาต่อสัตว์โลก
วันหนึ่งมีโอกาสได้ไปทำบุญเห็นที่วัดมีสุนัขจำนวนมาก โดยทุกเช้าจะมีคุณยายเป็นคนที่ดูแล ให้อาหาร ซึ่งได้จากการที่ญาติโยมนำอาหารไปถวายพระสงฆ์ พวกสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จึงพลอยได้รับอานิสงส์จากอาหารเหล่านี้ มันทำให้ผู้ที่พบเห็นเกิดความสุขตามไปด้วย
อารมณ์ที่เห็นคุณยายให้อาหารสุนัขทำให้รู้สึกมีความสุขในความเมตตา ท่านเจ้าอาวาสบอกว่า แต่ก่อนวัดก็ไม่มีสุนัขเยอะขนาดนี้หรอกอย่างมากก็ประมาณ 4 ตัว แต่ปัจจุบันมีมากเยอะเกินไปจำนวน 10 กว่าตัว ด้วยคนเอามาปล่อย มีการท้องออกลูกที่นี่ให้ญาติโยมเอาไปเลี้ยงบ้าง ก็ไม่หมด
สัตว์เหล่านี้กลัวแต่จะไปกัดญาติโยมที่มาทำบุญ สร้างความเดือดร้อนให้กับทางวัด ไม่มีใครกล้าที่จะมาทำบุญ ใจหนึ่งก็สงสารไม่รู้จะไปพึ่งพาใครได้ก็มีแต่วัดพอเลี้ยงดูได้ ก็เลยฉีดยากันสุนัขบ้า ทำหมันไม่ให้ออกลูก และวอนชาวบ้านไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงมาปล่อยไว้ที่วัด
แต่ก็ยังมีคนบางกลุ่มที่นำสัตว์มาเลี้ยงใช้งานโดยที่ไม่ดูแลอย่างดี ทรมานสัตว์ จนล้ทป่วยตายไป แม้สัตว์จะสามารถนำมาใช้งานได้ แต่ก็ไม่ควรใช้หนักจนไม่ได้พักผ่อน แม้ยามเจ็บป่วยก็ควรที่จะนำสัตว์รักษา ไม่ควรปล่อยให้สัตว์ตายไปเอง
การนำสัตว์มาใช้งานแต่ไม่เคยดูแลอย่างดี ยิ่งเห็นยิ่งสงสาร เศร้าใจกับความโหดร้ายของมนุษย์ ต่อให้เราเลี้ยงเพื่อใช้งานก็ไม่ควรใช้จนป่วย เพราะความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ จึงทำลายชีวิตสัตว์จำนวนมากมาย สัตว์เองก็มีชีวิต จิตใจ แต่เพราะต้องทำหน้าที่เพื่อแลกกับอาหาร
สำหรับตัวผมเองหวังไว้เสมอว่ามนุษย์เราจะมีความเมตตาต่อสัตว์รวมโลก ที่เราเลี้ยงด้วยความรักและดูแลเอาใจใส่ ไม่ใช่เลี้ยงเพื่อระบายความอารมณ์ เพื่อนำไปใช้งานเยี่ยงทาส หากการกระทำของมนุษย์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปในอนาคตเราคงจะไม่ได้เห็นสัตว์บางชนิด และลูกหลานของเราก็คงจะเห็นแค่ภาพ และชื่อเท่านั้น
ดังนั้น ความเมตตาที่มีต่อสัตว์โลกด้วยกันนั้นเป็นสิ่งที่ดี สร้างความสมดุลให้กับโลก อีกทั้งเพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นต่อไปได้เห็น ที่ไม่ใช่เป็นแค่เพียงรูปภาพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับมนุษย์ว่าจะใ้หความสำคัญในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด สำหรับผมแล้วคงไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าการที่ได้เห็นสัตว์หลากชนิดอยู่บนโลกใบนี้อย่างมีความสุข
ฝากกด Like
ฝากกด Share
ด้วยนะครับ
โฆษณา