31 พ.ค. 2020 เวลา 12:45 • ธุรกิจ
🏨 BH ชีวิตต้องสู้
วิบากของโรงพยาบาลที่เน้นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ
ถ้าถามว่าโรงพยาบาลเอกชน โรงพยาบาลไหน ❓ ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มากที่สุด
คงหนีไม่พ้น “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์” เพราะเป็นโรงพยาบาลที่ยืนหนึ่ง มีความเป็น รพ.High - End ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ
โดยเป็นโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้จากชาวต่างชาติ มากกว่า 2 ใน 3
และแน่นอนจากการปิดประเทศ ในช่วงที่โควิด 19 กำลังระบาด ก็ทำให้กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ได้ขาดหายไปด้วย
โดยผลประกอบการ Q1/63 ที่ผ่านมา
โรงพยาบาลมีกำไรสุทธิ 765.20 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.03 บาท ลดลง 29.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,081.40 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.48 บาท
สาเหตุที่กำไรลดลง เนื่องจากผลกระทบที่รุนแรงจากการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ในช่วงปลายไตรมาส รวมถึงการปิดเมืองในประเทศไทยและการห้ามเดินทางในทุกประเทศทั่วโลก
บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,179 ล้านบาท ลดลง 11.7% จาก 4,733 ล้านบาท และมีอัตรากำไรสุทธิเป็น 18.3% เทียบจาก 22.8% ในไตรมาส 1 ปี 2562
บริษัทมีรายได้จากกิจการโรงพยาบาลจํานวน 4,090 ล้านบาท ลดลง 12.0% จาก 4,650 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2562 โดยหลักเป็นผลจากการลดลงของรายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยและกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างประเทศ 2.5% และ 16.4% ตามลําดับ ทำให้รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยชาวไทยคิดเป็นสัดส่วน 34.7% ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยต่างประเทศคิดเป็น 65.3% เทียบกับ 31.3% และ 68.7% ตามลําดับ
ในไตรมาส 1/2562 ด้านต้นทุนกิจการโรงพยาบาล รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายมีจำนวน 2,297 ล้านบาท ลดลง 7.9% จาก 2,495 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2562  ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากค่าธรรมเนียมแพทย์ที่ลดลง 160 ล้านบาท และต้นทุนสินค้าลดลง 28 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการลดลงของรายได้จากกิจการโรงพยาบาล ด้านค่าใช้จ่ายในการบริหาร รวมค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายเพิ่ม 7.1% จากไตรมาส 1/2562 เป็นจํานวน 819 ล้านบาท เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษาซอฟท์แวร์เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท และค่าที่ปรึกษาเพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท
กําไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจําหน่าย (EBITDA) ของบริษัทลดลง 23.6% เป็น 1,238 ล้านบาท จาก 1,621 ล้านบาทในไตรมาส 1/2562
ด้านผลกระทบจากการนํามาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่16 สัญญาเช่ามาถือปฏิบัติ ณ วันที่ 1 ม.ค.2563 และการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของค่าใช้จ่ายในการลงทุนส่งผลให้ค่าเสื่อมราคาและตัดจำหน่ายในไตรมาส 1/2563 เพิ่มขึ้นเป็น 311 ล้านบาท จาก 298 ล้านบาทในไตรมาส 1/2562
และไตรมาส 2 นี้ งบเองก็ไม่น่าจะฟื้น จากการปิดเม่องเดือนเม.ย. อีกทั้งยังขยายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือนพ.ค. อีก 1 เดือน และมีโอกาสต่อมาตรการได้ หากยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างชัดเจน
โเยเชื่อว่าผลประกอบการของ BH จะเป็นช่วงที่เลวร้ายสุด โดยในครึ่งปีหลัง คาดหวังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และสถานการณ์เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยต่างชาติจะทยอยเริ่มเดินทางมารับรักษาที่ BH ได้ตามปกติ
การปรับตัวลงต่อเนื่องของราคาหุ้น BH ส่งผลให้ P/E ในปัจจุบันลดลงมาอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ 27.25 เท่า เช่นเดียวกับ P/BV ที่ดลลงมาอยู่ที่ 4.5 เท่า ขณะเดียวกัน ผลตอบแทนจากอัตราเงินปันผลอิงจากการจ่ายปันผลเมื่อปีก่อน ก็ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.56 % อย่างไรก็ตาม ด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงหลังจากนี้ ทำให้ความน่าสนใจของหุ้นที่แม้จะอยู่ในช่วงลดราคาจากในอดีต ก็อาจจะยังไม่น่าสนใจนัก
ก็ต้องสู้กันต่อไป สำหรับโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ “บำรุงราษฎร์”
โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบที่สุดโรงพยาบาลหนึ่ง
จาก ภาวะวิกฤต โควิด-19
ติดตามบทความดีๆของพวกเราได้ทาง WEBSITE
หรือ FACEBOOK เพจ หุ้นพอร์ทระเบิด
- - - -
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดพอร์ท หุ้น TFEX SBL BLOCKTRADE กับโบรคเกอร์ KTBST
ค่าธรรมเนียมเรทพิเศษ
พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย
- ทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ
- โปรแกรม EFIN//ASPEN
- โปรแกรม SUPPORT อื่นๆเช่น MT4//MODEL TRADE//KTBST SMART และอื่นอีกมากมาย
กรอกรายละเอียดได้เลย 👇
โฆษณา