31 พ.ค. 2020 เวลา 21:44 • ปรัชญา
“ทดแทนบุญคุณต่อพ่อแม่”
ธรรมะรุ่งอรุณ ☀️
๑ มิถุนายน ๒๕๖๓
วิธีหาความสุขแบบไม่มีความทุกข์ใจ ก็หาด้วยการทำความดี วันไหนได้ทำความดี วันนั้นก็มีความสุขใจ วันไหนไม่ว่าง ไม่ได้ทำความดี ก็ไม่ทุกข์ใจ แต่ถ้าหาความสุขจากการทำตามความอยาก วันไหนไม่สามารถทำตามความอยากได้ วันนั้นก็ทุกข์ใจ ฉะนั้น เราควรจะเลิกหาความสุขจากการทำตามความอยากต่างๆ แล้วหันมาหาความสุขจากการทำความดี ทำบุญ แล้วก็หาความสุขจากการไม่ทำบาป การทำบาปนี้ก็เป็นทุกข์ เวลาเราทำบาปใจเราก็จะทุกข์ ใจเราจะไม่สบาย แต่ถ้าเราไม่ทำบาป ใจเราก็จะไม่ทุกข์ ใจเราก็จะเฉยๆ ไม่เดือดร้อน นี่คือการหาความสุขแบบพระพุทธเจ้า ท่านสอนให้เราหาความสุขจากการทำบุญทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่มีพระคุณกับเรานี้ เราควรจะทำ เป็นบุคคลที่เราควรจะต้องพุ่งเป้าหมายไปก่อน ทำประโยชน์กับคนที่มีบุญคุณกับเรา ทดแทนบุญคุณให้แก่ผู้มีพระคุณ เสร็จแล้วเราค่อยไปทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นต่อไป
ตัวเราไม่ควรลืมคนที่สำคัญในชีวิตของเรา คนที่เสียสละคนที่ให้อะไรกับเราอย่างมากมาย ถ้าเราเป็นคนที่ให้อะไรใครเราก็จะมีความรู้สึกน้อยใจที่คนที่เราให้นี้ไม่เคยคิดถึงเราเลย ลูกๆ นี้บางทีไม่ค่อยคิดถึงพ่อแม่ กลับไปคิดถึงภรรยาสามีกับลูกๆ ของเขามากกว่า แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้หวังอะไรจากลูกๆ พ่อแม่ก็ทำด้วยความเมตตา ทำด้วยเป็นหน้าที่ๆ ต้องทำ เมื่อมีลูกแล้วก็ต้องเป็นความรับผิดชอบที่ต้องเลี้ยงดูลูกให้ดี ไม่ให้ไปตกทุกข์ยากลำบาก เวลามีปัญหาอะไรก็ต้องพยายามมาช่วยเหลือ แต่คนอื่นไม่มีใครเขาทำอย่างนี้กับเราหรอก ไม่มีใครเขาจะคอยดูแลเราช่วยเหลือเรา ไม่มี และก็ไม่ได้หวังอะไรจากเราเป็นผลเป็นสิ่งตอบแทน แต่เราควรที่จะรำลึกถึงพระคุณของคนที่มีพระคุณกับเรา แล้วถ้าตอบแทนได้ ตอบแทนบุญคุณได้ก็จะดี จะทำให้พ่อแม่หรือคนที่มีพระคุณนี้เขามีความปลื้มอกปลื้มใจ มีความสุขใจ เขาไม่ได้สุขใจจากสิ่งที่เราให้เขาหรอก แต่เขาได้จากความที่เรามีจิตสำนึกที่เรามี ความดีงามในตัวเรา ทำให้เขาเหมือนกับว่าไม่เสียกำลังใจที่ได้ปั้นคนดีขึ้นมา ได้สร้างคนดีขึ้นมา ทำให้เขาไม่เหน็ดเหนื่อย เหมือนกับเราทำงานแล้วได้ผลงานดี ได้รับรางวัลนี้เราก็จะมีความสุขใจ
รางวัลของพ่อของแม่ของผู้มีพระคุณก็คือ การทดแทนบุญคุณของเราต่อพ่อแม่ ต่อผู้มีพระคุณ การทดแทนก็มีหลายวิธี การทำตัวเราให้เป็นคนดี สมมุติว่าเราไม่มีปัญญาที่จะให้เงินให้ทองพ่อแม่มากมาย อย่างน้อยเราทำตัวเราให้เป็นคนดี ก็เป็นการทดแทนบุญคุณ ทำให้พ่อแม่ไม่ต้องมาหนักอกหนักใจกับเรา ทำตัวเราไม่ให้ไปมีปัญหา เช่นไม่ไปทำบาป ไม่ไปทำผิดกฎหมาย รักษาชื่อเสียงของตระกูล อันนี้ก็เป็นการทดแทนบุญคุณอย่างหนึ่งเหมือนกัน หรือเคารพพ่อแม่ ก็เป็นการทดแทนบุญคุณ ให้ความเคารพพ่อแม่เวลาพ่อแม่ดุด่าว่ากล่าวตักเตือน ก็ควรที่จะน้อมรับมา ไม่ควรที่จะโต้เถียง เวลาพ่อแม่พูดว่าเราหรือบอกอะไรเรานี้ ถือว่าเป็นการสั่งสอน เหมือนพระสงฆ์องค์เจ้ากำลังสั่งสอนเรา ท่านสอนด้วยความเมตตา ท่านสอนด้วยความปรารถนาดี เมื่อท่านเห็นว่าเราทำอะไรไม่ถูก ก็ต้องว่ากล่าวตักเตือนกัน เพราะถ้าไม่ว่ากล่าวตักเตือนแล้วใครจะมาว่ากล่าวตักเตือนล่ะ เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ พ่อแม่นี้เป็นครูอาจารย์คนแรกของลูกๆ เราเรียนรู้อะไรต่างๆ จากพ่อแม่มามากมาย ภาษานี้เราก็เรียนจากพ่อจากแม่ ที่เราจะพูดได้นี้ก็อาศัยพ่อแม่คอยเป็นคนสั่งสอน วิธีกินวิธีอยู่ วิธีหลับวิธีนอน มารยาทต่างๆ เพราะพ่อแม่เป็นคนสอนเราทั้งนั้นแหละ ฉะนั้นเวลาพ่อแม่พูดอะไร ถึงแม้ไม่ถูกใจเรา เราก็ต้องสำรวมอาการกิริยาความไม่พอใจ มันเป็นเรื่องที่เป็นธรรมดาเวลาใครเขาพูดอะไรไม่ถูกใจเรา เราก็อาจจะโกรธได้ แต่เราต้องมีสติ เวลาที่เราอยู่ต่อหน้าพ่อแม่ ให้คิดว่าเรากำลังอยู่ต่อหน้าพระสงฆ์องค์เจ้า ต่อคนที่สำคัญ เช่นอยู่ต่อหน้าพระเจ้าแผ่นดิน เราจะไม่แสดงอาการอะไรออกมาถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่พอใจ เราก็ต้องอดทนอดกลั้น ฟังอย่างเดียว พ่อแม่สั่งพ่อแม่สอนนี้ไม่ควรไปเถียง จะถูกจะผิดนั้นค่อยมาพิจารณากันอีกที ถ้าสิ่งที่พ่อแม่สอนผิดก็ไม่ต้องทำตามก็ได้ เช่นถ้ามาสอนให้ไปฉ้อโกงไปลักทรัพย์อย่างนี้ ถ้าสอนอย่างนี้ก็ไม่ต้องทำตามก็ได้ แต่เวลาที่ท่านสอนไม่ต้องไปเถียงท่าน ปล่อยให้ท่านพูดไป แล้วเราก็มาพิจารณาของเราดูอีกทีว่าถูกหรือไม่ถูก ควรจะทำหรือไม่ทำ การไม่ทำตามพ่อแม่เพราะมันไม่ถูกนี้ไม่บาป ไม่เสียหาย ไม่ได้เป็นความอกตัญญูแต่อย่างใด หรือการไม่ได้ทำตามที่สิ่งถูกต้อง ก็ไม่ได้เป็นการอกตัญญู บางทีเราอาจจะไม่มีปัญญาทำตามก็ได้ ก็ทำเท่าที่เราจะทำได้ก็แล้วกัน แต่ข้อสำคัญไม่ควรไปตอบโต้ โต้เถียง หรือด่าพ่อด่าแม่ ว่าพ่อว่าแม่ อันนี้แหละไม่ควร แสดงถึงความไม่มีความกตัญญูไม่มีความเคารพ เวลาพ่อแม่พูดอะไรก็ต้องครับอย่างเดียวผมอย่างเดียว หรือไม่ก็เฉยๆ ฟังไป เพราะพ่อแม่ไม่ต้องการอะไรจากเราหรอก ต้องการให้เราเป็นคนดี เพราะการเป็นคนดีทำให้เรามีความสุขนั่นเอง
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
โฆษณา