1 มิ.ย. 2020 เวลา 02:52 • การศึกษา
7 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
ในที่นี้ เราจะใช้ หลักการของ NLP กันค่ะ
2
สิ่งที่ต้องมีคือ
 
1.  เป้าหมาย
ลูกธนูนั้นไม่มีวันพุ่งเข้ากลางเป้าได้เลย
ถ้าคนยิงไม่รู้ว่าเป้าหมายของเขาอยู่ที่ไหน
3
รถแข่งก็ไม่มีวันถึงเส้นชัยได้เลย
ถ้าคนขับไม่รู้ว่าเส้นชัยที่ต้องไปนั้นอยู่ที่ไหน
ชีวิตของคนเราก็เหมือนกัน
เราไม่สามารถประสบความสำเร็จใดๆ ได้เลย
ถ้าเราไม่รู้ว่าความสำเร็จของเราคืออะไร มีกน้าตาเป็นอย่างไร
2.  ความเชื่อ
ลูกธนูที่แม่นยำที่สุดต้องการ...แรงง้างคันธนู
รถแข่งก็ต้องการ...น้ำมันอ๊อกเทนสูง
มนุษย์ต้องการแรงพลังงานหรือแรงผลักดันที่คอยสร้างความมุ่งมั่นความพยายามอุตสาหะ
สิ่งที่ว่านี้ก็คือความเชื่อ
ความเชื่อนี้ก็คือการที่มนุษย์เรายอมรับต่อสิ่งใดอย่างไม่มีเงื่อนไข
รู้ไม่เกิดพลัง เชื่อจึงเกิดพลัง
ขยายเองว่า เหมือนรู้วิธีว่าทำอย่างไรเราถึงลดน้ำหนักได้..รู้ แต่ เราเชื่อไหมล่ะ...ว่าเราผอมได้
3.  กลวิธี (Strategy)
หมายถึง วิธีการ+ลำดับขั้นตอน
ที่จะทำให้ไปถึงความสำเร็จที่วางเป้าหมายเอาไว้
ที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร อะไรทำก่อน อะไรทำหลัง มีวิธีการหรือมีสูตรในการทำอย่างไร
 
การสร้างรูปแบบของกลวิธีที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้ด้วยตัวเองนั้นยาก ต้องผ่านกระบวนการลองผิดลองถูก (ใช้เวลานานด้วย)
แต่การถอดแบบความสำเร็จมาจากผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้วนั้นง่ายกว่ากันมาก (Modeling)
จงค้นหาสิ่งที่เราต้องการว่ามีใครทำ แล้วทำมัน
4. คุณค่า
การมองเห็นคุณค่าของสิ่งใดๆ เป็นแรงขับดันให้เราทำสิ่งนั้นๆ ทั้ง การเห็นคุณค่าของเป้าหมาย และ การมองเห็นคุณค่าของตัวเอง
การที่ Cup Cake ที่อร่อยที่สุดในโลก
มันเป็นที่สุดของโลก
เป็นขนม Cup Cake ที่ทุกๆ จะต้องชอบ
ทุกๆคนจะต้องพึงพอใจ
เป็น Cup Cake ที่จะนำไปสู่อารมณ์ที่เป็นบวก
เมื่อทุกคนได้ลิ้มรสของมัน
และการที่ตัวเราเองได้เป็นผู้ที่สรรค์สร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมชิ้นนี้ขึ้นมา
ความภูมิใจเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ยอดเยี่ยมเพื่ออำนวยสภาพอารมณ์ให้เรามีพฤติกรรมไปสู่ความสำเร็จได้ตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้
5.  พลัง
ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนต้องการพลัง
นอกจากพลังที่เป็นพลังภายในจิตใจ
เช่นความเชื่อหรือการมองเห็นคุณค่า
ในที่นี้หมายถึงพละกำลัง คือ พลังที่จะต้องใช้ในการนวดแป้ง
พลังที่จะต้องใช้ในการยกถาดใส่ขนม Cup Cake ยัดใส่ลงไปในเตาอบ
พลังในการยกถาด Cup Cake ร้อนๆ ออกจากเตา
และพลังอีกมากมายที่จะต้องถูกใช้ในอีกหลายๆ กิจกรรมที่เป็นขั้นตอนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จที่ปลายทาง
ดังนั้นถึงแม้ว่าคุณจะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
คุณมีความเชื่อมั่น
มีกลวิธีการที่ยอดเยี่ยม
และมองเห็นคุณค่าต่อเป้าหมายและต่อตัวเอง
1
แต่ถ้าสังขารไม่อำนวย
เวลาทั้งหมดของชีวิตถูกนำไปใช้บนเตียงให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลแล้วล่ะก็
ทุกๆ อย่างมันก็จะไม่มีวันสำเร็จขึ้นมาได้เลย
2
6.  มิตรภาพ
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่รวมกันอยู่เป็นสังคม
การประสบความสำเร็จใดๆ ก็ตามจึงไม่อาจจะเกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยวได้
การมีมิตรภาพที่ดีต่อคนรอบๆ ทำให้เราได้รับการตอบสนองที่ดีจากคนที่อยู่รอบๆ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องต่างๆ ที่เคยยุ่งยากมันจะง่ายเข้าอีกมาก
1
เราผลิต Cup Cake ที่อร่อยที่สุดในโลกขึ้นมา
แต่เราทะเลาะกับคนรอบบ้านไปทั่วไปหมด แบบนั้นก็ไม่มีประโยชน์หรอก
ผิดกับการที่เรามีมิตรภาพที่ยอดเยี่ยมกับคนรอบๆ
ใช้เวลาไม่นานนัก Cup Cake ที่อร่อยที่สุดในโลกจะได้รับการเผยแพร่ออกไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
และบ่อยครั้งที่เราจะต้องพบกับปัญหาในการดำเนินงานซึ่งมันเป็นเรื่องปรกติ
ขอให้มั่นใจค่ะว่ามิตรภาพที่ยอดเยี่ยมสามารถคลี่คลายปัญหาให้เราได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน
เตาอบเสีย แก๊สหมด ไม่มีที่หน้าร้าน ไม่มีคนช่วยขายขนม มิตรภาพที่ยอดเยี่ยมสามารถช่วยคุณได้อย่างแน่นอน
7.  การสื่อสารที่ยอดเยี่ยม
1
เพราะว่าไม่มีใครไม่สามารถที่ไม่สื่อสารได้
นัก NLP ให้ความสำคัญต่อประสิทธิภาพในการสื่อสารมาก
1
การสื่อสารที่ดีย่อมให้ผลตอบสนองที่ดี
คำว่าสื่อสารของ NLP ไม่ใช่เพียงแต่การใช้ถ้อยคำพูดหรือภาษากายเท่านั้น
แต่หมายถึงๆ ทุกสิ่งที่ถูกนำเอาไปตีความเกิดเป็นความรู้สึกหรือสภาพอารมณ์
ไม่ว่าการตีความนั้นจะเกิดในผู้อื่นหรือเกิดในตัวเองก็ตาม
2
เมื่อการสื่อสารผิดพลาดทุกสิ่งทุกอย่างก็พลอยผิดพลาดไปหมด
รวมทั้งเสียงในหัวด้วย
เมื่อเราทราบถึงขั้นตอนที่จะประสบความสำเร็จแล้ว
ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้วล่ะค่ะ
มีคำพูดที่ว่า
อย่าหวังสิ่งใหม่ๆ ในการกระทำเดิมๆ นั่นเป็นประโยคที่ถูกต้องมากทีเดียว
5 ขั้นตอนง่ายๆในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ขั้นตอนที่ 1:
การตั้งเป้าหมายผ่านจินตนาการ (Set Goal thru Imagination)
สำหรับหลายๆคนแล้ว การค้นหาเป้าหมายเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
ดังนั้น ลองเทคนิคนี้ดูกันนะคะ
ลองฟังเสียงหัวใจตัวเองดูสิคะ
หัวใจเราต้องการอะไร
เราต้องการเป็นใคร
ลองหลับตานึกภาพวันที่เราได้กลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จแบบที่เราต้องการ
เราเห็นตัวเองเป็นยังไง
ชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปยังไงบ้าง
มีอะไรที่เราได้สร้างให้เกิดขึ้นมา
1
ลองสำรวจความรู้สึกข้างในดูสิว่า มันอิ่มเอิบ สดใส ซาบซ่า มีชีวิตชีวา ขนาดไหน
หากเราจะบรรยาย ภาพตัวตนที่เราต้องการเป็น ออกมาเป็นประโยคสั้นๆ เราจะบรรยายว่ายังไง
จากนั้น ก็นำประโยคนั้นมาทำเป็นเป้าหมายกันเลย
เป้าหมายแบบนี้แหละที่จะให้พลังใจในการทำอย่างต่อเนื่องกับเราค่ะ
โดยเราสามารถใช้เทคนิค SMART Goal มาช่วยทำให้เป้าหมายของเราชัดเจนขึ้นได้
S = Specific
เป้าหมายนั้นควรเขียนออกมาให้ชัดเจน เฉพาะเจาะจง
M = Measurable, Meaningful to you
เป้าหมายควรมีตัววัด เช่น กิจกรรม ตัวเลข
เป้าหมาย ควรเป็นสิ่งที่มีความหมายกับเรา ให้แรงบันดาลใจกับเรา
A = Achievable,As if now
เป้าหมายควรเป็นสิ่งที่เรามองเห็นความเป็นไปได้ที่จะทำให้สำเร็จ นั่นคือ ไม่ใช่เป้าหมายที่เพ้อฝัน
แต่ก็ไม่ใช่ตั้งเป้าตำ่เกินไปจนไม่กระตุ้นให้เราพัฒนาตัวเอง
นอกจากนี้ การเขียนเป้าหมาย ให้เขียนเป็นประโยคปัจจุบัน ไม่ใช่ อนาคต
เพราะเป็นภาษาที่เราใช้บอกจิตใต้สำนึกของเรา เช่น เราบอกตัวเองว่า “สักวันหนึ่ง เรา’จะ’เป็นนักขายอันดับหนึ่งของบริษัท”
เมื่อเราบอกเป็นอนาคตที่ลอยๆแบบนี้ ก็เท่ากับว่า เรื่องนั้นมาไม่ถึงสักที
ในทาง NLP แล้ว จึงให้เราพูดเป็นประโยคปัจจุบัน
คือ “ในวันฉลองปีใหม่ของบริษัทตอนสิ้นปี 2017 ฉันได้รับรางวัลนักขายยอดเยี่ยมของบริษัท”
R = Realistic, Reasonable/Ecological
เป้าหมายต้องมีความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ สามารถนำไปลงมือทำได้
และ Reasonable/Ecological หมายถึง เป้าหมายควรเป็นสิ่งที่ดีกับตัวเรา ดีกับคนที่เรารัก ดีกับองค์กร/สังคม
T = Timely
เป้าหมายควรมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ไม่เลื่อนลอย
คือ บอกวันเดือนปี ที่ชัดเจน
เรื่องนี้ก็เป็นการสื่อสารกับจิตใต้สำนึกอีกเช่นกัน
ถ้าเราไม่กำหนดเวลาชัดเจน จิตใต้สำนึกก็ไม่รู้สึกว่า เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ
ก็อาจจะถูกเรื่องเร่งด่วนที่เกิดในแต่ละวัน มาแย่งเวลาเอาไปหมด
ขั้นตอนที่ 2:
นำเป้าหมายมาแตกเป็นเป้าหมายย่อย (Make Your Goal Actionable)
ลองนำเป้าหมายใหญ่มาแตกเป็นเป้าหมายรายไตรมาส คือ เป้า 3 เดือน หรือ เป้าประจำเดือน
เช่น หากเราอยากเป็นยอดนักขายอันดับหนึ่งของบริษัทในปีหน้า แล้วเราควรพัฒนาตัวเองเรื่องอะไรในอีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้
หรือ ในสามเดือนข้างหน้า จากนั้นก็เขียนเป็น SMART GOAL อีกค่ะ
ขั้นตอนที่ 3:
เริ่มต้นสร้างนิสัยใหม่ (Begin Your New Habit)
ลองทำรายการกิจกรรมที่จะนำไปสู่เป้าหมายย่อยที่เราต้องการ ทำออกมา 2-3 กิจกรรมก็ได้
เช่น หากเป้าหนึ่งเดือนคือ การปิดการขายให้ได้มากขึ้น 20%
ดังนั้น กิจกรรมอะไรล่ะที่จะพัฒนาให้เราสามารถปิดการขายได้ดีขึ้น
ทำตารางง่ายๆขึ้นมา เพื่อไว้บันทึกความก้าวหน้าในกิจกรรมแต่ละวัน
สิ่งนี้สำคัญ เพราะนอกจากจะไว้คอยบันทึก ยังเป็นการสร้างวินัยให้กับตัวเอง (Self-Discipline) ที่จะทำสิ่งที่ได้ตั้งเป้าไว้อย่างสม่ำเสมอ
ขั้นตอนที่ 4:
ลงมือทำอย่างต่อเนื่อง (Be Consistent and Persistent)
ขอให้คุณ’ลงทุนเวลา’ของคุณในการทำกิจกรรม 1,2,…ทุกๆวัน
เพราะการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเอง เป็นเรื่องที่เราต้องทำอย่างต่อเนื่อง
เพื่อสร้างแทรคใหม่ในสมอง เหมือนการขุดทางน้ำใหม่เพื่อทดแทนทางเดินนำ้อันเดิม
เราต้องขุดให้ได้ลึกพอ กว้างพอ และยาวไปเรื่อยๆ จนทางน้ำใหม่นั้นใหญ่กว่าทางน้ำเดิม
แล้วนำ้ก็จะเริ่มไหลมาทางใหม่นี้มากขึ้นๆจนทดแทนทางเดิมได้สำเร็จ
ขั้นตอนที่ 5:
ฉลองความสำเร็จ (Celebrate Your Success)
ในแต่ละวัน เมื่อทำกิจกรรมประจำวันสำเร็จ ให้ชื่นชมตนเอง
เมื่อครบหนึ่งสัปดาห์ แล้วเราทำกิจกรรมได้ครบตามที่ตั้งเป้าไว้ ก็ให้ชื่นชมตัวเองด้วยค่ะ
เมื่อครบหนึ่งเดือน แล้วเราบรรลุเป้าหมายของกิจกรรมย่อยๆ ก็ให้รางวัลตัวเองบ้างนะคะ
เทคนิคนี้ คือ Anchoring พฤติกรรมบวกของตัวเองค่ะ ทำไปเรื่อยๆก็จะกลายเป็นนิสัยแห่งความสำเร็จ
เป็นไงคะ ลองปฎิบัติดูกันนะคะ เชื่อว่าทุกคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ตื่นเต้น อยากลองไปทำแล้วล่ะค่ะ
เพิ่มการฝึกฝนตัวเองวันละนิด
เหมือนเติมวันละ 1 องศา
1 วัน อาจจะไม่มีอะไร
10 วันไม่มีความต่าง
แต่ 100 วันล่ะ 1000 วันล่ะ
จะเปลี่ยนแปลงไปโดยแทบไม่เห็นร่องรอยเดิม
มาร่วมกันหา1องศา เพื่อเติมเต็มวงล้อชีวิตให้สมบูรณ์ไปกับพิ้งกี้และบลูบลูกันใหม่นะคะ
1
หากชอบบทความนี้ กดFollow กดLike กดShare เป็นกำลังใจให้พิ้งกี้และบลูบลูด้วยค่า
ติดตามที่ Blockdit
ติดตามที่ Youtube
ติดตามที่ Facebook

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา