2 มิ.ย. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
Dusit Tani อาณาจักรโรงแรมหมื่นล้าน ที่กำลังรีสตาร์ทใหม่
วิกฤติโรคระบาดส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจการบริการและการท่องเที่ยวมากที่สุด ซึ่ง “ดุสิตธานี” เครือโรงแรมยักษ์ใหญ่ของไทย ก็ไม่พลาดที่จะได้รับผลกระทบดังกล่าว..
แม้ปีที่ผ่านมา จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนไทยเฉียด 40 ล้านคน และมีการคาดการณ์ว่าปีนี้จะมาเพิ่มขึ้นแตะหลัก 40 ล้านคน แต่ทว่า Covid-19 ก็มาขวางทาง จึงทำให้มีการคาดการณ์ใหม่ว่า จะมีนักท่องเที่ยวลดลงไปถึง 60%
..เครือโรงแรมที่กำลังจะยิ้มรับทรัพย์อย่างร่าเริง กลับกลายเป็นต้องแก้ปัญหาอย่างเริงร่า ล่าสุด มาตรการล็อกดาวน์ได้ถูกผ่อนปรนเป็นระยะที่ 3 ดุสิตธานีสามารถกลับมาประกอบธุรกิจเช่นเดิมได้ แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องมีแผนรับมือกับความปกติใหม่ หรือ New Normal
แล้วความเปลี่ยนแปลงปกติใหม่ที่ว่านี้.. เป็นอย่างไรบ้าง ?
Cr. vouchertoday.com
* การแข่งขันสูงขึ้น แต่ความต้องการอาจจะน้อยลง
ปัญหาที่ว่านี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ยักษ์ใหญ่อย่างดุสิตธานี แต่ธุรกิจโรงแรมน้อยใหญ่ ก็อาจจะประสบ จนถึงว่าต้องล้มได้เช่นกัน และสิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องแบกรับ นั่นก็คือ “ต้นทุนที่สูงขึ้น” จากค่าอุปกรณ์ป้องกันทางการแพทย์ และค่าใช้จ่ายด้านสุขอนามัยต่าง ๆ ในขณะที่ความต้องการในตลาดลดน้อยลง
ซึ่งสิ่งที่จะตามมาอีกอย่างนั้นก็คือ “ราคาของสินค้าต่ำลง” บนการแข่งขันที่สูงขึ้น แม้ดุสิตธานีจะเป็นเครือใหญ่ แต่ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ การแข่งขันที่จะต้องดึงลูกค้าเข้าร้าน ด้วยโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมต่าง ๆ ใครแจกเยอะ ก็อาจจะมัดใจได้เยอะ ราคาน้อย ก็อาจจะมัดใจได้เยอะ.. เช่นกัน
และโจทย์ใหญ่ที่ผู้ประกอบการจะต้องกลับมานั่งพะวง นั่นก็คือ.. “ต้องทำอย่างไรให้แบรนด์ตัวเอง ไม่เป็นแค่ตัวเลือก แต่ต้องเป็นความเชื่อมั่นสำหรับลูกค้า”
Cr. Dusit.com
* นั่งท่องเที่ยวจะเริ่มทยอยกลับมาเป็นลำดับ
แม้ตอนนี้จะยังไม่มีอุปกรณ์รักษาโรค Covid-19 อย่างแน่ชัด แต่ความต้องการในการท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาเป็นลำดับ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยู่ที่การรับมือของภาคสาธารณสุขของประเทศด้วย
ซึ่งมีการคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวจะทยอยกลับมาเป็นเฟส ในช่วงเวลา 6 เดือนนับจากนี้ เริ่มตั้งแต่..
เฟส 1 การท่องเที่ยวภายในประเทศจะเริ่มค่อย ๆ ฟื้นตัว แต่จะติดข้อจำกัดในเรื่องของ “การรักษาระยะห่างทางสังคม”
เฟส 2 ถัดจากเฟสแรกประมาณ 3 เดือน ซึ่งจะมีนักท่องเที่ยวประเทศใกล้เคียง อาจจะอยู่ในแถบเอเชียเป็นส่วนใหญ่ ปะปนกับนักท่องเที่ยวฝั่งตะวันตกบ้างเล็กน้อย
ก่อนที่จะเข้าสู่เฟส 3 ในช่วงประมาณ 1 ปีข้างหน้า อาจจะเห็นนักท่องเที่ยวแถบยุโรปกลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเยอะกว่าเดิม
Cr. Dusit.com
Cr. Dusit.com
แล้ว “ดุสิตธานี” มีการรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้.. อย่างไร ?
แน่นอนว่าประการแรก ต้องมีการเตรียมการในเรื่องของสุขอนามัย เพื่อความเชื่อมั่นของลูกค้า เช่นเครือโรงแรมน้อยใหญ่อื่น ๆ อยู่แล้ว
เริ่มจากอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน เช็คเอ้าท์ รวมไปถึงการทานอาหารเช้าที่เคยจำกัดแค่ 11.00 น. แต่เปลี่ยนเป็นเมื่อไหร่ก็ได้ ตามสะดวกของลูกค้า
นอกจากนั้น ยังได้ยกระดับ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรม Work From Home มาเป็น Work From Hotel ดั่งเช่นเครือโรงแรมอื่น ๆ ทำกัน
แต่ถึงกระนั้น ดุสิตธานีก็มีจุดแข็งในการดูแลพอร์ตของตนเอง ทั้งในเรื่องของรายได้ การจัดการกระแสเงินสด การลงทุน ตลอดจนการกระจายความเสี่ยง ในขณะที่ต้องเตรียมแผนรองรับไว้มากมาย เพราะไม่มีใครรู้ว่าโรคระบาดที่ว่านี้ จะจบลงเมื่อไหร่..
สำหรับจุดแข็งของดุสิตธานี อิงจากรายได้สามเดือนแรกของปีได้ดังนี้..
มีรายได้รวม 1006.75 ล้านบาท
กำไรสุทธิ -82.13 ล้านบาท
เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
มีรายได้รวม 1139.51 ล้านบาท
กำไรสุทธิ 268.82 ล้านบาท
และนี่คือข้อมูลคร่าว ๆ ของกรณีศึกษาในการเตรียมรับมือของธุรกิจด้านการโรงแรมและที่พัก เพราะธุรกิจกลุ่มนี้นอกจากจะได้รับผลกระทบจนต้องล้มลงหลายรายแล้ว ในขณะเดียวกันก็เป็นการสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแกร่ง เพราะไม่ว่าจะมีโรคร้ายอย่างไร แต่การรับมือที่ดีตลอดจนกลยุทธ์ที่เฉียบคม ย่อมผ่านมัน ไปได้.. เสมอ
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
Reference
โฆษณา