2 มิ.ย. 2020 เวลา 14:43 • การเมือง
## สถานการณ์ในอเมริกา เมื่อ Donald Trump ขาดภาวะผู้นำ และ การออกมาเรียกร้อง Black lives matters ชีวิตของคนผิวดำก็มีค่า###
สถานการณ์ในอเมริกาตอนนี้ยิ่งบานปลายกลายเป็นจราจลทั่วประเทศแล้ว เกิดจากเหตุการณ์น้ำผึ้งหยดเดียว ที่นาย George Floyd ใช้ธนบัตรปลอมซื้อบุหรีในร้านขายของชำ ในเมือง Minneapolis จนถูกตำรวจ 4 นายควบคุมตัว และเจ้าหน้าที่ Derek Chauvin ใช้เข่ากดเข้าที่ต้นคอจนนาย Floyd ขาดอากาศหายใจตาย
Derek Chauvin ขณะที่ใช้เข่ากดทับคอของ George Floyd
หลังจากคลิปการตายของ George Floyd กลายเป็นไวรัล โดยเฉพาะก่อนตาย Geoge Floyd ร้องขอชีวิต พูดถึงแม่ที่เสียไป และกล่าวว่า I can't breathe ซึ่งก็เหมือนกับเหตุการณ์ของ Eric Garner ในปี 2014 เมื่อตำรวจล๊อคคอแล้ว ก็ร้องขอชีวิต โดยพูดว่า I can't breathe 11 ครั้ง แต่ตำรวจผิวขาวก็ไม่ยอมปล่อยจนขาดอากาศหายใจตาย
การตายของ Eric Garner ในคราวนั้น ทำให้เกิดกระแส Black lives matters ชีวิตคนผิวดำก็มีความหมาย ตามด้วยการประท้วงที่เมืองเฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรีเกิดขึ้นมาจากตำรวจทำเกินกว่าเหตุทั้งนั้น
Eric Garner ถูกจับล๊อคคอจนขาดอากาศหายใจตาย
นักกีฬาอย่าง Colin Kaepernick จอมทัพของ ซานฟรานซิสโก โฟตีไนเนอร์ ทำการประท้วงแบบอหิงสาโดยคุกเข่า เมื่อร้องเพลงชาติ ผลกระทบตามมาคือ ไม่มีทีมไหนกล้าจ้างดาวดังควอเตอร์แบคคนนี้หลังจากหมดสัญญา แถมยังเจอขู่ฆ่าจากกลุ่มขวาจัดอีก
Colin Kaepernick #7 source :CNN
การบริหารจัดการปัญหาความแตกต่างทางเชื้อชาติ สีผิว หรือแม้กระทั่งแก้ปัญหาโควิด-19 ระหว่างโอบาม่าและทรัมป์ ต่างกันสิ้นเชิง
ในสถานการณ์คับขันอย่างนี้แทนที่จะร่วมมือร่วมใจ ทรัมป์กลับกล่าวโทษผู้ว่าการรัฐฝ่ายตรงข้ามว่าอ่อนแอ ไม่กล้าปราบปราม แถมยังขู่ว่าจะเอากองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ ( National Guard) เข้ามาจัดการกับประชาชนของตัวเอง ในขณะที่การระบาดของโควิด-19 ก็ยังระบาดหนัก มีผู้ติดเชื้อเกือบ 2 ล้านและเสียชีวิตร่วมแสน ในเมืองนิวยอร์ค ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาด ก็มีการประท้วงอย่างหนักและต้องประกาศเคอร์ฟิว
ในขณะนี้มีกว่า 75 เมืองใหญ่ๆใน 20 รัฐที่การประท้วงยกระดับเป็นจราจล เมืองมินนิอาโปลิสกลายเป็นสงครามกลางเมืองขนาดย่อม ๆ
ผู้เข้าชุมนุมใน Minneapolis จุดไฟเผาห้างร้าน
ตัวทรัมป์เองก็ยังคงกล่าวยั่วยุและด่ากราดผู้ชุมนุมในทวิตเตอร์ว่าเป็นพวกชั้นต่ำ ขยะสังคม หัวขโมย ซ้ายจัดและขู่จะส่ง National Guard เข้ามาจัดการ ยิ่งเป็นการสุมไฟของผู้ประท้วงให้แรงขึ้นไปอีก
Trump's tweet
ในขณะเดียวกันก็มีตำรวจในหลายๆเมืองร่วมคุกเข่าและประท้วงร่วมกับประชาชนต่อต้านความรุนแรงและต่อต้านรัฐบาลกลาง ทำให้ได้ใจประชาชนผู้รักสันติที่มาประท้วง โลกยังคงต้องการความรักมากกว่าความเกลียดชังเข้าห้ำหั่นประหัตประหารกัน สิ่งดีๆก็ยังมีอยู่บ้าง
ท้ายที่สุดนี้ก็ต้องติดตามกันว่าจะจบลงอย่างไรหลังจากการประท้วงยืดเยื้อมาเกินกว่าสัปดาห์และ โควิด-19ก็ยังระบาดต่อเนื่อง แต่ยิ่งยืดเยื้อย่อมไม่ใช่ผลดีต่อเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของอเมริกันชนแน่ๆ
อ้างอิง:
โฆษณา