3 มิ.ย. 2020 เวลา 10:30 • ธุรกิจ
Nike แบรนด์แห่งการต่อต้าน สังคมเหยียดสีผิว
สังคมเหยียดผิวเป็นปัญหาเรื้อรังที่อยู่คู่กับอเมริกันชนมาช้านาน ล่าสุด ความรุนแรงได้ปะทุขึ้นจากกรณีของการเรียกร้องความยุติธรรม ให้กับชายผิวสีที่มีนามว่า.. “จอร์จ ฟลอยด์”
1
และหลายวันที่ผ่านมา อาจจะพอได้เห็นแคมเปญสามคำสั้น ๆ Don’t do it ของ Nike แต่ทว่ามันคือการจุดประกายสุดยิ่งใหญ่ในการเรียกร้องความเท่าเทียมด้านสังคม..
แต่รู้ไหม ว่าแบรนด์สปอร์ตแฟชั่นระดับโลกแบรนด์นี้ มีจุดยืนด้านการต้านสังคมเหยียดผิวมาช้านาน ซึ่งความน่าสนใจนี้จะเป็นอย่างไร ผู้เขียนจะอธิบายให้ฟัง..
Cr. Solecollector.com
Nike เป็นแบรนด์ที่ถือกำเนิดมาจากแรงบันดาลใจในสนามบาสเกตบอล ก่อนที่จะทำการค้นคว้าข้อมูลจากญี่ปุ่นที่มีแหล่งผลิตรองเท้าคุณภาพดี เหมาะสำหรับการแข่งขัน
หลังจากนั้น ได้ก่อตั้งแบรนด์รองเท้าบาสชื่อว่า “BRS” ในปี 1964 ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น “Nike” ในปี 1970
ต่อมา Nike ได้เริ่มโปรโมทแบรนด์ผ่านสื่อ โดยใช้นักกีฬาเป็น Brand Endorser เริ่มที่นักเทนนิสชาวโรมาเนียชื่อ “IIie Nastase” ผู้ที่ทำให้แบรนด์กลายเป็นที่ประจักษ์ในระดับหนึ่ง
ปี 1984 Nike พบจุดเปลี่ยนและสามารถประสบความสำเร็จมากที่สุดจากการได้สปอนเซอร์เป็น “ไมเคิล จอแดน” นักบาสเกตบอลอเมริกัน ที่พาให้รายได้ของ Nike เพิ่มขึ้นอย่างถล่มทลายแบบที่ไม่เคยมีมา
ซึ่งความสนใจนั่นก็คือ “จอแดนเป็นคนผิวสี” แถมแคมเปญทางการตลาดหลายรูปแบบนับแต่นั้น ยังได้เคยรับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สมิทโซเนียน อีกด้วย..
Cr. Essentiallysports.com
ทว่าจุดเพ่งเล็งจากทั่วทั้งโลก ได้จับสายตาไปยังสโลแกนสามคำสั้น แต่จุดประกายความฝันให้ก้าวเดินได้ นั่นคือคำว่า “Just do it” แคมเปญที่มีการใช้มาเนิ่นนาน ตั้งแต่ยุค 80
แต่ ณ เวลานี้.. จากคำว่า Just do it ได้กลายมาเป็นคำว่า “Don’t do it” ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกรณีของ “จอร์จ ฟลอยด์” โดยตรง
แรงจูงใจจากปมปัญหาภายใต้การกระทำของตำรวจเมือง Minneapolis ทวีคูณจนกลายเป็นสงครามกลางเมือง และกลายเป็นสงครามด้านสังคมของอเมริกันชน
นอกจาก Nike จะปล่อยแคมเปญดังกล่าวนี้แล้ว ดารานักแสดงชื่อดัง รวมไปถึงนักกีฬาซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก แม้กระทั่งนักฟุตบอลพันล้านอย่าง Messi ก็ได้ออกมาเรียกร้องถึงสังคมเหยียดผิวที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในยุคสมัยนี้..เช่นเดียวกัน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Nike แสดงจุดยืน..
2 ปีก่อน Nike ยังได้เคยสนับสนุน Colin Kaepernick นักกีฬาผิวสีที่มีการออกมาต่อต้านสังคมเหยียดสีผิว
อย่างไรก็ดี..ภายใต้แนวคิดดังกล่าว แม้แต่แบรนด์คู่แข่งที่เฉือนกันทุกการแข่งขันในตลาดแฟชั่นกีฬา อย่าง Adidas ยังได้รีทวิตแคมเปญ Don’t do it ดังกล่าวนี้
Cr. Twitter: Nike
การแสดงจุดยืนครั้งนี้ คือสามคำสำคัญที่ Nike เตรียมพร้อมรับแรงกระแทกจากหลายส่วน แต่ในขณะเดียวกัน มันคือความชัดเจนของแบรนด์ ที่จะทำให้แบรนด์อยู่คู่กับความเสมอภาคในสังคมโลก ต่อไป..อย่างยั่งยืน
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
Reference
โฆษณา