3 มิ.ย. 2020 เวลา 14:11 • ปรัชญา
" ไอ้ม่อย...ในวัยเรียน #
เส้นทางชีวิตของแต่ละคนไม่เคยเหมือนกัน อยู่ที่จะคิด...
.......
สวัสดีเพื่อน BD. ที่น่ารักทุกท่านครับ วันนี้อากาศร้อนมากๆแต่ยังดีที่มีฝนโปรยปรายลงมา เลยอดที่จะคิดถึงพี่น้อง BD.ไม่ได้ ต้องเล่าถึงเรื่องชีวิตของ "ไอ้ม่อย" ต่อครับ..
...หลังจากชีวิตม่อยๆ..ในวัยเด็กที่ผ่านมาในโพสต์แรก ก็ขอเล่าสู่วัยหัวเลี้ยวหัวต่อของเด็กชายม่อยเด็กบ้านๆครับ...
และแล้ว..เมื่อไอ้ม่อย เรียนจบในระดับชั้น ม.3 สมัยก่อนเพื่อนหลายคนเลือกเรียนต่อถึง ม.6 เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย เป็น แพทย์ วิศวะ ครู ทหาร หรือตำรวจ ฯลฯ ดังที่วาดฝันกันในสมัยก่อนนั้น
...ต้องยอมรับว่าคุณครูแนะแนวของ "ไอ้ม่อย" ก็บอกว่าเอาที่เธอชอบนะ..ไอ้ม่อย เริ่มสับสนกับตัวละทีนี้ว่ามันจะเป็นอะไรได้..เป็นครูก็ไม่รู้จะรอดมั้ยเพราะความขี้อายและไม่มั่นใจตัวเอง อีกอย่าง สมัยก่อนสื่อแนะแนวต่างๆก็ไม่มีเหมือนเช่นปัจจุบัน...เฮ้ออออ
ไอ้ม่อย.. มันจึงตัดสินใจเลือกเส้นทางเดิน โดยคิดว่าทำอย่างไรจึงจะได้งานทำ และได้เงินมาช่วยครอบครัวที่ยังต้องส่งน้องๆเรียนให้เร็วที่สุด
สุดท้าย..มันจึงเลือกเดินเส้นทางสายอาชีพสาขาวิชาช่างไฟฟ้า ชั้น ปวช. ที่วิทยาลัยเทคนิคในตัวจังหวัด
..มันเคยถามตัวเองมั้ยว่าบุคคลิกของมันเหมาะมั้ยกับ..เด็กช่าง ???😴😒😌
.....
หลังจากที่ "ไอ้ม่อย " สอบ และได้เรียนสมดังตั้งใจแล้ว..
พฤติกรรม...กลับไม่เป็นอย่างที่เคยเป็น มันเดินหาบ้านพัก จนได้มาเช่าบ้านพักหลังเดียวกับพี่คนหนึ่ง ที่ทำงานและมีครอบครัวแล้ว โดยช่วยหารค่าเช่ากัน สมัยก่อนค่าเช่าหลักพันกว่าบาทไม่แพงเหมือนปัจจุบัน...
...ไอ้ม่อย ได้เงินมาเรียนทั้งเดือนๆละ 1,200 บาท พร้อมกับ น้ำพริกเผาหมูมา 1 ถุง และแบกข้าวสารเป็นถุงแป้ง (ถุงผ้า จำนวนประมาณ 1 ถัง )ที่แม่ให้มา เพื่อกินอยู่ตามประสาเด็กหอทั้งเดือน... มันต้องอยู่ให้ได้โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น
ทุกเย็น...หลังเลิกเรียนในช่วงแรกๆก็ไม่มีอะไร แต่พอนานวันเข้า สิ่งแวดล้อมที่หอพักเริ่มเปลี่ยนไป พี่ที่หอเริ่มมีเพื่อนมาดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เป็นประจำพร้อมทั้งชวนร่วมวงด้วยกัน ...ครั้นจะขัดใจก็โดนคะยั้นคะยอ รวมทั้ง ความเป็นคนเกรงใจพี่ๆ รวมถึงเพื่อนๆด้วย มันจึงใช้ชีวิตแบบนี้เรื่อยมา
จากนั้น..ชีวิตของมันเลยผันไปสู่เส้นทางของอบายมุข คือการคบเพื่อน ดื่มเหล้า กับพี่ที่หอพัก เพราะความเกรงใจ พร้อมทั้งเป็นคนซื้อเหล้าเองบ้างในบางครั้งเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ... จนเงินที่แม่ให้มาหมดก่อนสิ้นเดือน
...มีสิ่งเดียวที่มันจะอยู่รอดได้ก็คือ..การเอาน้ำพริกเผาที่แม่ให้มาออกมากินกับถั่วฝักยาวที่ซื้อมา มันทำอย่างนี้ทุกๆเดือน โดยที่แม่ไม่เคยรู้เลย...
.......
อย่างไรก็ตาม...ไอ้ม่อยมันก็ยังมีสำนึกที่ดี จบแล้วได้มาเรียนต่อ ปวส. จากนั้นก็มาทำงานบริษัทในตัวจังหวัด เพื่อหาเงิน ความรู้ และประสบการณ์ ตอนนั้นยังไม่คิดอะไรมาก...
ทำงานมาเรื่อยๆ..มันเริ่มเห็นเพื่อนๆเริ่มไปสอบบรรจุเป็นราชการกันทีละคนสองคน
วันนึงไอ้ม่อย..จึงเริ่มหันมามองตัวเองบ้างว่าจะใช้ชิวิตการทำงานไปทางใดในข้างหน้า.. มันจึงเริ่มตั้งใจอ่านหนังสือจนได้บรรจุเป็นข้าราชการตัวน้อยๆกับเขาคนหนึ่ง จากนั้น..มันยังได้เรียนต่อในระบบการศึกษาทางไกล ในสาขาวิชานิติศาสตร์ จาก ป.ตรี จนสำเร็จในระดับ ป.โท ด้วยเช่นกัน
........
แต่สิ่งที่ยังย้ำเตือน ไอ้ม่อย อยู่ตลอดเวลาก็คือ..การกลับไปเยี่ยมหรือดูแลพ่อและแม่นั้น มันยังทำน้อยเกินไป...เมื่อกลับไปเยี่ยมพ่อได้ไม่นานพ่อก็จากไป
...ยังดีที่ปัจจุบันมันยังมีแม่อีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่... มันจึงคิดว่าต่อจากนี้ไปจะดูแล แบบไหน อย่างไรดี เพื่อให้แม่คนนี้มีความสุข...
ขอบคุณ : เพื่อน BD.ทุกท่านที่แวะอ่านบทความของนักเขียนมือใหม่ครับ
✍ หากเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์และมีคุณค่าอยู่บ้าง ขอเชิญทุกท่าน กดไลด์ กดแชร์ หรือ กดติดตาม เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนสร้างงานเขียนดีๆต่อไปด้วยครับ
ขอบคุณขัอมูลภาพจาก : https://images.app.goo.gl/Wtdne7Xit9qzRgAh9
: ไอ้ม่อย
:::::::::::::
โฆษณา