4 มิ.ย. 2020 เวลา 11:15 • ธุรกิจ
ไหหลำ เกาะเศรษฐกิจแห่งใหม่ ที่จีนกำลังสร้างขึ้นแทนฮ่องกง
ฮ่องกง เกาะเงินเกาะทองแห่งประชาธิปไตย ที่จีนก็อ้างว่าเป็นเขตพิเศษ ในขณะที่ชาวฮ่องกงก็อ้างว่าพวกเขาเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ถึงอย่างไร ดินแดนแห่งนี้ก็สร้างความมั่งคั่งและร่ำรวยมากมาย ทั้งยังเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าสำคัญ สำหรับชาวเอเชีย
การแทรกซึมเข้าไปบริหารจัดการของรัฐบาลจีน ทำให้ชาวฮ่องกงไม่พอใจหลายต่อหลายครั้ง พอสะสมมาเป็นเวลานาน ก็เกิดความรุนแรงปะทุขึ้นเป็นจลาจลใจกลางเมือง ล่าสุดอังกฤษได้เข้ามาแทรกเป็นตัวกลางอีก ยิ่งทำให้สงครามการเมืองที่ยืดเยื้อ เดาคำตอบไม่ได้เลยว่าจะจบเช่นไร..
แต่ถึงกระนั้น.. รัฐบาลจีน ก็เตรียมที่จะเนรมิต ไหหลำเป็นเกาะเศรษฐกิจแห่งใหม่ หวังให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจภายในปี 2035 แถมเกาะเงินเกาะทองแห่งใหม่นี้ จะมีขนาดใหญ่กว่าเมืองหลัก ๆ อย่าง เซินเจิ้น และเซี่ยงไห้..อีกด้วย
รัฐบาลจีนเริ่มโปรเจคยักษ์ใหญ่นี้ไปเป็นลำดับ เริ่มจากลดการเก็บภาษีเงินได้ส่วนบุคคล ตลอดจนลดภาษีเงินได้จากบริษัทต่าง ๆ เหลือ 15% รวมถึงผ่อนปรนการขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนที่จะเข้ามายังเกาะไหหลำ ทั้งยังให้สิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เดินทางผ่านเรือ จะสามารถพำนักอยู่บนเกาะไหหลำได้ถึง 15 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ทั้งนี้ ไหหลำไม่ได้เพิ่งดำเนินการเนรมิตเกาะเสียทีเดียว เมื่อย้อนกลับไปยังปี 2018 “สี จิ้นผิง” เคยกล่าวเอาไว้ว่าเกาะไหหลำจะกลายเป็นพื้นที่การค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในจีน ซึ่งก่อนหน้าการออกมาประกาศ ไหหลำยังได้เคยส่งคณะไปศึกษาระบบการค้าเสรีที่ สิงคโปร์ ดูไบ และฮ่องกง อีกด้วย..
อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งของนักเสรีนิยมคู่แข่งตัวฉกาจของจีนอย่างสหรัฐอเมริกา ได้มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนอาจมีแผนยกเลิกสิทธิพิเศษทางการค้าที่ฮ่องกงเคยได้รับ หลังจากที่มีแผนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงใหม่กับฮ่องกง ซึ่งจะตามมาด้วยผลกระทบด้านการค้า สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องส่งสินค้าไปสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีอัตราเดียวกับจีน
นอกจากการปรับลดภาษีดึงดูดนักลงทุนเข้ามายังเกาะไหหลำ รัฐบาลจีนยังมีการวางแผนยกเว้นภาษีนำเข้า เน้นไปที่สินค้า ที่เป็นเครื่องจักรใช้ในการผลิตยานพาหนะทั้งรถ เรือ เครื่องบิน รวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภค ส่วนในตลาดการลงทุน รัฐบาลจีนยังได้วางแผนลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก เพื่ออำนวยให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนได้ง่าย
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เชี่ยวชาญชื่อดังจาก London University อย่าง Steve Tsang ได้มองว่า เป็นเรื่องยากที่ไหหลำจะเข้ามาแทนที่ฮ่องกง หรือเป็นฮ่องกงแห่งที่ 2 เนื่องจากยังมีความบกพร่องในกฎหมายสำคัญบางประการ ตลอดจนความกดดันจากภายนอก หลัก ๆ มาจากสงครามการค้าที่ยังไม่ยุติ..นั่นเอง
กลับกันกับการเดินหน้าของจีน ที่มีความน่าสนใจนับตั้งแต่รัฐบาลยุค “เติ้ง เสี่ยวผิง” ช่วงปี 1988 ได้มีการวางแผนพัฒนาไหหลำให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจมาก่อนหน้า โดยหวังให้เกาะแห่งนี้เป็นเขตพิเศษ มีขนาดเศรษฐกิจแบบเดียวกับเซินเจิ้น แต่กลายเป็นว่าเกาะศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ได้กลายเป็นศูนย์กลางสินค้าผิดกฎหมาย และเต็มไปด้วยนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่หวังเก็งกำไรจากตลาด..เพียงอย่างเดียว
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
โฆษณา