5 มิ.ย. 2020 เวลา 02:00 • ธุรกิจ
ความเสี่ยงของธุรกิจโรงหนัง อาจไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
ที่ผ่านมา หลายธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการปิดบ้านปิดเมือง เริ่มตั้งแต่ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าน้อยใหญ่ และอีกมากมาย รวมไปถึง.. “ธุรกิจโรงภาพยนตร์” ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย..
หลายวันมานี้ มาตรการล็อกดาวน์ได้ถูกผ่อนปรนออกมา ส่งผลให้ธุรกิจที่ได้กล่าวไปข้างต้นกลับมาดำเนินกิจการได้ ถึงจะไม่เต็มที่ถึง 100% ก็ตาม..
ส่วนของโรงภาพยนตร์ก็เช่นกัน หลังจากที่เปิดให้ลูกค้าเข้าไปนั่งดูหนังในโรง ท่ามกลางมาตรการ Social Distance นั่งเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัยจากโรคระบาดได้แล้ว ลูกค้าบางส่วนอาจจะยังลังเลต่อความเสี่ยงอยู่บ้าง ในขณะที่บางส่วนอาจจะคิดถึงไลฟ์สไตล์การดูหนังในโรงจนอดไม่ได้
จนเกิดเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ต่างต่างนานา ว่าธุรกิจโรงหนังอาจจะโดน Distrup ไปเลยก็ได้ แต่ในมุมมองของผู้เขียน ความเสี่ยงของธุรกิจโรงหนัง อาจจะไม่น่ากลัว เช่นนั้น..
คำถามก็คือ.. เพราะเหตุอันใด ?
• การปรับตัวของผู้คน แน่นอนว่าการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ความเป็นไปของผู้คนย่อมมีความยืดหยุ่นตลอดเวลาอยู่แล้ว และอย่าลืมว่ามนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม ที่ย่อมมีความต้องการออกไปใช้ชีวิตสะดวกสบายแบบที่เคยใช้ หรือพบปะกับผู้คนแบบที่เคยทำมา
สำหรับโรงหนังที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของการพบปะในสังคม เมื่อมีการเปิดดำเนินกิจการต่อได้ ลูกค้าบางส่วนที่ดูหนังเป็นประจำอยู่แล้วก็คงจะมีความต้องการ..ไม่ใช่น้อย
• ความเสี่ยงด้านสุขอนามัย ที่จะสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค แน่นอนว่าความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส ในสถานที่ในโรงหนังนั้นมีอยู่แล้ว แต่อาจจะอยู่ในระดับที่น้อยกว่าสถานประกอบการธุรกิจอื่น ๆ อย่างสถานบันเทิง ผับ ห้องคาราโอเกะ ฟิตเนส ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแหล่งมารวมตัวเพื่อทานอาหาร ดื่ม พูดคุย ในระยะเวลาที่นานกว่านั่งดูหนัง
ถ้าหากผู้ประกอบการ คิดกลยุทย์แก้โจทย์ความวิตกกังวล ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยได้มากพอ ก็อาจจะดึงลูกค้า กลับมาได้ฟื้นตัวได้เร็วยิ่งกว่าเดิม
• ผู้คนแห่เข้าหาแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งมากกว่า แน่นอนว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ คือเวลาทองของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ทั้ง Netflix, HBO, Line TV และอีกต่าง ๆ มากมาย แต่ถึงกระนั้น ผู้เขียนอยากให้มองเป็นสองมุมมอง ทั้งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค
ซึ่งถ้าหากสตรีมมิ่งจะดิสทรับโรงหนังจริง นั่นอาจจะเป็นเรื่องในระยะยาว แต่อีกมุมนึง นี่คือสองตลาดในการตัดสินใจของผู้บริโภค ในส่วนของการเข้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ นั่นคือโอกาสที่ผู้คนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศจริง ถ้ายิ่งเป็นระดับ 4DX หรือ 3D ผู้คนยิ่งจะได้สัมผัสกับบรรยากาศดี ๆ กว่าการดูบนหน้าจอสมาร์ทโฟน..เข้าไปอีก
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายเหตุผลที่ผู้เขียนไม่ได้กล่าวถึง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น บทวิเคราะห์ที่ได้กล่าวมา เป็นเพียงข้อคิดเห็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้เขียน ที่ไม่ได้ต้องการจะสื่อเพื่อให้เกิดความเห็นต่างหรือแตกแยกแต่อย่างใด
สรุปแล้ว แนวคิดที่ว่าโรงหนังอาจจะถูกดิสทรับ นั้นอาจเป็นเรื่องในระยะยาว แต่ปัจจุบันความต้องการดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่ให้บรรยากาศมากกว่า..ยังคงมีอยู่
เช่นเดียวกับร้านอาหาร ที่มีความนิยมสั่งผ่านเดลิเวอรี่มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้คนยังอยากเข้าไปกินไก่ทอดที่ร้านคู่กับคนรัก นั่งทานส้มตำไก่ย่างอยู่กับกลุ่มเพื่อน หรือนั่งทานข้าวกับครอบครัวที่ร้านโปรดอยู่..จริงไหม
ส่งต่อทุกแรงบันดาลใจ Share For Inspire
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
Follow Us On “Line” http://nav.cx/2z8bFq6
โฆษณา