5 มิ.ย. 2020 เวลา 08:23 • ธุรกิจ
เห็นช่วงนี้ทั้งวันนี้และเมื่อวานนี้สื่อเอากระแสข่าวการทะเลาะกันของ ส.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ และบุ๋ม ปนัดดา ซึ่งได้ฟาดปากปะทะคารมกันบนพื้นที่สื่อเป็นเวลาติดต่อกันมา 2 วันแล้ว
ผมไม่อยากให้ไปโฟกัสเรื่องพวกนี้มากเท่าไร เพราะไร้สาระ และไม่ค่อยมีประโยชน์ เหมือนแมวข่วนกัน ทั้งๆที่มีข่าวและประเด็น้สำคัญอย่าง CPTPP (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership)
ที่ตอนนี้รัฐบาลกำลังอยู่ในขั้นตอนของการโยนเรื่องเข้าสู่รัฐสภาแล้วให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อศึกษาข้อเท็จจริง รวมถึงรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอเกี่ยวกับข้อดี ข้อเสีย จุดเด่น จุดด้อยของ CPTPP
แต่ปรากฏว่าข่าวเงียบเลย แทบไม่มีใครสนใจ บนหน้านิวส์ฟีดของ Facebook นั้นมีแต่ข่าวปารีณาเลี้ยงจระเข้ บ่อจระเข้ปารีณาบ้างล่ะ ปารีณาด่าบุ๋มปนัดดาบ้างล่ะ
คือผมสังเกตมาสักพักแล้ว มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญทุกครั้งเลย ทุกครั้งที่ ส.ส. ปารีณาออกมาเต้น หรือ หาเรื่องให้สื่อหรือคนบนโลกออนไลน์ด่านั้นมันมีวาระแอบแฝงทุกครั้ง
ครั้งก่อนก็เรื่องประเด็นดราม่าของกองทัพ ครั้งนี้ก็เรื่องกลบข่าว CPTPP และไหนจะข่าวเรื่อง พ.ร.ก.กู้เงินอีก ปารีณาออกมาเรียกสปอตไลท์ให้ฉายเข้าหาตัวเองได้อย่างรู้จังหวะเสมอ
รู้จังหวะในลักษณะที่ว่าคนหันไปด่า ส.ส. ปารีณากัน 100 ทั้ง 100 น่ะ คนอื่นๆที่เคยเป็นประเด็นอยู่แทบสบายเลย สื่อไม่เล่นข่าวแล้ว เล่นแต่ปารีณาทั้งวันทั้งคืน
1
ผมเลยมีความรู้สึกว่าภายในพรรคพลังประชารัฐขณะนี้ ปารีณา เหมือนมีสถานะเป็น "นกต่อ" ตัวหนึ่ง ที่มีหน้าที่คอยออกมาหลอกล่อ หรือ พยายามเบี่ยงเบนความสนใจของสื่อให้ออกจากเป้าหมายหรือ Agenda ทางการเมืองชุดหลักที่รัฐบาลกำลังทำกันอยู่
เพราะมันบังเอิญเกินไปหลายครั้งมาก ตลอดช่วง 1 ปีที่ผ่านมานี้มีไม่ต่ำกว่า 5 ครั้งแล้วที่ปารีณาออกมาหาเรื่องให้สื่อมวลชนด่า หาเรื่องป่วนสภา ชวนทะเลาะกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
ทุกๆครั้งล้วนมีประเด็นที่สามารถเชื่อมโยงกันได้อยู่เบื้องหลังเสมอ ผมไม่ได้คิดไปเองคนเดียวนะ อันนี้ถ้าทุกๆคนเห็น หรือลองสังเกตดูก็น่าจะรู้สึกทะแม่งๆอยู่เหมือนกัน กับวิธีการเลือกจังหวะการออกมาหาเรื่องให้คนด่าของ ส.ส. ปารีณาเนี่ย
ความเป็นไปได้หนึ่ง คือ อาจเป็นเพราะพลเอกประวิตร เขาวางตัวปารีณาไว้ให้เล่นเกมนี้ตั้งแต่แรกหรือเปล่า ? (ล่าสุดสิระก็ออกมารับลูกปารีณาต่อแล้วเมื่อตอนสายๆ มาคู่กันเลย) แนวๆทำงานกันเป็นฝ่ายน่ะ
ฝ่ายหนึ่งเอาไว้ PR เช่น โฆษกนฤมล อีกฝ่ายหนึ่งก็ทำหน้าที่ด้านการปั่นกระแส อย่างปารีณา และสิระ ที่คอยออกมาหาเรื่องทะเลาะ ก่อเรื่องให้คนด่าอยู่เนืองๆ
เพราะถ้าว่ากันตามเหตุผลจริงๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง หลังจากโดนด่าไปเยอะขนาดนี้ น่าจะคิดได้บ้างแล้ว ว่าสิ่งที่ตนเองทำมันเรียกเสียงด่ามากกว่าเสียงชม ถ้าไม่ใช่ว่ามีผลประโยชน์หรือเกมการเมืองอะไรซ่อนอยู่น่ะ
ฉะนั้นเวลาที่มีกระแส ปารีณาออกมาหาเรื่องให้คนด่านั้น ให้ลองสังเกตได้เลยว่าอาจจะมีอะไรแอบแฝง หรือ Hidden agenda อะไรแทรกมาภายในฉากหลังของปารีณาหรือเปล่า อย่างเมื่อวานก็เรื่อง CPTPP กับเรื่องที่ลาว
โฆษณา