6 มิ.ย. 2020 เวลา 02:30 • กีฬา
[ #รูนี่ย์ที่น่าเสียดาย ]
เวย์น รูนี่ย์ ถูกแสงสปอร์ตไลต์ส่องอยู่ตลอดเวลา เมื่อย้ายมาแมนฯยูไนเต็ดในปี 2004
ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปีแต่ต้องแบกความคาดหวังและค่าตัวถึง 25.6 ล้านปอนด์ในช่วงเวลาดังกล่าว แน่นอนว่ามันยากที่จะรับมือได้
อีกทั้งปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่แมนฯยูไนเต็ดแตกต่างจากเอฟเวอร์ตันอย่างสิ้นเชิง ย่อมเกิดคำถามว่า รูนี่ย์ จะผ่านไปได้อย่างไร
อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อลเป็นอีกคนที่อยากได้เจ้าหนูนรกแตกไปร่วมทีมด้วย ติดตรงที่สู้ค่าตัวและและค่าจ้างที่เหยียบ 50,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ในเวลานั้นไม่ไหวเลยต้องล่าถอยมา
แต่กุนซือชาวฝรั่งเศสยืนยันว่า รูนี่ย์ คือนักเตะอังกฤษที่เจ๋งสุดแล้ว ไม่เคยเห็นแข้งอิงลิชคนไหนดีเท่านี้มาก่อนเลย เปรียบไปแล้วคือปรากฏการณ์ใหม่จริงๆ
ช่วงนั้นสภาพร่างกายของ รูนี่ย์ ไม่ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไรนัก ถูกวิจารณ์ในเรื่องสไตล์การเล่นที่บ้าดีเดือดเกินไป อาจทำให้บาดเจ็บง่ายขึ้นและอายุการใช้งานสั้นลงกว่าเดิม
อย่างไรก็ตามนัดประเดิมเป็นเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบแบ่งกลุ่มกับเฟเนบาห์เช่ รูนี่ย์ ไขข้อข้องใจด้วยการสังหารแฮตทริกพาแมนฯยูไนเต็ดถล่ม 6-2 ออกตัวอย่างสวยงาม
การเริ่มต้นอย่างยอดเยี่ยม ช่วยปลุกพลังความมั่นใจได้มาก เรื่องนี้ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยืนยันได้เป็นอย่างดี
ทั้งสองคนเริ่มสนิทกันตั้งแต่อยู่ในแคมป์ทีมชาติอังกฤษ พอได้มาเป็นเพื่อนร่วมสโมสรเต็มตัว ริโอ จึงเหมือนเป็นที่ปรึกษา
รูนี่ย์ เคยมั่นใจว่าจะเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่สุดคนหนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์แมนฯยูไนเต็ด เหนือกว่าทั้ง จอร์จ เบสต์ และ เอริก คันโตน่า สองตำนานผู้ยิ่งยง
ถ้าใครได้ฟังอาจจะคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติของนักเตะวัย 19 ปีที่ยังต้องเรียนรู้ประสบการณ์อีกมาก พอเริ่มมีชื่อเสียงอาจจะเห่อเหิมเป็นธรรมดา
แรกๆ ริโอ ก็เชื่ออย่างนั้นแหล่ะ เพราะตัวเองโด่งดังตั้งแต่ยังอายุน้อยๆเหมือนกัน บางครั้งอาจเกิดรู้สึกหลงระเริงไปตามกระแสเสียงสรรเสริญเยินยอบ้าง ต้องพยายามดึงกลับมาอยู่บ่อยๆ
อย่างไรก็ตามภายหลังเมื่อได้คลุกคลีทำความรู้จักกันมากขึ้น ริโอ จึงเริ่มคล้อยตาม
เขาได้เห็นความมุ่งมั่นของไอ้หนูคนนี้ตลอดเวลา กระหายทั้งตอนซ้อมและอยู่ในสนาม เห็นชัดว่าจะเปลี่ยนจากเด็กน้อยด้อยประสบการณ์ เป็นแข้งรุ่นใหญ่ที่ผ่านชั่วโมงบินมาเยอะ
ว่าแล้วก็ยกตัวอย่างให้ฟัง ปกติก่อนซ้อมนักเตะแมนฯยูไนเต็ดชุดนั้น มักจะเดินคุยกระหนุงกระหนิงกันมาอย่างสบายใจ
หลายครั้งมีการท้าทายกัน อย่างเช่นวัดความแม่นยำเตะบอลจากระยะไกลให้ชนคาน ให้โดนเสาธงหรือบางทีโดนหัวเพื่อนร่วมทีมบางคนที่ยืนเหม่ออยู่
เรื่องนี้ไม่มีใครฉมังเท่า พอล สโคลส์ ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องเท้าชั่งทอง โดยเฉพาะเมื่อไม่มี เดวิด เบ็คแฮม มาดวลด้วยเหมือนก่อน
อย่างไรก็ตาม รูนี่ย์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าทาย ทำได้ดีอย่างน่าทึ่ง จนนักเตะในทีมต่างยอมรับในความครบเครื่อง โดยที่ไม่ต้องมองเรื่องอายุเลย
นอกจากนี้อีกเหตุการณ์ที่อยู่ในความทรงจำของ ริโอ คือเกมพรีเมียร์ลีกรับอาร์เซน่อลที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งเกิดขึ้นหลัง รูนี่ย์ ประเดิมสนามกับแมนฯยูไนเต็ดไม่ถึง 1 เดือน
ช่วงนั้นปืนโตพีกมาก หวังจะรักษาสถิติไร้พ่ายให้ยืดต่อไปเรื่อยๆ ก่อนเกม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กระตุ้นว่าอย่าให้ทัพปืนโตมาประกาศศักดาเหยียบจมูกถึงถิ่นอีกเด็ดขาด
จังหวะนั้นเอง ริโอ หันไปเห็นสีหน้าและแววตาของ รูนี่ย์ เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นมากๆ -- อย่างที่รู้กันประตูที่สร้างชื่อให้มาจากตะบันไกลใส่อาร์เซน่อล เมื่อครั้งยังเล่นให้เอฟเวอร์ตันนี่แหล่ะ
แล้ว รูนี่ย์ ก็โชว์ให้เห็นในความเก่งกาจเกินวัย
แมนฯยูไนเต็ดยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้อาร์เซน่อลสำเร็จ 2-0 ประตูขึ้นนำมาจากเหลี่ยมของ รูนี่ย์ ที่เรียกลูกโทษในจังหวะ โซล แคมป์เบลล์ เสียราคาพรวดเข้าหา แล้วเป็น รุด ฟาน นิสเตลรอย ซัดตูมไม่พลาด
กระทั่งนาทีสุดท้าย รูนี่ย์ แสดงให้เห็นถึงสมาธิและความเยือกเย็นกดปิดกล่องย้ำชัยสำเร็จ
บรรดาผู้เล่นอาร์เซน่อลเดือดมากๆหลังจบเกม ไม่พอใจการตัดสินที่ค้านสายตา กรูกันเข้ามาประท้วงและเหตุจลาจลลามไปถึงห้องแต่งตัวตามดีกรีอารมณ์ที่คุกรุ่น
จนเกิดคดี "พิซซ่าเกต" อย่างที่รู้กัน เมื่อมีพิซซ่าปริศนาชิ้นหนึ่งถูกเขวี้ยงลอยไปโดน เฟอร์กี้ โดยที่ตอนแรกไม่รู้แน่ชัดว่าฝีมือใคร
กระทั่ง เชส ฟาเบรกาส มาสารภาพภายหลังว่า เขาเองนั่นแหล่ะที่ปาเข้าไปในห้องแต่งตัวฝั่งผู้เล่นปีศาจแดง เพียงแต่ไม่ได้มีเจตนาให้โดนเลย แต่เจ้ากรรม เฟอร์กี้ เคราะห์ร้ายเข้า
เหตุการณ์หลังเกมจึงแทบขโมยซีนความโดดเด่นของ รูนี่ย์ ไปเกลี้ยง สื่อทุกสำนักพูดถึงเรื่องนี้กัน พยายามจะโยงให้เกิดดราม่าเพื่อขายข่าวให้ได้
รูนี่ย์ อาจถูกพูดถึงจริง แต่มีเพียงล้อมกรอบไว้เล็กๆเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดีไม่ได้คลาดสายตาของ ริโอ ซึ่งเชื่อแล้วว่า รูนี่ย์ จะทำได้อย่างที่คุยโวไว้จริง
ตลอด 13 ปีในสีเสื้อแมนฯยูไนเต็ด รูนี่ย์ สร้างสถิติยิงมากสุดเหนือใครทั้งหมด 253 ประตูจากทุกรายการ แซงหน้า เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ซึ่งทำเอาไว้ที่ 249 สำเร็จ
คว้าแชมป์พรีเมียร์ 5 สมัย , เอฟเอคัพ 1 , ลีกคัพ 3 , ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 และยูฟ่า ยูโรปาลีก 1
เคยพีกสุดขีดได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ อีกทั้งติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกถึง 3 ฤดูกาล
ไม่ใช่แค่นั้นผลงานรับใช้ทีมชาติอังกฤษก็ร้อนแรงเช่นกัน ระเบิดตาข่ายไปทั้งสิ้น 53 ประตูและจนถึงปัจจุบันยังไม่มีใครโค่นลงได้ ครองสถิติอย่างสง่างาม
แต่มันน่าแปลกที่ รูนี่ย์ กลับไม่ถูกเทิดทูนยกย่องอย่างที่ควรจะเป็น โดนสาวกแมนฯยูไนเต็ดหมางเมินไม่น้อย
ชื่อของเขาดูไม่ยิ่งใหญ่เทียบเท่า คันโตน่า หรือ เบสต์ ด้วยซ้ำ ทั้งที่คือดาวยิงสูงสุดตลอดกาลสโมสร
อาจเป็นไปได้ว่าระหว่างทางในช่วง 13 ปีที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกิดเหตุมากมายเกี่ยวกับ รูนี่ย์
เขาเคยทำตัวเหลวแหลกฉาวโฉ่มีนอกมีในกับผู้หญิงอื่น จนเกือบเตียงหักไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง สื่อเอาไปเล่นกันใหญ่ ยังดีที่ คอลีน ภรรยาสาวให้อภัยมาตลอด
นอกจากนี้ยังมีคดีเคยงอแงเรื่องต่อสัญญากับทีมอีก 2 ครั้งด้วยกัน สาเหตุคือเจรจาเรื่องผลประโยชน์กันไม่ลงตัว หวิดจะได้ย้ายไปเชลซีหรือเรอัล มาดริดอยู่แล้ว
แต่เจอวาทศิลป์ลิ้นการทูตของ เฟอร์กี้ เกลี้ยกล่อมให้อยู่ต่อ จนกระหน่ำยิงขึ้นแท่นครองสถิตินั่นแหล่ะ
แม้จะได้เห็น รูนี่ย์ วาดลวดลายเช่นเดิม ทว่าทำเอาเร้ด อาร์มี่ไม่น้อยเสียความรู้สึกกันไปแล้ว ยากที่จะเอากลับคืนมา
ขณะเดียวกันแม้จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ทว่าข้อเสียอย่างร้ายกาจคือเรื่องวินัยดูแลร่างกาย ตามใจปากพร่ำเพรื่อ ชอบกินเบอร์เกอร์หรือขนมขบเคี้ยวไม่พอ ยังคร้านเล่นเวทสร้างกล้ามเนื้ออีก
ว่ากันว่านั่นคือหนึ่งในสาเหตุสำคัญทำให้ฟอร์มของ รูนี่ย์ ดิ่งเหวเร็วมาก ยืนระยะยาวไม่ได้ ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งอายุมากกว่าด้วยซ้ำ จะเห็นภาพชัดขึ้น
1
ไม่ใช่แค่นั้นช่วงที่เล่นอยู่กับดี.ซี. ยูไนเต็ดยังถูกจับโยงว่าติดการพนันงอมแงม แอบเข้าคาสิโนบ่อยๆ อยู่ที่นั่นไม่ค่อยมีใครสังเกตนัก ทางเลยปรอดโปร่ง
สุดท้ายเป็นหนี้ก้อนโต คอลีน เลยยื่นคำขาดให้กลับมาอังกฤษซะ ก่อนจะลงเอยกับดาร์บี้ ซึ่งค่าจ้างกว่า 80 เปอร์เซนต์เป็นทางสปอนเซอร์จ่ายให้
แน่นอนอิมเมจของ รูนี่ย์ อยู่ในขั้นแย่เลยทีเดียวและไม่ได้เกิดขึ้นครั้งเดียว มันซ้ำซากจนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไป
ต่อให้เขาเคยสร้างโมเมนต์มหัศจรรย์หลายครั้งในสนาม โดยเฉพาะเมื่อลอยตัวจักยานอากาศฟาดบอลตุงตาข่ายแมนฯซิตี้ แต่มันก็ไม่อาจล้างได้ทั้งหมด
ทำให้หลายคนพูดคำว่า "น่าเสียดาย" เสมอเมื่อต้องนึกถึง รูนี่ย์
บางที รูนี่ย์ เองก็อาจจะรู้สึกเสียดายเหมือนกัน
บทความย้อนหลังที่น่าสนใจ
[ #เกมนี้มีแต่คนแพ้ ]
[ #ริโอกับบาดแผลเหยียดผิว (จบ) ]
[ #ริโอกับบาดแผลเหยียดผิว (1) ]
[ #แค่ทำเหมือนของจริง ]
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
โฆษณา