11 มิ.ย. 2020 เวลา 00:12 • ความคิดเห็น
ดาบที่คมที่สุด
เป็นที่ขึ้นชื่อกันว่า คาตานะ หรือ ดาบซามูไรญี่ปุ่นนั้นมีความคมมากที่สุดในบรรดาอาวุธของมีคมทั้งปวง และภายใต้คมดาบนั้นยังแฝงไปด้วยศิลปะชั้นยอด เป็นของมีค่า ที่ต้องอาศัยศาสตร์การตีดาบชั้นสูงถึงจะทำออกมาได้
ดาบซามูไร เป็นอาวุธคู่กายของซามูไร หากซามูไรคนไหนลืมดาบ ก็เท่ากับว่าตนเองกำลังก้าวเข้าสู่ความตาย เพราะชีวิตของซามูไรต้องเตรียมพร้อมฟาดฟันได้ทุกเมื่อ ดาบจึงเป็นเหมือนชีวิตและจิตวิญญาณของซามูไรเลยก็ว่าได้
ดาบซามูไรคมถึงขนาดที่ใช้ตัดคอคนได้ในการฟันลงเพียงทีเดียว
ดาบซามูไรที่ดีจึงต้องมีทั้งความคมและความแข็งแกร่งประกอบรวมกันอยู่ในเล่มเดียวกัน
ชาวญี่ปุ่นโบราณจึงยกย่องช่างตีดาบเป็นอย่างมาก เพราะต้องอาศัยฝีมือความรู้ความสามารถในการตี ในสมัยก่อนชาวญี่ปุ่นได้อิทธิพลในการใช้ดาบมาจากจีนและเกาหลี แต่พอสู้รบจริงแล้วก็พบว่าดาบมักหักเป็นสองท่อน จักรพรรดิญี่ปุ่นจึงสั่งให้ช่างตีดาบปรับปรุงการตีดาบให้คมและแข็งแกร่งขึ้นให้ได้
2
กาลเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ที่ช่างตีดาบได้พัฒนาการตีดาบให้นักรบ รูปแบบของดาบก็ได้แข็งแกร่งขึ้น คมขึ้น แต่นั้นมันก็ยังไม่ได้แหลมคมมากที่สุด จนกระทั่งมาถึงยุคที่มีช่างตีดาบที่ชื่อ “มาซามูเน่”
มาซามูเน่ ได้พัฒนาการตีดาบมาถึงขั้นสูงสุด ทั้งความคม ความแข็งแกร่ง ความสมดุลได้รูปได้สัดสวน จับถนัดมือ ไม่มีช่างตีดาบคนใดจะเทียบผลงานดาบของเขาได้
1
มาซามูเน่ คิดค้นการตีดาบโดยการใช้เหล็กแบ่งออกเป็นสามส่วน เหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนสูงจะใช้เป็นใบดาบด้านข้าง ด้านคมดาบใช้เหล็กที่แข็งมากโดยผ่านการพับและตีถึง 15 ครั้ง ซึ่งสามารถสร้างชั้นของเหล็กที่ซ้อนกันได้ถึง 32,768 ชั้น ทำให้เหล็กเหนียว แกร่งมากกว่าส่วนอื่นๆ ส่วนไส้ในจะใช้เหล็กที่มีปริมาณคาร์บอนต่ำ ทำให้มีความยืดหยุ่น เมื่อนำไปหลอม เหล็กทั้งหมดก็จะกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
กลายเป็นดาบที่แข็งแกร่ง และคมมากที่สุด
8
ดาบมาซามูเน่ จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นดาบที่คมมากที่สุด ตัดได้แม้กระทั่งเหล็ก ไม่ว่าซามูไรคนไหนต่างก็อยากได้ครอบครอง
ดาบมาซามูเน่ http://couldthatbetrue.com/the-honjo-masamune-sword
ต่อมาได้มีช่างตีดาบที่ชื่อ “มูรามาสะ” เขาใช้เวลาตีดาบทั้งวันทั้งคืน ทุบฆ้อนไปด้วยความปรารถนาแห่งการฆ่าฟัน และปลิดชีพใครก็ตามที่อยู่ตรงหน้าดาบเล่มนี้ เขามุ่งหวังตีดาบที่เป็นเลิศในการฆ่าฟัน
ดาบของมูรามาสะที่ตีเสร็จออกมาจึงมีความคมที่เหนือธรรมชาติ
1
นักดาบที่ต้องไปสู้รบจึงอยากได้ดาบมูรามาสะไว้ฟาดฟันศัตรู
ดาบมาซามูเน่ กับ ดาบมูรามาสะ จึงเป็นดาบที่บรรดาไดเมียว ซามูไรต่างยกย่องว่าเป็นดาบที่คมแกร่งที่สุด และเป็นที่ถกเถียงกันว่าดาบของตระกูลไหนจะเหนือกว่ากัน
2
จนมีเรื่องเล่าขานกันว่า ลูกหลานในตระกูลทั้งสองได้เคยเอาดาบของตระกูลตัวเองมาประลองกัน
1
วิธีประลองก็ด้วยการเอาดาบปักลงไปในลำธารโดยให้ด้านคมดาบสวนกระแสน้ำ และรอให้ใบไม้ถูกน้ำพัดผ่านมาถูกคมดาบ ใบไม้เมื่อถูดพัดมาโดนคมดาบมูรามาสะก็ขาดเป็นสองท่อนทันที แต่ดาบมาซามูเน่กลับให้ผลที่ตรงข้าม ใบไม้ที่ลอยผ่านเข้าใกล้คมดาบถูกผลักออกจากตัวดาบ เหมือนมีออร่าห่อหุ้มเอาไว้ไม่ให้เกิดอันตรายใดๆ
1
คนสมัยก่อนจึงเชื่อว่าดาบมูรามาสะตีขึ้นจากความแค้น ดังนั้นดาบจะมีไอสังหาร เมื่อมีอะไรเข้ามาใกล้จะถูกตัดขาดทันที ส่วนดาบมาซามูเน่สร้างขึ้นมาจากความคิดที่จะปกป้อง ถึงแม้ดาบทั้งคู่ต่างก็คมมากแต่ผลที่ได้จึงต่างกัน ผู้ที่ครอบครองดาบมูรามาสะจะเกิดความคึกคะนอง บ้าคลั่งอยากฟาดฟัน
3
ดาบมูรามาสะ https://allabout-japan.com/en/article/4145/
ครั้งหนึ่งโตกุกาวะ อิเอยาสึ ได้เคยมีดาบมูรามาสะมาไว้ครอบครอง และดาบเล่มนี้ก็ได้สร้างบาดแผลให้กับเขามากมาย พ่อและปู่ของเขาถูกสังหารด้วยคมดาบนี้ ลูกชายคนโตของเขาก็ยังถูกบังคับให้ทำฮาราคีรีด้วยดาบเล่มนี้ รวมไปถึงตัวเขาเองก็ยังเคยได้รับบาดเจ็บจากคมดาบมูรามาสะด้วย จนท้ายที่สุดโตกุกาวะ อิเอยาสึจึงประกาศห้ามพกดาบมูรามาสะเป็นอันขาด ดาบมูรามาสะ จึงเป็นเหมือนดาบต้องคำสาปมานับแต่นั้น
ส่วนดาบมาซามูเน่นั้นแตกต่างออกไป ด้วยเพราะถูกสร้างขึ้นเพื่อต้องการให้ผู้ใช้ดาบปกป้องชีวิตตัวเองจากอันตรายทั้งปวง ผู้ที่ครอบครองดาบมาซามูเน่ จึงมีจิตใจที่สงบมีสมาธิ
1
คนญี่ปุ่นจึงยกย่องดาบมาซามูเน่ให้อยู่เหนือกว่าดาบมูรามาสะ เป็นดาบที่ดีที่สุดที่ญี่ปุ่นเคยสร้างขึ้นมาเลยทีเดียว
1
กว่าที่ดาบมาซามูเน่จะกลายเป็นดาบที่คมที่สุดมาได้นั้น ก็ต้องผ่านการพัฒนา ผ่านการตีเหล็ก ผ่านการลับความคมอยู่เสมอ ไม่มีทางที่เหล็กแท่งหนึ่งอยู่ดีๆ จะตีออกมาแล้วมันจะคมได้เลย
ความคิดเราในชีวิตจริงก็เช่นกัน หากเราต้องการพัฒนาความคิดของเราเองให้เฉียบแหลม มีไหวพริบทันกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เราคงต้องคอยหมั่นเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วความคิดเราจะล้าหลังไม่สามารถนำมันมาใช้ได้จริงกับโลกยุคใหม่ได้
และนอกจากเราจะลับความคิดให้แหลมคมอยู่เสมอแล้ว เราก็ควรพัฒนาจิตใจให้ดีตามไปด้วย แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเรายังเป็นมนุษย์ที่ยังมีความ รัก โลภ โกรธ หลง กันอยู่ แต่หากเราสามารถฝึกความคิด ควบคุมจิตใจให้ได้ทุกครั้งที่รู้ตัวอยู่เสมอ เราก็จะค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น ความคิดเราก็จะแหลมคมมากขึ้นตามไปด้วย
1
และหากเรามีทั้งความคิดดี จิตใจดีแล้ว เราก็จะทำเรื่องดีๆ ออกมาให้กับตัวเอง และผู้อื่น
ดาบที่คมที่สุด จึงอาจไม่ใช่มาจากคมดาบ
แต่มาจากความคิดและจิตใจของเราเองต่างหาก...
อ้างอิงข้อมูลจาก
นิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม
Cr.Photo : Yann Goument
โฆษณา