12 มิ.ย. 2020 เวลา 03:47 • การเมือง
400,000,000,000=สี่แสนล้านบาทจะเอาไปทำอะไรได้ ?
1
#เส้นทางลูกจ้างเงินล้าน #STAFF100MB
เช่นเดิมครับ ผมต้องขอออกตัวก่อนว่า โพสต์นี้ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือวิจารณ์การทำงานของภาครัฐแต่อย่างไร ผมเพียงนำเสนอข้อคิดเห็น เพื่อกระตุ้นการรับรู้ของผู้อ่าน ให้เร่งปรับตัว และสร้างเป้าหมายในชีวิต ตามวัตถุประสงค์ของบล็อก “เส้นทางลูกจ้างเงินล้าน”
ขอบคุณผู้ติดตามและขอบคุณผู้อ่านที่คอมเม้นท์ ทุกท่าน
ขอบคุณ คุณForest gums ที่เม้นท์ในโพสต์ “รากหญ้า VS มหาเศรษฐี”..ว่า “ถ้าไม่อิงความคิดที่ว่าอุ้มคนรวยเพื่อช่วยคนจน ในยุคทุนนิยม ต้องทำยังไงครับ” ?
เม้นท์...ที่กระตุ้นต่อมความคิดของผม ทำให้ผมได้คิดว่า เออ.. นั่นซิ ถ้าบังเอิญผมกำเงินก้อน 4 แสนล้านนี้ไว้ และถ้าบังเอิญผมมีอำนาจตัดสินใจ ผมจะทำอย่างไร
บังเอิญผมมีคำตอบให้ดังนี้ครับ ...
สถาณการณ์โควิด-19 ทำให้ประชาชนขาดรายได้ เงินเยียวยาที่จ่ายกันไป 5,000 สามเดือน แล้วแต่กลุ่มอาชีพ (เข้าใจว่าจ่ายจริง ถึง มือผู้รับจริง...และจะดีจริง ถ้าเปิดข้อมูลให้ทุกคนตรวจสอบได้ ..จ่ายไปให้ นาย ก. นาง ข. ฯลฯ จำนวนกี่หมื่น กี่แสน กี่ล้านคน โชว์ให้เห็นทุกบาท ทุกสตางค์ ....ใสสะอาด ตรวจสอบได้...” น่าจะฝันไปนะครับ.. โลกของความเป็นจริง มันมักจะเทาๆ เสมอ )
ปัญหาเฉพาะหน้าผ่านไปแล้ว ปัญหาตอนนี้คือจะถลุง เอ้ย..จะบริหารเงิน 4 แสนล้านนี้อย่างไร
วัตถุประสงค์ของ 4 แสนล้านตอนนี้ ...(ตามประกาศของรัฐบาล)
ใช้เพื่อฟื้นฟูและพยุงเศรษฐกิจภาพรวม
ดังนั้นตอนนี้เงินกำลังจะหมุนไปครับ ใครมี Connection ก็ได้ลุ้นเงินก้อนใหญ่หน่อย รายเล็ก รายย่อย Connection เบาๆ ก็ได้ไปเบาๆ ถ้าไม่มี Connection เลย แล้วบังเอิญงบประมาณเหลือ และมีกิจการที่ดี ไม่เคยมีหนี้เสียมาก่อน ก็น่าจะได้ลุ้น
อุปมา..
“เงิน” มันเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เทไปตรงไหน ก็ได้ชื่อว่า ฟื้นฟูและพยุงเศรษฐกิจ หมดแหละครับ
แต่... ถ้าประเทศคือต้นไม้.... เงินงบประมาณคือน้ำ ทุกๆครั้งที่ผู้มีอำนาจทำกันคือ รดน้ำต้นไม้จากยอด โดนยอด โดนใบก่อน ยอดชุ่ม ใบชุ่ม น้ำถึงจะเหลือลงดินไปเลี้ยงราก
เวลาที่ต้นไม้เหี่ยวเพราะพิษเศรษฐกิจ เราก็ระดมเงิน คือน้ำ รดไปที่ยอดต้นไม้เหมือนเดิมอีก เห็นว่ายอดชุ่ม ใบชุ่ม ต้นไม้ไม่ตาย ก็แค่นั้น ลืมคิดไปว่า ไอ้ที่ต้นไม้มันไม่ตายไม่ใช่เพราะยอด และใบ ... แต่มันเป็นเพราะราก และที่ต้นไม้มันไม่ตาย เพราะน้ำมันเยอะ เศษน้ำมันเลยพอหลงเหลือไปถึงโคนถึงราก
ถ้าบังเอิญเราไม่อุ้มคนรวย ถ้าบังเอิญเราไม่รดน้ำจากยอดลงมา ผมมีคำตอบให้ดังนี้ครับ ...
ภาคธุรกิจ เค้าดิ้นรนกันเป็น นักธุรกิจมืออาชีพ เค้ามีช่องทาง 108 , 1900 ให้ประคองตัวเองไปได้ครับ เพราะยังงัยก็ยังมีอีก 9 แสนล้านใน พรก. ฉบับที่ 2 และ 3
4 แสนล้านนี้ ถ้าเราเอาเงินหว่านลงรากหญ้าโดยตรง หว่านลงไปทุกหมู่บ้าน จะได้เงินเยียวยาไปหมู่บ้านละประมาณ 5 ล้านบาท (ประเทศไทยมีจำนวนหมู่บ้านประมาณ 75,000 หมู่บ้าน) จัดทำโครงการการพัฒนาที่ยั่งยืนหลังโควิด-19 ให้แต่ละหมู่บ้านประชุมคนในหมู่บ้านกันเอง จะทำสินค้า หรือบริการอะไร ที่คิดว่าจะเป็นรายได้ที่ยั่งยืนของหมู่บ้าน และการจะไปตรงนั้น ต้องมีการจ้างงานอะไรกันบ้าง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด คิดกันเอง จ้างงานกันเองในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐทั้งตำบล อำเภอ จังหวัด มีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ สนับสนุน ติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และป้องกันไม่ให้เกิดการกินหัวคิว
รัฐบาลประชาสัมพันธ์ในภาพกว้างให้ทุกหมู่บ้านได้รับรู้ และรัฐฯสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมาควบคู่กันไป เสร็จแล้วให้แต่ละหมู่บ้านเอาสินค้าหรือบริการของตนที่พัฒนาแล้วประกาศขายได้ฟรี ประชาชนคนไทย 66 ล้านคนช่วยกันใช้ ช่วยกันคอมเม้นท์ ช่วยกัน Review จะเกิดการพัฒนาต่อยอด ประชาชนรากหญ้ามีรายได้ พึ่งพาตนเองได้ เศรษฐกิจก็จะเข้มแข็งขึ้น
น้ำ คือ เงินงบประมาณ ที่ถูกเทลงตรงๆ ที่รากต้นไม้ ก็จะทำให้ต้นไม้เติบโต ไม่ตาย แถมยังยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
ท่านผู้อ่านพอเห็นภาพนะครับ ...
ที่กล่าวมาคือไอเดียโดยย่อ เพื่อตอบคำถามที่ว่า “ถ้าไม่อิงความคิดที่ว่าอุ้มคนรวยเพื่อช่วยคนจน ในยุคทุนนิยม ต้องทำยังไงครับ” ?
อย่างไรก็ตาม...
โปรดอย่าลืมว่า ที่เล่ามาคือเรื่องบังเอิญนะครับ ...
บังเอิญยากส์ ที่จะเกิดขึ้นจริง
ครับผม
โฆษณา