12 มิ.ย. 2020 เวลา 14:22 • ไลฟ์สไตล์
ความสุขของการเดินทางนั้น
ไม่ได้อยู่เพียงแค่จุดหมายปลายทาง
แต่เกิดขึ้นระหว่างทางที่ไป ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์
ซึบซับความสวยงามของสิ่งต่างๆรอบตัว
เดินทางเพื่อที่จะเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การค้นหาทิวทัศน์ใหม่ ๆ
แต่คือการมองสิ่งเหล่านั้นในมุมมองใหม่ ๆ ด้วย
อย่ามัวแต่เร่งรีบไปให้ถึงจุดหมาย
หากมองเพียงแต่จุดหมายปลายทางแล้ว
เราจะพลาดโอกาสของความสุข
เพราะมองข้ามความสำคัญและสิ่งสวยงาม
ของเรื่องราว "ระหว่างการเดินทาง"
วันนี้จะพาเพื่อนๆเดินทางไปกันที่#
เขาพระยาเดินธง สุดยอดจุดชมวิวแห่งลพบุรี
ใครก็ตามที่ได้มายืนอยู่บนยอดเขาพระยาเดินธง คงเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องให้หมอดูหมอเดาคนไหนมาคอนเฟิร์น ฟันธง และยืนยัน ว่าที่นี่คือจุดชมวิวที่สวยและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของจังหวัดลพบุรี ว่าแล้วก็ประสานเสียงร้องว้าวออกมาดังๆ ได้เลย
เขาพระยาเดินธง ชื่อนี้ไม่คุ้นนัก แต่ไม่ใช่จะไม่มีใครรู้จัก ความจริงภูเขาแห่งนี้ชาวลพบุรีและอำเภอพัฒนานิคมคุ้นเคยกันดี มีการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงถ้วยพระราชทานเป็นประจำทุกปี ขาปั่นขาลุยของจริงต้องเคยมาร่วมแสดงพลังน่องเหล็ก อีกทั้งด้านบนยังที่พักสงฆ์ของวัดหนองนา มีการจัดบวชชีพราหมณ์เป็นประจำทุกปี รวมถึงกิจกรรมเข้าค่ายพุทธธรรม การสวดมนต์ข้ามปี กระนั้นเขาพระยาเดินธงกลับไม่เคยได้รับการประชาสัมพันธ์หรือจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียกคนต่างถิ่นมาเยือนเลย
ยอดเขาแห่งนี้เป็นเขาสูงอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ บางทีอาจเป็นเพราะหนทางขึ้นเขายากลำบากทำให้ไม่มีใครใส่ใจ เส้นทางขึ้นเขายาวประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังขรุขระ ต้องขึ้นไปด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ รถกระบะ หรือหากเป็นมอเตอร์ไซค์ต้องเป็นเกียร์ธรรมดาสภาพสมบุกสมบัน รถเกียร์ออโต้แฟชั่นแบบวัยรุ่นนิยมมีหวังได้พังพาบก่อนถึงยอดเขาแน่นอน ไม่เช่นนั้นมีอีกสองทางเลือกคือจักรยานเสือภูเขาและการเดินสองเท้าเท่านั้น
แต่แม้ว่าจะยากลำบากเพียงใด ทิวทัศน์บนยอดเขาก็ช่างคุ้มค่านัก ตลอดแนวหน้าผาสามารถชมวิวกว้างไกลสุดสายตาของอำเภอพัฒนานิคม มองเห็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อันยิ่งใหญ่ได้แบบชัดถนัดเจน นั่นแหละคือไฮไลท์สำคัญ ไม่มีเขาลูกใดอีกแล้วในลพบุรีให้วิวสุดแสนพิเศษแบบนี้ สามารถบอกได้ว่าบนเส้นทางแห่งกรวดหิน ปลายทางคือสวรรค์ที่แท้จริง
เขาพระยาเดินธงเป็นพื้นที่เปิดไม่มีการกำหนดเวลาขึ้นลงหรือมีหน่วยงานใดดูแลเคร่งครัด ใครอยากขึ้นก็ขึ้น อยากลงก็ลง หากขับรถขึ้นไปเองจะขึ้นตอนไหนอย่างไรไม่มีใครว่า ส่วนคนไม่มีรถขึ้นไปเองจำเป็นต้องอาศัยทักษะเจรจาหาชาวบ้านแถวนั้นพาขึ้นไป พูดง่ายๆ คือต้องว่าจ้างคนท้องถิ่น ไม่เช่นนั้นอยากเดินขึ้นก็ได้ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง
บนที่พักสงฆ์อาจมีพระสงฆ์จำวัดอยู่หรือไม่แล้วแต่ท่าน เราสามารถขอกางเต็นท์ค้างแรมได้
แต่ควรสำรวมกริยามารยาทล่ะ เพราะเป็นเขตปฏิบัติธรรม เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปมากมาย ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวครื้นเครง จะไปขอท่านกางเต็นท์แล้วนั่งเล่นเฮฮาร่ำสุราดีดกีตาร์เห็นจะไม่เหมาะ และหากใครขึ้นไปนอนด้านบนจะพบว่ายามพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ที่นี่สุดยอดเหนือคำบรรยาย
ใครก็ตามที่ได้มายืนอยู่บนยอดเขาพระยาเดินธง คงเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องให้หมอดูหมอเดาคนไหนมาคอนเฟิร์น ฟันธง และยืนยัน ว่าที่นี่คือจุดชมวิวที่สวยและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของจังหวัดลพบุรี ว่าแล้วก็ประสานเสียงร้องว้าวออกมาดังๆ ได้เลย
เขาพระยาเดินธง ชื่อนี้ไม่คุ้นนัก แต่ไม่ใช่จะไม่มีใครรู้จัก ความจริงภูเขาแห่งนี้ชาวลพบุรีและอำเภอพัฒนานิคมคุ้นเคยกันดี มีการแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงถ้วยพระราชทานเป็นประจำทุกปี ขาปั่นขาลุยของจริงต้องเคยมาร่วมแสดงพลังน่องเหล็ก อีกทั้งด้านบนยังที่พักสงฆ์ของวัดหนองนา มีการจัดบวชชีพราหมณ์เป็นประจำทุกปี รวมถึงกิจกรรมเข้าค่ายพุทธธรรม การสวดมนต์ข้ามปี กระนั้นเขาพระยาเดินธงกลับไม่เคยได้รับการประชาสัมพันธ์หรือจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียกคนต่างถิ่นมาเยือนเลย
ยอดเขาแห่งนี้เป็นเขาสูงอยู่ไม่ไกลจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ บางทีอาจเป็นเพราะหนทางขึ้นเขายากลำบากทำให้ไม่มีใครใส่ใจ เส้นทางขึ้นเขายาวประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังขรุขระ ต้องขึ้นไปด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อ รถกระบะ หรือหากเป็นมอเตอร์ไซค์ต้องเป็นเกียร์ธรรมดาสภาพสมบุกสมบัน รถเกียร์ออโต้แฟชั่นแบบวัยรุ่นนิยมมีหวังได้พังพาบก่อนถึงยอดเขาแน่นอน ไม่เช่นนั้นมีอีกสองทางเลือกคือจักรยานเสือภูเขาและการเดินสองเท้าเท่านั้น
แต่แม้ว่าจะยากลำบากเพียงใด ทิวทัศน์บนยอดเขาก็ช่างคุ้มค่านัก ตลอดแนวหน้าผาสามารถชมวิวกว้างไกลสุดสายตาของอำเภอพัฒนานิคม มองเห็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อันยิ่งใหญ่ได้แบบชัดถนัดเจน นั่นแหละคือไฮไลท์สำคัญ ไม่มีเขาลูกใดอีกแล้วในลพบุรีให้วิวสุดแสนพิเศษแบบนี้ สามารถบอกได้ว่าบนเส้นทางแห่งกรวดหิน ปลายทางคือสวรรค์ที่แท้จริง
เขาพระยาเดินธงเป็นพื้นที่เปิดไม่มีการกำหนดเวลาขึ้นลงหรือมีหน่วยงานใดดูแลเคร่งครัด ใครอยากขึ้นก็ขึ้น อยากลงก็ลง หากขับรถขึ้นไปเองจะขึ้นตอนไหนอย่างไรไม่มีใครว่า ส่วนคนไม่มีรถขึ้นไปเองจำเป็นต้องอาศัยทักษะเจรจาหาชาวบ้านแถวนั้นพาขึ้นไป พูดง่ายๆ คือต้องว่าจ้างคนท้องถิ่น ไม่เช่นนั้นอยากเดินขึ้นก็ได้ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมง
บนที่พักสงฆ์อาจมีพระสงฆ์จำวัดอยู่หรือไม่แล้วแต่ท่าน เราสามารถขอกางเต็นท์ค้างแรมได้
แต่ควรสำรวมกริยามารยาทล่ะ เพราะเป็นเขตปฏิบัติธรรม เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปมากมาย ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวครื้นเครง จะไปขอท่านกางเต็นท์แล้วนั่งเล่นเฮฮาร่ำสุราดีดกีตาร์เห็นจะไม่เหมาะ และหากใครขึ้นไปนอนด้านบนจะพบว่ายามพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ที่นี่สุดยอดเหนือคำบรรยาย
#เป็นไงบ้างค่ะการเดินทางในครั้งนี้
หนทางอาจจะลำบากบ้างแต่มันคุ่มค่า
และเราจะได้ประสบการณ์ใหม่เสมอค่ะ#
โฆษณา