22 มิ.ย. 2020 เวลา 13:00 • การศึกษา
ปฏิเสธอย่างไรดี
ภาพถ่ายโดย Gustavo Fring จาก Pexels
จากบทความก่อนหน้านี้เกี่ยวกับการขอ https://www.blockdit.com/articles/5edeff650bb9890cbe7d863d/#
ขออนุญาตแปะ😆
เนื่องมาจาก ตัวเราคนเดียวไม่สามารถทำทุกๆอย่างได้ จึงจำเป็นต้องมีการร้องขอความช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยวิธีการที่เหมาะสม
และเมื่อมีการขอ คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่มีแค่ 2 ข้อ คือ การตอบรับกับการปฏิเสธ ซึ่งการตอบรับไม่ใช่ปัญหาแน่นอน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคู่กันกับการขอ สิ่งที่คนพูดไม่ค่อยอยากจะได้ยิน และสิ่งที่คนฟังบางครั้งตอบได้อย่างลำบากใจ คืออย่างหลัง การปฏิเสธ นั่นเอง
การมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ปฏิเสธเป็นสิ่งที่ดี แต่การที่เราทำดีเพื่อคนอื่นจนเราลำบากก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเช่นกัน คล้ายๆกับสำนวนไทยที่ว่า "เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด" การเป็นคนเกรงใจที่มักจะตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ อาจนําพาความทุกข์มาสู่เราได้ เพราะกลัวเขาจะโกรธหรือผิดหวัง
ดังนั้น เมื่อมีวิธีการขอที่เหมาะสมแล้ว ก็ต้องรู้วิธีการปฏิเสธที่เหมาะสมด้วย
อย่างเช่น เมื่อคุณไปร่วมงานเลี้ยงกับเพื่อนไม่ได้ จะทำอย่างไร ระหว่างปฏิเสธตรงๆไปเลย กับปฏิเสธแบบอธิบายเหตุผลให้เพื่อนเข้าใจด้วย และลองคิดในทางกลับกันถ้าเราเป็นคนเชิญ แล้วเพื่อนปฏิเสธตรงๆ หรืออธิบายไม่ชัดเจนว่าเพราะอะไรถึงมาไม่ได้ เราจะรู้สึกอย่างไร
ภาพถ่ายโดย Jack Sparrow จาก Pexels
ก่อนอื่นต้องยอมรับความจริงที่ว่า เราไม่สามารถที่จะตอบรับทุกเรื่องในชีวิตได้ มีโอกาสต่างๆเข้ามามากมาย เราจำเป็นที่จะต้องเลือกบางอย่างโดยเคารพความรู้สึกตนเอง ดังนั้นหมายความว่า การปฏิเสธเป็นสิ่งที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยง
ในเมื่อต้องเจอแน่ๆแล้ว เราก็ควรรู้วิธีการปฏิเสธให้เป็น ปฏิเสธอย่างไรให้เหมาะสม ถนอมน้ำใจคนพูด และไม่ให้เสียความรู้สึก
ต้องรู้ก่อนว่าการปฏิเสธไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวแต่คือความจริง คุณไม่สามารถเอาใจทุกคนได้ และไม่ใช่เรื่องผิดเลยถ้าเราจะพูดคำว่า"ไม่"ออกมาบ้าง เราต้องรับผิดชอบต่อความรู้สึกของตัวเอง ดีกว่ามานั่งกลุ้มใจในภายหลัง
สิ่งที่จะต้องมีอยู่เสมอๆในการปฏิเสธ คือ ความจริงใจ ความใจเย็น และความสุภาพ
ภาษากายที่เราใช้ สำคัญไปไม่น้อยกว่าคำพูดที่เราพูดออกมาเลยนะ ขออนุญาตแอบแปะอีกแล้ว🤣
เป็นบทความเกี่ยวกับภาษาท่าทาง สามารถตามไปอ่านเพิ่มเติมได้ครับ😊
ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay
เทคนิคที่จะทำให้คุณปฏิเสธได้ดีขึ้น
1. ตอบปฏิเสธไปเลยตรง ๆ โดยเน้นคําว่า "ไม่" 2 ครั้ง เพื่อสื่อว่าคุณทําไม่ได้จริงๆ พร้อมพูด “ขอบคุณ” ปิดท้าย แน่นอนว่าการตอบต้องเป็นไปด้วยความละมุนละม่อม
เช่น "ไม่ได้"ครับ ผมไป"ไม่ได้"จริงๆ ขอบคุณที่ชวนนะครับ
2. สะท้อนให้อีกฝ่ายเห็นว่าคุณเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ เพียงแต่ทําให้ไม่ได้
เช่น "ผมรู้ว่าใช้เวลาไม่นาน" แต่ผมต้องรีบไปจริงๆ
3. บอกเหตุผลที่ทําให้ต้องปฏิเสธ เหตุผลที่ใช้จะต้องสั้น กระชับ ชัดเจน เพื่อให้ไม่ดูเป็นข้ออ้างและต้องไม่เป็นการโกหกด้วย
เช่น ไปด้วยไม่ได้จริงๆ "ต้องทำงานที่ค้างให้เสร็จภายในคืนนี้"
4. ปฏิเสธพร้อมต่อรอง ยื่นข้อเสนอเป็นคราวหน้า แทนครั้งนี้ที่อาจจะทำไม่ได้
เช่น ครั้งนี้ไปไม่ได้จริงๆ "เดี๋ยวครั้งหน้าไปด้วยกันนะ" , "ขอคิดดูก่อน"
5. ปฏิเสธแล้วถามกลับ ถามกลับทันที เพื่อสื่อถึงความใส่ใจและไม่ดูดายในเรื่องนั้น หรือให้คำแนะนำก็ได้ เช่น งานส่วนนี้เราทำให้ไม่ได้จริงๆ "มีส่วนอื่นอีกไหมเผื่อเราพอจะช่วยได้"
6. ทวนคําปฎิเสธ คล้ายๆกับข้อแรก เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเรา และสื่อว่าที่ต้องปฏิเสธเพราะมีเหตุจําเป็นจริงๆ
มี infographic เข้าใจง่าย สามารถดูได้จากเว็บไซต์นี้เลยครับ
อีกวิธีหนึ่งในการปฏิเสธ โดยการไม่พูดคำว่า"ไม่" จะเป็นอย่างไร สามารถชมจากคลิปข้างล่างนี้ของพี่จีน่าได้เลยครับ
สุดท้ายนี้ การรู้จักให้เป็นเรื่องที่ดี แต่การรู้จักปฏิเสธอย่างเหมาะสมก็เป็นเรื่องจําเป็นเช่นเดียวกัน ครั้งต่อไป ลองพิจารณาถึงข้อดี ข้อเสียให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจตอบรับหรือปฏิเสธครับ
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจาก
โฆษณา