18 มิ.ย. 2020 เวลา 03:03
ความสำเร็จ - ภาพลวงตาหรือว่าของจริง
เมื่อวันก่อนมีโอกาสฟังการสัมภาษณ์ผู้บริหารท่านหนึ่ง ที่กำลังเป็นต้นแบบ (Role Model) ของคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
ท่านอายุน้อย มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เป็นนักบรรยาย เป็นผู้บริหาร เป็นนักลงทุน เป็นผู้มีบทบาทในหลายๆ เวที เป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลในบางโครงการ ฯลฯ
ผมฟังท่านเล่าประวัติแล้ว ก็แอบปลื้มและภาคภมิใจไปกับครอบครัวของท่านด้วย
แต่ติดนิดเดียว !
ช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์ ท่านเล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นคนทำงานหนัก มุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับงานอย่างเต็มที่ และเชื่อว่านี่คือปัจจัยสำคัญแห่งความสำ เร็จ
ตัวอย่างหนึ่งที่ท่านเล่าด้วยความภาคภูมิใจ คือ วันหนึ่งเมื่อ 2-3 ปีก่อน ระหว่างที่กำลังทำเวิร์คชอป กับน้องๆ ทีมงาน เพื่อจัดทำกลยุทธ์ขององค์กร อยู่ที่ต่างจังหวัด ได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านว่าคุณพ่อที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล อาการทรุดหนักและน่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน อยากให้รีบกลับมาดูใจ แต่ท่านตัดสินใจทำงานต่ออีก 2 วันเพื่อให้เสร็จสิ้นภารกิจ
แม้เจ้านายใหญ่ จะมาบอกว่า “คุณควรไป”​ แต่ท่านก็ยืนยันขันแข็งว่า “ไม่ครับ” โดยให้เหตุผลว่า การกำหนดกลยุทธ์เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับองค์กร และที่สำคัญเชื่อว่าหากคุณพ่อรับรู้ ก็จะภาคภูมิใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ด้วย
สุดท้าย คุณพ่อของท่านก็จากไปในคืนที่ได้รับโทรศัทพ์ แต่ท่านอยู่ต่อจนงานจบภารกิจตามที่ตั้งใจ ก่อนจะไปร่วมงานศพในอีก 2 วันให้หลัง
ผมฟังแล้วก็คิดว่า “แบบนี้ไม่ใช่ละ !”
ผมทำงาน​(ในฐานะโค้ชและที่ปรึกษา) ให้กับผู้บริหารหลายคนที่ประสบความสำเร็จมากมายในธุรกิจและชีวิตการงาน รวมทั้งมีโอกาสสัมภาษณ์คนหลากหลาย ในฐานะผู้ดำเนินรายการ
คนที่ประสบความสำเร็จทุกคนพูดตรงกัน เมื่อถูกถามว่า “ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ใหม่ จะทำอะไรที่แตกต่างจากเดิม”
1. ใช้เวลากับคนที่รักให้มากขึ้น - สุดท้ายความสำเร็จเป็นเพียงสิ่งสมมุติที่ผู้คนยึดติด เป็นภาพลวงตา เป็นมายาคติ (Myth) แต่ความจริงคือความสุขในชีวิตที่มีโอกาสได้ใช้เวลากับพ่อแม่ สามี/ภรรยา และลูกๆ อย่างมีคุณภาพ เพราะเวลาเดินผ่านไปทุกวินาทีและไม่มีวันย้อนกลับ เราจะอยู่กับคนที่รักไปอีกนานเท่าไร ไม่มีใครรู้ ... ไม่เขา ก็เรา ต้องจากกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเวลาของใครมาถึงก่อนกัน
2. ทำตามความฝัน​ของตนเอง - หลายคนรู้สึกเสียดายที่ตอนยังมีพลัง ไม่ได้ทำตามความฝันที่ตัวเองมี เมื่อเวลาผ่านไป ก็ได้แต่นั่งคิดด้วยความเสียดาย “รู้งี้น่าจะทำไปนานแล้ว”
3. ปล่อยวางสิ่งที่ค้างคาใจ - เมื่อมองย้อนกลับไป หลายคนรู้สึกว่าตนเองเสียเวลากับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง โกรธคนนั้น เกลียดคนนี้ ไม่สบายใจเรื่องนั้น ทุกข์ใจเรื่องนี้ หมดเวลาไปกับการใคร่ครวญเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ทำให้ชีวิตไม่ก้าวเดินไปข้างหน้า เหมือนขับรถแต่ดึงเบรคมือไว้ตลอดเวลา
ผมว่าวิธีการศึกษาความสำเร็จ ไม่ใช่ฟังจากคนรุ่นใหม่ที่กำลังประสบความ
สำเร็จอยู่ เพียงด้านเดียว ลองเปิดใจฟังคนรุ่นใหญ่ที่สำเร็จแล้วและหันมอง
ชีวิตที่ผ่านมาของพวกเขาด้วย
สนใจไปเสิร์ทคำว่า “Things you will regret when you get old” ดูนะ
ครับ
อย่าลืมกดติดตาม LINE OA : Leadership Hacks (https://is.gd/qB4UgH) สำหรับข่าวสารและอาหารสมองดีๆ
ที่มา : “Leadership Hacks by Apiwut” สนใจเกร็ดความรู้ ทุกเช้าแบบสดใหม่ ติดตามได้ที่ Blockdit : http://bit.ly/38yuMHB
โฆษณา