19 มิ.ย. 2020 เวลา 23:54 • กีฬา
ป็อกบา เปลี่ยนเกม! ผี บุกไล่เจ๊า ไก่ หืดจับ 1-1
แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาลงสนามใน พรีเมียร์ลีก อีกครั้งด้วยเกมออกไปเยือน สเปอร์ส เป็นเกมสำคัญที่ตัดสินโอกาสไต่ขึ้นสู่ท็อป 4 ของทั้งคู่ด้วย
สเปอร์ส ที่เสมอ เบิร์นลี่ย์ 1-1 ในเกมลีกล่าสุด และไม่ชนะติดต่อกัน 6 นัดหลังสุดรวมทุกถ้วย ได้ข่าวดีเมื่อได้ แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน และ มุสซ่า ซิสโซโก้ สลัดเดี้ยงคืนตัวจริง ส่วนอีก 3 คนที่ได้ลุยตั้งแต่ต้นเกมด้วยเป็น แซร์ช โอริเย่ร์, เบน เดวิส และ แฮร์รี่ วิงค์ส ขณะที่ เดเล่ อัลลี่ ติดโทษแบน
ในระบบ 4-2-3-1 อูโก้ โยริส ดูแลด่านสุดท้าย แนวรับจากขวาไปซ้ายเป็น แซร์ช โอริเย่ร์, ดาวิดซอน ซานเชซ, เอริค ดายเออร์ และ เบน เดวิส
แดนกลางใช้ แฮร์รี่ วิงค์ส เชื่อมเกมร่วมกับ มุสซ่า ซิสโซโก้ แผงรุกวาง สตีเว่น เบิร์กไวน์, เอริค ลาเมล่า และ ซน ฮึง-มิน สนับสนุน แฮร์รี่ เคน
ฟาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กำลังฟอร์มร้อนก่อนเบรกยาวด้วยการไร้พ่าย 11 นัดรวดทุกรายการ ในลีกล่าสุดเปิดบ้านทุบ แมนฯ ซิตี้ 2-0 ปรับทัพ 2 ตำแหน่ง โดยได้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟิตเต็มถังกลับมาเป็นตัวจริง รวมถึง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ แถม ปอล ป็อกบา ก็หายเจ็บเช่นกันแต่ออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรองก่อน
"ปีศาจแดง" ปรับหมากจาก 3-4-1-2 มาเป็น 4-2-3-1 ดาบิด เด เคอา รับหน้าที่เฝ้าหน้าปากประตู แบ็กโฟร์จัด อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์
สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ประสานงานในแดนกลางคู่กับ เฟร็ด เกมรุกเป็นความรับผิดชอบของ แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด หน้าเป้าวาง อองโตนี่ มาร์กซิยาล
โอกาสลุ้นหนแรกของเกมนี้เป็นของ "ไก่เดือยทอง" ใน นาที 13 จาก ซน ฮึง-มิน ที่ใช้เวลาช่วงหยุดยาวกลับบ้านเกิดไปเข้ารับการฝึกทหาร ลากจากซ้ายตัดมาหน้าเขตโทษก่อนสับไกเรียดด้วยขวาแต่เบาไป เด เคอา พุ่งรับสบาย
"ปีศาจแดง" กว่าจะตั้งเกมได้ก็ต้องรอจนถึง นาที 22 แฟร์นานเดส เปิดจากหน้าเขตโทษฝั่งขวาไปหน้าประตู ดาวินซอน ก้มศีรษะโหม่งสกัดไปเข้าทางปืน แรชฟอร์ด แปด้วยซ้ายระยะ 10 หลายัดเสาซ้ายมือแต่ โยริส พุ่งเซฟได้สวย
แต่บอลยังไม่พ้นอันตราย แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเก็บบอลแถวสองก่อนต่อกันจนมาถึง เฟร็ด ได้ตั้งป้อมสับไกด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่พุ่งตรงตัว โยริส รับได้ไม่มีปัญหา
ทีมเยือนลุยขึ้นมาอีกชุดใน นาที 26 แรชฟอร์ด จ่ายเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ แฟร์นานเดส กระชากหนี โอริเย่ร์ ไปตะบันเรียดด้วยซ้ายแต่ โยริส ก็ยังปิดมุมเสาแรกได้ยอดเยี่ยม
แต่ในจังหวะสวนกลับเร็ว นาที 27 สเปอร์ส ออกนำก่อน 1-0 เบิร์กไวน์ ใช้ความเร็วกระชากหนี เฟร็ด กับ แม็กไกวร์ เข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนตะบันระยะ 15 หลา บอลพุ่งตรงตัวแต่ เด เคอา กลับปัดไม่ออกบอลปลิ้นเสียบตาข่าย
ครึ่งชั่วโมงแรกผ่านไป 2 นาที เจ้าบ้านเกือบบวกเพิ่ม เบิร์กไวน์ ควบขึ้นมาทางขวาก่อนบรรจงเปิดข้ามไปเสาไกล ซน ตั้งศีรษะโหม่งย้อนศรแต่ เด เคอา แก้ตัวด้วยการลอยตัวปัดข้ามคานหวุดหวิด
สเปอร์ส ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ บวกกับการเพรสซิ่งสูงจนทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเกมกันไม่ค่อยได้ บอลก็ถ่ายไปไม่ถึงข้างหน้า
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นทิ้งท้ายจาก แฟร์นานเดส ส่องไกลระยะร่วมๆ 30 หลา น้ำหนักถือว่าดีแต่พุ่งตรงตัว โยริส ล้มตัวรับไม่มีกระฉอก ก่อนจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 1-0 ของ "ไก่เดือยทอง"
"ปีศาจแดง" สร้างโอกาสลุ้นประตูได้หลายหน แต่เกมรับกลับไปมีปัญหาอีกครั้ง รับมือเกมรุกของ สเปอร์ส ไม่ค่อยจะได้ แถม เด เคอา ดันมาฟอร์มหลุดรับลูกยิงของ เบิร์กไวน์ ไม่ได้อีก ขณะเดียวกันก็ส่งผลให้ "ไก่เดือยทอง" ดูยิ่งมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
กลับมาต่อครึ่งหลัง ยังไม่มีใครเปลี่ยนตัว นาที 54 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นประตูตีเสมอ มาร์กซิยาล พาบอลจี้ขึ้นมาก่อนไหลออกขวาให้ แฟร์นานเดส หวดจังหวะแรกเลยระยะ 25 หลาพุ่งเรียดหลุดเสาซ้ายมือไปนิดเดียว
ชั่วโมงแรกผ่านไป 2 นาที "ปีศาจแดง" เปลี่ยนรวดเดียว 2 คน เมสัน กรีนวู้ด กับ ปอล ป็อกบา ลงแทน เจมส์ กับ เฟร็ด
นาที 64 แมนฯ ยูไนเต็ด น่าได้ประตูตีเสมอ ป็อกบา จ่ายไปหน้าเขตโทษให้ แฟร์นานเดส ไขว้หลังหนีตัวประกบแล้วแทงทะลุช่องให้ มาร์กซิยาล จับด้วยขวาก่อนบรรจงยิงเน้นๆ ระยะ 8 หลาทว่า ดายเออร์ ตามมาสไลด์ตัวบล็อกก่อน โยริส พุ่งรับสบายๆ
2 นาทีต่อมา "ปีศาจแดง" พลาดโอกาสอีกหน ชอว์ ลุยขึ้นมาทางซ้ายก่อนจ่ายให้ มาร์กซิยาล เอาบอลลงแล้วเลือกยิงไปเสาไกลแต่ โยริส พุ่งสุดเหยียดปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม
สเปอร์ส เปลี่ยนตัวบ้างในช่วง 20 นาทีสุดท้าย แต่ดูเปลี่ยนตามสไตล์ โชเซ่ มูรินโญ่ เพื่อรักษาผลการแข่งขันหลังส่ง 2 กองกลาง โจวานี่ โล เซลโซ่ กับ เก็ดซอน แฟร์นานเดส ลงไปแทน 2 ตัวรุก เบิร์กไวน์ กับ ลาเมล่า
ทีมเยือนเปลี่ยนเพิ่มอีกใน นาที 78 โอเดี้ยน อิกาโล่ กับ เนมานย่า มาติช ลงไปแทน มาร์กซิยาล กับ ลินเดเลิฟ โดย แม็คโทมิเนย์ ถอยไปยืนเซนเตอร์แบ็ก
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย "ปีศาจแดง" ได้จุดโทษจากจังหวะที่ ป็อกบา เลี้ยงลุยเข้าเขตโทษฝั่งขวาไปโดน ดายเออร์ เหนี่ยวจนล้มลงไป แฟร์นานเดส รับหน้าที่สังหารส่งบอลเสียบมุมล่างซ้ายเป็นประตู 1-1
นาที 89 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย เอริก ไบยี่ ลงไปแทน แม็คโทมิเนย์
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้จุดโทษอีกครั้งใน นาที 90 แฟร์นานเดส โดน ดายเออร์ กระแทกล้มในเขตโทษทว่าสุดท้าย วีเออาร์ ตัดสินว่าไม่ใช่จุดโทษ
ช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม สเปอร์ส เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 แบ่งกันไปคนละแต้มในการกลับมาลงสนามอย่างเป็นทางการของทั้งคู่
สเปอร์ส ย่อมรู้สึกเสียดายกับการไม่ได้ 3 แต้ม เพราะทำได้ดีในช่วง 45 นาทีแรก น่าจะได้มากกว่า 1 ประตูด้วย แต่ก็ถือว่าดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหยุดยาว
เคน สลัดเดี้ยงกลับมาอยู่ในสนาม แต่เหมือนว่ายังไม่เข้าที่เข้าทาง แทบไม่มีส่วนร่วมในเกมรุก น่าจะไม่มีโอกาสได้สับไกด้วยซ้ำ
ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด คงรู้สึกแย่กับการที่ต้องหยุดยาวเพราะช่วงก่อนหน้านี้กำลังเครื่องติดอยู่แท้ๆ ดันต้องมาปิดเครื่อง และดูเหมือนว่าต้องใช้เวลาติดเครื่องกันใหม่อีกครั้ง
การปรับหมากมาใช้แบ็กโฟร์แทนที่จะเป็นกองหลัง 3 คนเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ดูจะส่งผลต่อเกมรับของ "ปีศาจแดง" พอสมควร โดยเฉพาะ ชอว์ ที่กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ ในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กฝั่งซ้าย
ส่วน เด เคอา ดันพลาดรับลูกยิงของ เบิร์กไวน์ ไม่ได้ก่อนโดนลงโทษ เชื่อว่าถ้ายังมีจังหวะผิดพลาดแบบเข้าตาอีกในช่วงที่เหลือของซีซั่นนี้ ไม่แน่ว่าอาจหลุดตัวจริงก็ได้เพราะ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ปล่อยให้ เชฟฯ ยูไนเต็ด ยืมใช้งานในฤดูกาลนี้ โชว์ฟอร์มผุดผาดบาดตาดีเหลือเกิน
แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ปรับทัศนคติตัวเองก่อนปรับฟอร์มเมื่อเริ่มต้นครึ่งหลังเมื่อสามารถเดินหน้าบุกใส่ สเปอร์ส ได้เป็นชุดๆ
ป็อกบา ได้รับเครดิตสำหรับการลงมาพลิกเกมให้ทีมเยือน โดยเฉพาะจังหวะเลี้ยงลุยเข้าไปเรียกจุดโทษอันนำไปสู่ประตูตีเสมอ
ยิ่งเห็นอย่างนี้ แฟนๆ "ปีศาจแดง" ย่อมฝันหวานถึงการประสานงานระหว่าง ป็อกบา กับ แฟร์นานเดส ที่ถ้าได้เวลาเล่นร่วมกันมากกว่านี้ อาจพา แมนน ยูไนเต็ด ไปได้ไกลกว่านี้
มันเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะทำให้โอกาสจะถูก เชลซี อันดับ 4 ทิ้งห่างออกไป ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น การจะได้ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อาจต้องลุ้นให้ แมนฯ ซิตี้ โดนลงโทษห้ามร่วมสังฆกรรมก็ได้ เพื่อที่ว่าโควตาจะได้ลดลงมาถึงทีมอันดับ 5
แต่จะคิดอย่างนั้นก็คงไม่ได้หรอก เพราะตัวเองอาจจะรักษาอันดับ 5 ไว้ไม่ได้ด้วยซ้ำ เชฟฯ ยูไนเต็ด กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ตามหลังแค่ 2 และ 3 แต้ม ก็พร้อมที่จะแซงไปเหมือนกัน
ดังนั้น "ปีศาจแดง" ต้องเร่งเครื่องโกยแต้มห้ามทำตกหล่นอีกแล้ว แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะจะต้องเจอกับ "ดาบคู่" แถมอีกหลายนัดก็ต้องเผชิญหน้ากับทีมหนีตกชั้นอีก บอกได้เลยว่าไม่ง่ายจริงๆ
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
โฆษณา