20 มิ.ย. 2020 เวลา 15:27 • ธุรกิจ
การพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ของจีนต่อ EU ใน WTO
https://thebl.com/uncategorized/historic-defeat-chinese-regime-loses-wto-dispute-to-european-union.html
สัปดาห์นี้มีข่าวใหญ่ข่าวหนึ่งที่ไม่ค่อยเป็นข่าว
อย่างที่เคยบอกว่านับตั้งแต่สหรัฐไปขุดจีนขึ้นมาจากหลุมและพาเข้า WTO มา จีนได้สิทธิทางด้านภาษีและสิทธิประโยชน์ข้อยกเว้นต่างๆมากมายในฐานะประเทศยากจนด้อยพัฒนา คือประเทศต่างๆเขาให้แต้มต่อจีนในการค้าขายเพื่อให้ลืมตาอ้าปากได้ มอบตำแหน่งโรงงานของโลก (ซึ่งเดิมเคยเป็นของไทย) ให้แก่จีน
แต่ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา จีนใช้การ subsidize โดยเอาเงินมหาศาลจากรัฐบาลมาใส่เข้าไปในบริษัทเอกชนที่จีนต้องการปั้นเป็นแชมเปี้ยน (ซึ่งเจ้าของบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์นั่นแหล่ะ) เพื่อให้สามารถส่งสินค้าไปขายในราคาที่ต่ำมากๆจนบางครั้งต่ำกว่าทุนจริง เพื่อให้ธุรกิจสัญชาติอื่นที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันต้องล้มไป ที่เห็นได้ชัดก็เช่นอุตสาหกรรมอะลูมิเนียม rare earth ฯลฯ
ขนาดประเทศไทยเราค่าแรงไม่ได้สูงกว่าจีนเท่าไหร่ ค่าแรงบางเมืองในจีนยังจะสูงกว่าไทยด้วยซ้ำตอนนี้ เรายังไม่สามารถผลิตของพื้นๆที่ขายได้ถูกกว่าของที่ส่งมาจากจีนรวมค่าส่งแล้วเลย ไม่ใช่ว่าเราประสิทธิภาพในการผลิตต่ำกว่าจีนมากมาย แต่เป็นเพราะจีนเขาใช้เงินรัฐบาลมาสนับสนุนให้ต้นทุนต่ำจนสุดๆ เรียกว่าราคาขายเขาต่ำกว่าทุนเราจนเราต้องออกจากตลาดไปทีละรายทีละราย แล้วจีนก็จะปล่อยราคากลับเมื่อครองตลาดได้แล้ว ไม่มีทางที่บริษัทเอกชนรายใดจะมีสายป่านยาวขาดทุนแข่งกับรัฐบาลจีนซึ่งจัดเก็บรายได้จากคน 1.4 พันล้านคนได้หรอก ในที่สุดอุตสาหกรรมทั่วโลกจึงถูกจีนทำลายโครงสร้างราคาและเจ๊งกันไปหมด
วิธีนี้ไม่ใช่นวัตกรรมหรือเป็นวิธีที่ประเทศอื่นไม่รู้จักหรือไม่ฉลาดเท่าจีนจึงไม่ทำแต่อย่างใด แต่เป็นวิธีที่เรียกว่าการทุ่มตลาดหรือ dumping ซึ่ง WTO เขาห้ามประเทศสมาชิกทำมาตั้งนานแล้ว ประเทศสมาชิก WTO จะต้องแข่งขันกันอย่างยุติธรรม เอกชนแข่งกับเอกชน ไม่ใช่เอารัฐบาลยักษ์ใหญ่มาแข่งกับเอกชน และเขาห้ามทำการดัมพ์ราคาหรือการทุ่มตลาด ทุกประเทศจะต้องเป็นตลาดเสรี
แต่ที่ผ่านมา WTO ทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้จีนทำการทุ่มตลาดมาโดยตลอด และให้การยอมรับสถานะของจีนว่าเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเสรี (market economy) รัฐไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวแทรกแซงค้าขายแข่งกับเอกชน
แต่ข่าวใหญ่ที่เกิดขึ้นสัปดาห์นี้คืออียูได้ฟ้อง WTO ว่าจีนได้ทำการทุ่มตลาดจนประเทศอื่นได้รับความเสียหาย และอียูได้รับชัยชนะซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จีนพ่ายแพ้คดีใน WTO และต้องสูญเสียสถานะการได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจแบบเสรี ซึ่งทำให้ตอนนี้ประเทศต่างๆ สามารถตั้งกำแพงภาษีเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดของจีนได้โดยไม่ผิดกฎ WTO แต่อย่างใด
คำถามที่ต้องจับตาคือ ประเทศไทยจะทำอย่างไรบ้างเพื่อตอบโต้การทุ่มตลาดของจีนที่ทำให้ผู้ผลิตไทยล้มหายตายจากไปมากมายในช่วงสิบกว่าปีมานี้ เพื่อแย่งชิงตลาดเรากลับมาบ้าง
หรือจะไม่กล้าทำอะไรเลย?
อ้างอิง
โฆษณา