'แชมป์พรีเมียร์ลีกที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์'
การเป็นแชมป์ว่ายากแล้ว แต่การเป็นแชมป์ในช่วงวิกฤติไวรัสโควิดยิ่งยากกว่า
นี่อาจจะเป็นความในใจของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ที่ในปีนี้พวกเขายังรักษาความสุดยอดโชว์ฟอร์มเหนือเทพด้วยการไล่เก็บแต้มทิ้งห่าง ‘แชมป์เก่า’ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 25 คะแนน ทำเอา เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้แต่เกาหัวแกรก ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายกลายเป็นว่าทุกอย่างกำลังจะพังทลายเพราะไวรัสที่ชื่อว่า ‘โควิด-19’ ซะอย่างนั้น
นายใหญ่ชาวเยอรมันออกมาเปิดเผยเมื่อตอนให้สัมภาษณ์แถลงข่าวความพร้อมในเกมที่จะลงเตะกับ เอฟเวอร์ตัน ในวันอาทิตย์นี้ว่า จริง ๆ แล้วเขากลัวมาก ๆ ว่าฤดูกาลนี้จะถูกประกาศเป็น ‘โมฆะ’ เพราะตอนนั้นเจ้าเชื้อไวรัสลุกลามไปทั่วทั้งโลก และดูยังไงก็ไม่มีทีท่าว่าฟุตบอลจะกลับมาเตะกันได้
การที่พากเพียรก่อร่างสร้างทีมมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งเพิ่งจะเป็นรูปเป็นร่างเมื่อปีที่แล้วที่สามารถคว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ และกำลังจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้นั่นคือ ‘แชมป์พรีเมียร์ลีก’ สมัยแรกซึ่งถือเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปีของสโมสรนั้น ดูเหมือนทุกอย่างที่สร้างมาดูเหมือนกำลังจะพังทลายลงต่อหน้าเพราะคำว่า ‘โมฆะ’ อย่างนั้นหรือ
โชคดีที่ฝันนั้นไม่แหลกสลายลงไปกับตา เมื่อ พรีเมียร์ลีก ประกาศไม่สนเรื่องการ ‘ยกเลิก’ หรือ ‘โมฆะ’ อย่างที่แฟนบอลบางทีมอยากให้เกิดขึ้น แถมทั้ง 20 สโมสรยังมีมติเห็นพ้องต้องกันว่าฟุตบอลต้องกลับมาเตะอีกครั้งให้ได้ เพียงแค่รอเวลาที่เหมาะสม
และวันนี้ก็มาถึง
ความกังวลของ เยอร์เก้น คล็อปป์ หายไป กลายเป็นการก้มหน้าก้มตาทำงานหนักเพื่อในอีก 9 นัดที่เหลือขุนพล หงส์แดง จะได้ชื่อว่าเป็นแชมป์กับเขาเสียที
99 เปอร์เซ็นต์เชื่อว่า ลิเวอร์พูล นั้นได้แชมป์แน่ ๆ แต่ก็มีเสียงค่อนขอดตามมาเหมือนกันว่า การได้แชมป์ครั้งนี้ของพวกเขานั้นมัน 'ไม่สง่างาม’ หรือ ‘ไม่ปกติ’ เหมือนชาวบ้านชาวช่องเขาซักเท่าไหร่ จนอาจจะต้อง ‘กาดอกจัน’ เป็นหมายเหตุเอาไว้
เพราะพวกเขาต้องลงเล่นท่ามกลางสนามที่ไร้คนดูและความหวาดระแวงต่อไวรัส ซึ่งใครบางคนบอกว่าดูแล้วมันกร่อย ๆ ไม่ค่อยสมศักดิ์ศรี แถมอาจจะเป็นแชมป์ที่โดนจดจำไปชั่วลูกชั่วหลานว่ากว่าจะได้มาก็เกือบต้อง ‘โมฆะ’ ตั้งหลายหน
หลายคนคิดแบบนั้น แต่กับ เยอร์เก้น คล็อปป์ แล้วเขากลับมองว่านี่คือการเป็น ‘แชมพรีเมียร์ลีกที่ยากที่สุดในประวัติศาสตร์’ และยินดีที่จะให้ ‘กาดอกจัน’ เอาไว้เลยว่ากว่าจะได้มานั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
“ปกติแล้วผมไม่ค่อยได้ให้ความสนใจมากนักว่าคนอื่น ๆ จะคิดอย่างไรกับพวกเรา ตอนนี้ผมมีเวลาอ่านข่าวมากขึ้นและได้ยินได้เห็นอะไรมากมาย เมื่อมันมีข่าวออกมา ผมเลยไปลองเสิร์ชหาไอ้คำว่า ‘asterisk (ดอกจัน)’ นี้ดู เพราะผมรู้จักคำนี้มาจากการ์ตูนเท่านั้น”
“นี่คือปีที่ยากที่สุดและเป็นซีซันที่เราจะเป็นแชมป์ มันเป็นฤดูกาลที่วุ่นวายเหลือเกินซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ใครก็ตามที่ได้เป็นแชมป์ในท้ายที่สุดแล้วก็จะได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ เพราะนี่คือปีที่เราจะไม่มีวันลืม เพราะเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นแบบนี้แค่ปีเดียวในฐานะของมนุษย์และคนคนหนึ่งของสังคม เพราะเราหวังว่าจะหาวิธีที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้ในอนาคต”
“ใส่ดอกจันให้เราเลย ใช่ ทำเลย เพราะมันเป็นซีซันที่ยากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และสิ่งที่แตกต่างก็คือช่องว่างระหว่างคะแนนของพวกเรากับทีมอื่น ๆ แต่ถ้าคุณได้เห็น ซิตี้ เล่นเมื่อคืนก่อน ได้เห็นผู้เล่นบนม้านั่งสำรองและการเปลี่ยนตัว 5 ครั้งของพวกเขา ซึ่งพวกเขาไม่มี เลรอย ซาเน อยู่ในสนามด้วยซ้ำ คุณจะคิดว่า ‘ว้าว มันน่าประทับใจมาก ๆ’ นั่นแหละคือคู่แข่งของเรา”
“นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการหาทางลงให้กับฤดูกาลนี้ ผมรู้สึกเครียดเล็กน้อยในช่วงที่ล็อคดาวน์ แต่ตอนนี้มันจบแล้วและเราอยู่ที่นี่ เราทำงานหนักเพื่อสิ่งนี้และเราไม่ต้องการที่จะให้ซีซันมันจบลงด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง”
“เราต้องการเล่นฟุตบอล ไม่ต้องมีใครมาบอกเราว่าเราใกล้จะคว้าแชมป์แล้ว ผมไม่ได้อยากรู้ว่าเราใกล้ขนาดไหน ผมสนใจแค่ว่าอยากจะเล่นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เราสามารถจะทำได้แค่นั้น”
“สิ่งที่ผู้คนข้างนอกคิดกันผมไม่สนใจหรอก แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้นและเราได้เป็นแชมป์ เราก็สามารถบอกกับทุกคนได้ว่ามันเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากที่สุดและพิเศษสุด ๆ เราไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ แต่สำหรับกรณีนี้อย่างน้อยเราก็สามารถพูดได้ว่านี่คือสิ่งที่พิเศษที่สุด"
"นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงมีความสุขกับการมีดอกจันเล็ก ๆ ตรงชื่อทีมเรา”
YNWA
#myliverpoolthailand #YNWA #LIVERPOOLFC #thekop #ลิเวอร์พูล #เดอะค็อป #หงส์แดง #เด็กหงส์
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
